ทำเนียบ 23 มิ.ย.-เลขาฯ สมช. เผย 1 ก.ค.นี้ คลอดแผนเร่งด่วน รับมือวิกฤติพลังงาน-อาหาร ยันเป็นหน้าที่ที่ต้องดูแล ไม่เกี่ยวฝ่ายการเมืองวิจารณ์ นายกฯ ไม่ไว้ใจรัฐมนตรีพลังงาน
พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงกรณีได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้เตรียมการหารือเรื่องความมั่นคงด้านพลังงานและอาหาร หลังสถานการณ์โควิด-19 และเหตุความรุนแรงระหว่างประเทศ ส่งผลกระทบต่อเศษฐกิจโลกว่า วิกฤติโควิดและความรุนแรงระหว่างรัสเซียกับยูเครน ส่งผลกระทบต่อเศษฐกิจทั่วโลก ก่อให้เกิดเงินเฟ้อ สินค้าราคาแพง พลังงานราคาสูง ซึ่งหน่วยงานทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการแก้ไขมาอย่างต่อเนื่อง
พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นห่วงคือการเตรียมความพร้อมรองรับอนาคต โดยเบื้องต้นการประเมินสถานการณ์ถือเป็นหน้าที่ของ สมช.อยู่แล้ว ที่ต้องมาคิดว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยมีอะไรบ้าง นี่เป็นเจตนารมณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งสั่งให้ตนดำเนินการ โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านเศรษฐกิจเข้ามาหารือแล้ว และจะนำข้อมูลทั้งหมดมารวมกันเพื่อประเมิน สรุปเป็นแผนสำหรับอนาคต ทั้งระยะเร่งด่วน ระยะปานกลาง และระยะยาว
โดยระยะเร่งด่วน เราจะดูภาวะเงินเฟ้อ เศรษฐกิจชะลอตัวและถดถอย มีผลกระทบกับประชาชนอย่างไร ซึ่งถือเป็นความมั่นคงทางด้านพลังงานและอาหาร ทั้งนี้ปัจจัยที่เกี่ยวข้องแบ่งเป็นสองส่วนหลัก คือ ผู้บริโภคกับผู้ผลิต โดยเราต้องร่วมมือกับภาคเอกชนด้วย ระหว่างนี้กำลังพูดคุยเพื่อจัดระบบ ติดตามประเมินผลและทำข้อเสนอแนะให้รัฐบาล ทั้งนี้คาดว่าจะมีข้อสรุปออกมาวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ หากไม่มีปัจจัยอะไรเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ รูปแบบการทำงานของ สมช.จะไม่อยู่เหนือกระทรวงพลังงาน และเป็นการทำงานคู่ขนาน เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำข้อมูลให้รัฐบาล และไม่ทับซ้อนกับ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์)
“สมช.มาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างไร ผมทำงานภายใต้ สมช. ผมเป็นเลขาฯ สมช. และเป็นประธานคณะกรรมการเตรียมพร้อมแห่งชาติ ไม่ว่าจะเกิดประเด็นอะไรที่กระทบความมั่นคง คณะกรรมการชุดนี้สามารถหยิบยกขึ้นมาดำเนินการได้ อนาคตอาจมีการตั้งอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อติดตามและทำข้อเสนอให้รัฐบาล” พล.อ.สุพจน์ กล่าว
เมื่อถามว่า สมช.จะเสนอกฎหมายอะไรหรือไม่ เพราะที่ผ่านมากระทรวงพลังงานขอความร่วมมือเอกชนไม่ได้ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า เสนอเป็นแนวทางได้ แต่ทุกอย่างต้องดำเนินการภายใต้กฎหมายที่มี และอำนาจตามกระทรวงที่รับผิดชอบ
ส่วนจะเสนอใช้ พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 หรือไม่ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า พ.ร.บ.ความมั่นคงจะใช้เมื่อมีความจำเป็น ซึ่งน่าจะอยู่ในแผน
เมื่อถามว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ออกมาระบุว่านายกรัฐมนตรีไม่ไว้ใจนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จึงต้องให้ สมช.มาดูเรื่องนี้ใช่หรือไม่ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่เรื่องดังกล่าวถือเป็นหน้าที่ของ สมช.อยู่แล้ว ถึงแม้จะยังไม่กระทบถึงเส้นที่เรามองว่ากระทบความมั่นคง นายกฯ มีนโยบายให้เตรียมความพร้อม.-สำนักข่าวไทย