รัฐสภา 17 มิ.ย.-“มงคลกิตติ์” ย้ำถอนตัวคดีแตงโม 100% ปล่อยกระบวนยุติธรรมเดินหน้าต่อ เผย กมธ.ป.ป.ช. ยังไม่ได้เรียกแจง หลัง “ทนายเดชา” ยื่นสอบจริยธรรม ชี้เทปบันทึกเสียงใช้เป็นหลักฐานไม่ได้ มองทะเลาะข่มขู่เป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ได้ปฏิบัติ
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงยืนยันถอนตัวจากการทำคดี น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม 100% ว่าการตัดสินใจถอนตัวทำให้ตนคลายความกังวล เพราะจะได้ไม่ต้องทะเลาะกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และเป็นการปลดสนุกเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมเคลื่อนต่อไปได้
ส่วนกรณีที่นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา ยื่นสอบจริยธรรม ขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างไร นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า เรื่องที่ทนายเดชาร้องจริยธรรมตน ถ้ามีมูลเหตุ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎรที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยเป็นประธาน กมธ. จะต้องส่งไปที่คณะกรรมการจริยธรรมที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธาน
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจาก กมธ.ป.ป.ช. เนื่องจากต้องสืบโจทย์ให้สิ้นกระแสความก่อน ว่าตนกระทำผิดขณะปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ มีการแทรกแซงในกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ ถ้าสรุปแล้วไม่มีการแทรกแซงก็จบ ส่วนการนำพยานหลักฐานในส่วนการอัดเทปบันทึกการสนทนา ถ้าเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการเรื่องทุจริตสามารถนำข้อมูลไปใช้ได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัว ตามกฎหมายเคยมีคำพิพากษาศาลฎีกาแล้วว่าไม่สามารถนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ ทั้งในชั้นพนักงานสอบสวนศาลและ กมธ.ป.ป.ช.ด้วย ดังนั้น คณะ กมธ.ฯ ต้องดูว่าหลักฐานนี้ได้มาโดยสุจริตหรือไม่ เพราะถ้าเป็นเอกชนคุยกับเอกชน โดยที่ไม่ใช่เรื่องอำนาจหน้าที่ก็จะไม่สามารถดำเนินการต่อได้
“การทะเลาะเบาะแว้งกันในสภาฯ ยกตัวอย่างตอนที่ พล.อ.เสรีพิศุทธ์ อภิปรายกับนายกรัฐมนตรี พูดถึงเรื่องปืนก็คล้ายกัน คือเรื่องของคำพูดแต่ไม่ได้ปฏิบัติ การที่ ส.ส.ขัดแย้งกันก็มีมาตลอดเป็นเรื่องปกติ เป็นแค่คำพูดไม่สุภาพ การข่มขู่ด้วยคำพูดก็มีเพียงโทษปรับและจำคุก ซึ่งเป็นคดีลหุโทษ” นายมงคลกิตติ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย