รัฐสภา 14 มิ.ย.- “ศุภชัย” ซัดสื่อบางสำนักบิดเบือน ร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ทำประชาชนเข้าใจผิด ย้ำ ปลูกที่บ้าน ใช้ในครัวเรือน จดแจ้งฟรี
นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อและนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊ก Suphachai Jaismut พร้อมภาพรายการจากสำนักข่าวช่องหนึ่ง พร้อมเขียนข้อความ ระบุว่า มีประชาชนส่งคำถามว่าสรุปแล้วถ้าประชาชนจะปลูกกัญชาต้องเสียค่าใบอนุญาตอย่างนั้นหรือ ตนได้ฟังคำถามก็ตกใจ จึงถามกลับว่าเอาข้อมูลมาจากไหน ปรากฏว่าชาวบ้านส่งลิ้งก์รายการหนึ่งมา เมื่อตนไปนั่งดูพบว่าการนำเสนอนั้นเป็นไปลักษณะของถูกครึ่ง ผิดครึ่ง เพราะทำให้สังคมเข้าใจผิดร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง และนโยบายพรรคภูมิใจไทย
“ในรายการมีความพยายามสื่อสารว่าเราวางเงื่อนไข จนประชาชนเข้าไม่ถึงการปลูก เพราะกฎหมายกำหนดค่าใบอนุญาตสูงถึง 5 หมื่นบาท ฟังมุมไหนก็เหมือนว่า นโยบายกัญชามีล็อกมากมาย ประชาชนไม่มีทางเข้าถึง ผมฟังแล้วก็ต้องร้องอุบ๊ะ แล้วต้องออมาชี้แจงว่ามันไม่ใช่” นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย กล่าวว่า เรื่องการปลูกการใช้นั้น ในพ.ร.บ.ระบุไว้ชัดเจน 2 ประเด็นคือการใช้ในครัวเรือนและการใช้ในเชิงอุตสาหกรรม ซึ่งเรื่องนี้ตนและพรรคภูมิใจไทยอธิบายหลายครั้งแล้ว กฎหมายฉบับนี้แบ่งการใช้กัญชาเป็น 1. ใช้ในครัวเรือน อยู่ที่หมวด 4 เขียนว่าการจดแจ้งและการรับจดแจ้งการใช้ประโยชน์จากกัญชา กัญชง ในครัวเรือน สาระสำคัญคือถ้าจะปลูกที่บ้าน ใช้ในครัวเรือน ขอให้ไปจดแจ้งฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย หลังจากนี้จะเอาไปต้มไก่ ต้มชา ผสมอาหารจำหน่ายอย่างไรก็ตาม แต่ขอให้เป็นการปลูกใช้ในครัวเรือน
นายศุภชัย กล่าวว่า 2. ใช้ในเชิงพาณิชย์ อุตสาหกรรม อยู่ที่ หมวด 3 เรื่องการขออนุญาตและการอนุญาต สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการปลูกและขายกัญชา กัญชง ในเชิงพาณิชย์ อุตสาหกรรม ซึ่งจะต้องเสียค่าธรรมเนียมเหมือนการขออนุญาตประกอบธุรกิจอื่น โดยกฎหมายทุกฉบับจะกำหนดว่าใครมีอำนาจเรียกเก็บ ใบอนุญาตแต่ละใบจะเรียกเก็บได้ไม่เกินจำนวนเท่าใด เพื่อความชัดเจนและคุ้มครองการประกอบธุรกิจ
“เรื่องนี้ชี้แจงมาหลายครั้งว่าร่างพ.ร.บ.นี้ให้อำนาจรัฐมนตรีเป็นผู้ประกาศค่าธรรมเนียม แต่จะเรียกเก็บเกินไปกว่าที่กำหนดไว้ในท้ายพระราชบัญญัติไม่ได้ ซึ่งแปลได้ว่ารัฐมนตรีจะออกประกาศยกเว้นหรือเก็บเพียงเล็กน้อยเท่าใดก็ได้ แม้จะเป็นเพียงร่างกฎหมาย แต่ก็ไม่สมควรที่ท่านจะมาบิดเบือน นี่คือเรื่องของสิ่งที่เรียกว่าจรรยาบรรณใช่หรือไม่ ยกเว้นเสียว่า ท่านจะไม่ยึดถือเรื่องนี้แล้ว ผมเองจะได้รับทราบไว้ อย่าทำตัวเป็นสื่อเสื่อม” นายศุภชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย