รัฐสภา 16 มิ.ย.-“ขจิตร” โวยลั่นสภาฯ เผด็จการครอบงำ หลัง “พล.ต.อ.ชัชวาลย์” ส่งสัญญาณให้คืนเนื้อหาเดิม ก่อนเสียงข้างมากโหวตตัดสิทธิ์ตำรวจชั้นผู้น้อย ร่วมโหวตเลือกก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ บรรยากาศส่อวุ่น ทำ “พรเพชร” ต้องสั่งพักประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานการประชุมรัฐสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ…. ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ ที่มีพล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ส.ว.ในฐานะรองประธานกมธ.ทำหน้าที่ประธานกมธ.พิจารณาแล้วเสร็จ ในวาระสอง ต่อเนื่องในมาตรา 17 ซึ่งกมธ.แก้ไขให้สิทธิข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อยเลือกกรรมการข้าราชการตำรวจ ในส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิ โดยระบุถ้อยคำว่า ให้ข้าราชการตำรวจทั้งที่มียศและไม่มียศ ซึ่งตำแหน่งตั้งแต่ผู้บังคับหมู่หรือเทียบเท่าขึ้นไปเป็นผู้เลือก
การอภิปรายของกมธ.ที่สงวนความเห็น ระบุว่า การแก้ไขมาตราดังกล่าวมีความพยายามจะแก้ไขให้กลับไปใช้เนื้อหาเดิมที่รัฐสภารับหลักการ โดยนายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะกมธ. อภิปรายว่า เดิมการเขียนร่างกฎหมายที่ให้เฉพาะนายตำรวจใหญ่ 5,000 นายเป็นผู้เลือกก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ แต่ตนเสนอให้แก้ไขให้ข้าราชการตำรวจทั้งหมดที่มีตัวตนอยู่ 2.1 แสนนาย และให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการเลือกตั้ง ซึ่งตามที่ประสานงาน กกต. ยินดีจะดำเนินการให้ ทั้งนี้ เพื่อความเป็นประชาธิปไตยและผู้ทรงคุณวุฒิใน ก.ตร. จะมีความผูกพัน แต่มีข่าวที่น่าเสียใจ คือ มีกลุ่มบุคคลให้โหวตคืน
พล.ต.อ.ชัชวาลย์ ชี้แจงขอหารือก่อนการลงมติ 2 ประเด็น กมธ.ฯ เสียงข้างมากเพิ่มถ้อยคำ 2 จุด คือ กรรมการข้าราชการตำรวจสอดคล้องกับมาตราอื่น ๆ เพื่อไม่ซ้ำซ้อนกับกรรมการตำรวจนโยบายแห่งชาติและข้าราชการตำรวจทั้งที่มียศและไม่มียศ ที่ขยายสิทธิเป็นผู้เลือกก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ หากลงมติกลับสู่ร่างเดิม ถ้อยคำดังกล่าวจะมีผลกระทบ ดังนั้น ต้องหาทางว่าจะให้คำ 2 คำอยู่ในร่างมาตรา 17 ส่วนการลงมติอย่างไรขึ้นอยู่กับสมาชิก ทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตจากคำพูดของพล.ต.อ.ชัชวาลย์ ว่า การลงมติจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อหา โดยคืนเนื้อหาเดิม จนกระทั่งถึงการลงมติ ผลปรากฎว่า เสียงข้างมาก 255 เสียงไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขของกมธ. และให้กลับไปใช้ตามเนื้อหาเดิม ต่อ 147 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง
ทั้งนี้ กมธ.เสียงข้างน้อยที่ไม่เห็นด้วยอภิปรายโต้แย้งและมองว่าจะทำให้การใช้กฎหมายในอนาคตมีปัญหาใหญ่ได้ โดยนายสาทิตย์ วงศ์ หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ฐานะกมธ. อภิปรายว่า หากเนื้อหาของมาตรา 17 กลับไปตามร่างเดิม จะทำให้ถ้อยคำว่าการเลือกกรรมการข้าราชการตำรวจ เหลือเพียงการเลือกกรรมการเท่านั้น โดยอาจจะกระทบกับมาตราอื่น ที่มีการแก้ไขถ้อยคำ และอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่
นายพรเพชร กล่าวว่า เป็นเรื่องที่กมธ.ปรึกษาหารือและแก้ไขตามกระบวนการนิติบัญญัติของรัฐสภา ตนชี้แจงไม่ได้ เพราะจะชี้นำและจะเป็นการโต้แย้งสมาชิกรัฐสภา จากนั้น ที่ประชุมเข้าสู่การพิจารณามาตรา 18 โดยนายพรเพชร กล่าวว่า มาตรา 18 มีการแก้ไขและจะกระทบกับมาตรา 17 ขอให้กรรมาธิการฯ พิจารณาว่าจะแก้ไขอย่างไร
ทั้งนี้ ก่อนจะเข้าสู่การอภิปรายของสมาชิก นายขจิตร ประกาศกลางห้องประชุมรัฐสภาว่า ไม่ขออภิปรายตามที่สงวนไว้ และตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปขออนุญาตหัวหน้าพรรคและวิปไม่ร่วมสังฆกรรมกับการประชุมที่บิดเบี้ยว ทำให้เกิดปัญหา เพราะมติที่ผ่านไปในมาตรา 17 สะท้อนว่าอำนาจเผด็จการครอบงำรัฐสภาแห่งนี้ ทำให้นายพรเพชร สั่งพักประชุมเพราะมองว่ากมธ.ควรแก้ไข เนื่องจากมีประเด็นที่คาดไม่ถึงและกระทบมาตรา 18 เนื่องจากมีข้อความเชื่อมโยงกับมาตรา 17 เพราะมาตรา 18 เป็นวิธีการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลับมาประชุมอีกครั้ง พล.ต.อ.ชัชวาลย์ ชี้แจงว่าจะเสนอแก้ไขในชั้นกรรมาธิการฯผ่านวาระสองแล้ว เพราะสามารถแก้ไขถ้อยคำได้ก่อนลงมติวาระสาม แต่ถูกโต้แย้งจาก ส.ส.พรรคฝ่ายค้านว่าไม่สามารถทำได้ เพราะถ้อยคำที่จะเพิ่มนั้นคือ เนื้อหา แต่การแก้ไขถ้อยคำหลังผ่านวาระสองนั้น หมายถึงการเติมคำตกหล่น เช่น และ หรือ เป็นต้น นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายเสนอให้พักการพิจารณาและให้กมธ.นำไปแก้ไขก่อนเสนอต่อรัฐสภาอีกครั้ง และระหว่างนั้นให้นำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.(ฉบับที่…) พ.ศ…พิจารณา แต่ถูกโต้แย้ง ก่อนที่นายพรเพชรจะวินิจฉัยให้เดินหน้าประชุมในมาตรา 18 ต่อไป.-สำนักข่าวไทย