มูลนิธิป่ารอยต่อฯ 10 มิ.ย. –“พล.อ.ประวิตร” ประชุมขับเคลื่อนแผนแม่บทฯ น้ำ20 ปี – โครงการขนาดใหญ่ อนุมัติแผนกำจัดน้ำเสียบึงมักกะสัน ควบคุมคุณภาพน้ำอุปโภคบริโภค เร่งรัดโครงการน้ำประปาหมู่บ้าน แหล่งน้ำชุมชน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อน แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ ที่ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ซึ่งที่ประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 1/2565 รับทราบผลการดำเนินงานภายใต้แผนแม่บท การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี 6 ด้าน (ช่วงปี 61-ปัจจุบัน) ได้แก่ 1. ด้านการจัดการน้ำอุปโภคบริโภค โดยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ระบบประปาหมู่บ้าน ได้ 4,675 แห่ง (85%) และสามารถขยายเขตการจ่ายน้ำได้ 570 แห่ง (22%)
2. ด้านการสร้างความมั่นคงของน้ำภาคการผลิต สามารถเพิ่มแหล่งน้ำเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ 22.05 ล้าน ลบ.ม.(79%) แหล่งน้ำชุมชน 0.91 ล้าน ลบ.ม. ( 91%) 3. ด้านการจัดการน้ำท่วมและอุทกภัย มีระบบป้องกันชุมชนเมือง 14 แห่ง (32%) มีเขื่อนป้องกันตลิ่ง 188 แห่ง (35%) 4. ด้านการจัดการคุณภาพน้ำและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ มีการก่อสร้างระบบบำบัดใหม่ 12 แห่ง (12%) และ มีการควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษทางน้ำ 1,673 แห่ง (19%) 5. ด้านการฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำที่เสื่อมโทรมและป้องกันการพังทลายของดิน มีการฟื้นฟูป่าต้นน้ำ 156,070 ไร่ (21%) และ 6. ด้านการบริหารจัดการ โดยมีการจัดทำปรับปรุง กฎหมาย องค์กรด้านการจัดการน้ำ แล้วเสร็จ จำนวน 22 ฉบับ เป็นต้น
จากนั้น ที่ประชุมเห็นชอบแผนงานพัฒนาระบบระบายน้ำและจัดการน้ำเสีย บึงมักกะสันแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังและจัดการน้ำเสีย จากถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง และบึงมักกะสันไปจนถึงสนามบินดอนเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมพื้นที่ 81.53 ตร.กม. โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการ 4 ปี (ปี 67-70)
ส่วนการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ ครั้งที่ 2/2565 ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญ เป็นอย่างยิ่งเพราะเมื่อมีน้ำต้นทุน จะทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ส่งผลให้การพัฒนาประเทศมีความเจริญก้าวหน้า ตามยุทธศาสตร์ชาติที่วางไว้ โดยที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ 41 โครงการขนาดใหญ่ (เกิน 1000 ล้านบาท) และ 2 โครงการสำคัญที่ผ่านความเห็นชอบจาก กนช.แล้วและยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะทำงานกลั่นกรองอีก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองพัทยา ระยะที่ 1 โครงการอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด จ.จันทบุรี และโครงการแก้มลิงทุ่งหิน จ.สมุทรสงคราม
ที่ประชุมเห็นชอบโครงการสถานีสูบน้ำดิบพร้อมระบบท่อส่งน้ำ เพื่อรองรับการพัฒนาเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยังยืน จ.ปัตตานี เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถส่งน้ำไปยังพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.หนองจิก, อ.แม่ลาน, อ.โคกโพธิ์ และ อ.เมืองปัตตานี มีพื้นที่ได้รับประโยชน์ 30 ตำบล และมีน้ำประปารองรับประชากรมากถึง 240,000 คน
พล.อ.ประวิตร กำชับให้ผู้รับผิดชอบโครงการ มีการควบคุมคุณภาพน้ำเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน โดยเฉพาะน้ำอุปโภคบริโภค พร้อมเน้นย้ำ สทนช.และทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการต่าง ๆ ให้เร่งรัดดำเนินการตามแผนงาน โดยเฉพาะ น้ำประปาหมู่บ้านและแหล่งน้ำชุมชน ต้องให้ประชาชนมีน้ำใช้ทุกครัวเรือน อย่างเพียงพอ ควบคู่การประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ ซึ่งจะส่งผลให้การพัฒนาประเทศ เจริญก้าวหน้าตามยุทธศาสตร์ชาติ ของรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย