รัฐสภา 14 มิ.ย.-“โรม” ชี้ต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉินมาแล้ว 18 ครั้ง ถึงเวลาต้องยกเลิก เหน็บเอาไว้ใช้ปราบม็อบไล่รัฐบาล เผยข้อมูลทนายสิทธิ มีคนถูกดำเนินคดีเป็นพันแต่ส่วนใหญ่ยกฟ้อง
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตามพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 ด้วยข้ออ้างว่าเพื่อควบคุมการระบาดของโรค COVID-19 และต่ออายุอีก 18 ครั้ง จนถึงวันนี้(15 มิ.ย.) เป็นเวลาผ่านมาแล้วถึง 2 ปี 2 เดือน 20 วัน ขณะที่สถานการณ์ COVID-19 ณ ปัจจุบัน จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันมีแนวโน้มลดลงเหลือหลักพันต้น ๆ ทุกจังหวัดทั่วประเทศถูกปรับสถานะเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) พื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) และพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (สีฟ้า) หมดแล้ว
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า สถานศึกษา สถานบันเทิง สถานประกอบการให้บริการต่าง ๆ กลับมาเปิดทำการได้แล้ว เริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ รวมถึงเริ่มมีการเตรียมการประกาศให้ COVID-19 เป็นโรคประจำถิ่นในไม่ช้า ซึ่งหากจะยังต้องมีมาตรการใดๆ รองรับ ก็สามารถทำได้ผ่านการใช้กฎหมายปรกติคือ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มากไปกว่านั้นคือประชาชนโดยทั่วไปได้เรียนรู้ที่จะป้องกันตัว สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และตรวจโรคเมื่อมีความเสี่ยงกันเป็นอย่างดีแล้ว
“กลายเป็นว่าตอนนี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีที่ทางของมันจริง ๆ เหลือแค่การเอาไว้จัดการกับผู้ชุมนุมที่ต่อต้านรัฐบาล อย่างการชุมนุมที่แยกดินแดงเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ก็ถูกตำรวจเอามาอ้างเพื่อสลายการชุมนุมและจับกุมดำเนินคดีผู้ชุมนุมอีกครั้ง กับอีกอย่างหนึ่งคือเอาไว้ป้องกันเจ้าหน้าที่ต้องรับผิดจากการใช้อำนาจ ใช้กำลังอาวุธโดยอ้าง พ.ร.ก. นี้” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า จากข้อมูลของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รวบรวมตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2563 ถึง 31 พฤษภาคม 2565 มีการดำเนินคดีทางการเมืองโดยอ้าง พ.ร.ก.ฉุกเฉินถึง 631 คดี มีผู้ถูกดำเนินคดีถึง 1,452 คน แต่ส่วนใหญ่พบว่าศาลยกฟ้องหรืออัยการสั่งไม่ฟ้อง แสดงให้เห็นว่าฝ่ายรัฐบาลจงใจใช้พ.ร.ก. นี้เพื่อหาเรื่องกลั่นแกล้งสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนฝ่ายตรงข้ามเท่านั้นเอง
“วันนี้เริ่มเห็นประชาชนออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกครั้ง และรัฐบาลเริ่มนำพ.ร.ก.ฉุกเฉินมาใช้ยัดคดีประชาชนอีกครั้ง ผมจึงต้องเรียกร้องดัง ๆ อีกครั้งเช่นกันว่าให้ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและข้อบังคับตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินได้แล้ว ไม่มีเหตุผลใดอีกแล้วที่จะต้องคงอำนาจที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนทั้งประเทศ นอกจากเพื่อคุ้มหัวรัฐบาลเอง” โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าว.-สำนักข่าวไทย