เผยเหตุ อสส.สั่งไม่ฟ้องคดีอาญา

กรุงเทพฯ 9 มิ.ย.-“นิพนธ์” แจงปมสัญญาซื้อขายรถซ่อมบำรุงทาง ยันการพิจารณาทางแพ่งนำมาใช้ทางอาญาไม่ได้ เผยเหตุอสส.สั่งไม่ฟ้องคดีอาญา ป.ป.ช.ชี้แจงความไม่สมบูรณ์ของสำนวนไม่ได้ ขณะผู้ตรวจรับรถฯ ไม่มีอำนาจตรวจรับ


นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงกรณีเรื่องข้อพิพาทสัญญาซื้อขายรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา หลังศาลปกครองสูงสุดอ่านคำพิพากษาว่า 1. การประมูลจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทาง ของ อบจ.สงขลานั้นมีทั้งหมด 3 ครั้ง คือครั้งที่ 1 ประมุลจัดซื้อ 1 คัน เมื่อเดือน กรกฎาคม 2555 (สมัยนายอุทิศ ชูช่วย อดีตนายก อบจ.สงขลา) ครั้งที่ 2 ประมูลจัดซื้อ 1 คัน เมื่อเดือน กันยายน 2555 (สมัยนายอุทิศ ชูช่วย อดีตนายก อบจ.สงขลา) ครั้งที่ 3 ประมูลจัดซื้อ 2 คัน เมื่อเดือน พฤษภาคม 2556 (สมัยนายอุทิศ ชูช่วย อดีตนายก อบจ.สงขลา)

“2. นายนิพนธ์ บุญญามณี เข้ารับตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา เมื่อเดือนตุลาคม 2556 เป็นช่วงเดียวกับที่มีการส่งมอบรถซ่อมบำรุงทาง ของการจัดซื้อครั้งที่ 3 จำนวน 2 คัน ที่จัดซื้อตั้งแต่สมัยนายอุทิศ ชูช่วย เป็นนายกอบจ. 3. มีการร้องเรียนไปยัง ผวจ.สงขลา และ นายกอบจ.สงขลาว่าการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางในครั้ง 3 นั้น มีการปลอมเอกสาร และ มีการฮั้วประมูล ทางผวจ.สงขลา จึงแจ้งมายังองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในข้อร้องเรียนดังกล่าว และนายนิพนธ์ บุญญามณี ที่รับตำแหน่งนายกอบจ.สงขลาช่วงนั้นจึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้ชะลอการจ่ายเงินให้แก่ผู้ชนะการประมูล” นายนิพนธ์ กล่าว


นายนิพนธ์ กล่าวว่า 4. ในระหว่างคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ดำเนินการตรวจสอบอยู่นั้น บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด (ผู้ชนะการประมูล) ได้ร้องต่อศาลปกครองสงขลา ให้ อบจ.สงขลาชำระเงินค่ารถซ่อมบำรุงทาง 5. ศาลปกครองสงขลา ได้ตัดสินให้ อบจ.สงขลา ชำระเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด พร้อมดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม อบจ.สงขลา ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ซึ่งศาลปกครองสูงสุดได้นัดอ่านคำพิพากษาวันนี้คือ 9 มิถุนายน 2565 ให้ อบจ.สงขลา ชำระค่ารถซ่อมบำรุงทางให้แก่ผู้ชนะการประมูลพร้อมดอกเบี้ย 6. ผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงพบว่า มีการฮั้วประมูลจริง ในการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางครั้งที่ 3 และนายนิพนธ์ บุญญามณี ก็ได้ให้ อบจ.สงขลา แจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง ณ สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลาแล้ว

“7. เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564 สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา ได้สรุปสำนวนการสอบสวนเสร็จสิ้น มีความเห็นควรสั่งฟ้องบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด โดยนายอิทธิพล ดวงเดือน (ผู้ชนะการประมูล) และนางสาวศศิธร ตั้งตรงคิด กรรมการบริษัท เอส พี เค ออโต้ เทค จำกัด (บริษัทคู่เทียบประมูล ในความผิดฐาน ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอมตกลงร่วมกันในการเสนอราคาเพื่อวัตถุประสงค์จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานรัฐ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมหรือโดยกีดกันมิให้มีการเสนอสินค้าหรือบริการอื่นต่อหน่วยงานรัฐหรือโดยเอาเปรียบหน่วยงานรัฐอันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 264 และ268 และตาม พ.ร.บ ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 4, 14 (2) และมาตรา 14 วรรคสาม และอยู่ระหว่างส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการดำเนินคดีต่อไป” นายนิพนธ์ กล่าว

นายนิพนธ์ กล่าวว่า 8. ต้องหาได้ร้องขอโอนสำนวนการสอบสวนจาก สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา ไปยังกองบังคับการปราบปราม เพื่อทำการสอบสวนแทน และเมื่อวันที่ 9 ก.ย.64 กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ได้สรุปสำนวนการสอบสวนว่าผู้ต้องหากับพวกในคดีนี้ได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหาจริง และได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยัง คณะกรรมการ ป.ป.ช. และจนถึงบัดนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ก็ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา 9. นอกจากการประมูลจัดซื้อรถครั้งที่ 3 นั้น อบจ.สงขลา และ นายนิพนธ์ บุญญามณี ยังพบพยานหลักฐานว่า การประมูลจัดซื้อครั้งที่ 1 และ 2 สมัยนายอุทิศ ชูช่วย นั้น ก็มีการกระทำความผิดในลักษณะเดียวกับการจัดซื้อครั้งที่ 3(คือมีการฮั้วฯ) เพราะเป็นกลุ่มเอกชนกลุ่มเดียวกัน จึงได้แจ้งความดำเนินคดี กับผู้ที่เกี่ยวข้องเช่นกัน สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา


“10. เมื่อวันที่ 23 ส.ค.64 สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา ได้สรุปสำนวนการสอบสวนพบว่ามีพยานหลักฐานเชื่อว่าในการประมูลครั้งที่ 1 และ 2 นั้น ผู้ต้องหา อันได้แก่ บริษัทพลวิศว์ เทค จำกัด (ผู้ชนะการประมูล ครั้งที่ 1) โดยนายอิทธิพล ดวงเดือน, หจก.เพลิโอนี (ผู้ชนะการประมูลครั้งที่ 2) โดยนายอิทธิพล ดวงเดือน และบริษัทคู่เทียบทุกรายในการประมูล ได้ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม ตกลงร่วมกันในการเสนอราคาเพื่อวัตถุประสงค์จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานรัฐ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมหรือโดยกีดกันมิให้มีการเสนอสินค้าหรือบริการอื่นต่อหน่วยงานรัฐหรือโดยเอาเปรียบหน่วยงานรัฐอันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติ เป็นเหตุให้ อบจ.สงขลาได้รับความเสียหาย และได้ส่งเรื่องต่อไปยัง คณะกรรมการ ป.ป.ช เพื่อดำเนินการต่อไป 11. ต่อมาเมื่อวันที่ 12 เม.ย.65 นั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ส่งสำนวนการสอบสวน ของการจัดซื้อครั้งที่ 1และ 2 กลับมายัง สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับกลุ่มเอกชนต่อไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาต่อไป และขณะนี้ พนักงานสอบสวนก็ได้อยู่ระหว่างส่งตัวผู้ต้องหาไปยังพนักงานอัยการ” นายนิพนธ์ กล่าว

นายนิพนธ์ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป.ป.ช.ชี้มูลความผิดที่นายนิพนธ์ไม่อนุมัติจ่ายเงินให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ผู้ขาย ซึ่งข้อเท็จจริงคือ 1. คณะกรรมการ ป.ป.ช ได้ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดดำเนินคดีอาญากับนายนิพนธ์ บุญญามณี แต่อัยการสูงสุดได้ชี้ข้อไม่สมบูรณ์ของสำนวนคดีที่ป.ป.ช.ทำมาใน 16 ประเด็น และได้ตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างผู้แทนฝ่ายอัยการสูงสุด และผู้แทนฝ่ายคณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่ผู้แทนฝ่ายคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่สามารถชี้แจงข้อไม่สมบูรณ์ของสำนวนคดีได้ตามที่อัยการสูงสุดระบุความไม่สมบูรณ์ของสำนวนที่ป.ป.ช.ทำมาได้ อัยการสูงสุดจึงมีคำสั่งไม่ฟ้องนายนิพนธ์ บุญญามณี และได้คืนสำนวนกดีกลับให้แก่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไปแล้วเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2565

“การพิจารณาในวันนี้เป็นเรื่องเดิมที่มีมาก่อนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคกก.ตรวจฯก็สรุปความเห็นว่าบริษัทพลวิศว์ฯ ทำผิดพ.ร.บ.ฮั้วจริง ซึ่งเป็นการพิจารณาในทางแพ่งไม่เกี่ยวข้องกับการพิจาณาในคดีอาญา และโดยหลักการพิจารณาทางแพ่งจะนำมาใช้กับการพิจารณาทางอาญาไม่ได้ แต่ทางอาญาสามารถนำไปปรับเข้ากับการพิจารณาทางแพ่งได้ ซึ่งกรณีนี้มีความย้อนแย้งกันกัน ขณะเดียวกัน กองปราบปรามก็ได้สรุปสำนวนแล้วว่า บริษัทพลวิศว์ได้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วฯ และส่งสำนวนไปให้ป.ป.ช.ได้พิจารณาเพิ่มเติม ประกอบกับในสำนวนที่ป.ป.ช.ทำไปยังอัยการสูงสุดเพื่อยื่นฟ้องนั้น ขณะนี้อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง และได้ส่งสำนวนกลับไปยังป.ป.ช.แล้ว อีกทั้ง ได้ร้องขอความเป็นธรรมไปยังป.ป.ช.ให้พิจารณาเพิ่มเติมว่า นอกจากมีการฮั้วกันแล้ว การตรวจรับรถอเนกประสงค์ทั้ง 2 คัน ผู้ตรวจรับไม่มีอำนาจในการตรวจรับ จึงถือเป็นการตรวจรับโดยมิชอบ” นายนิพนธ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ยิงดับ 2 ศพ คาวัดดังย่านเพชรเกษม

10 ก.ค.- ลูกเจ้าของโรงเรียนคลั่งยา ชักปืนยิงดับ 2 ศพ คาวัดดังย่านเพชรเกษม ตำรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว เกิดเหตุยิงกันเสียชีวิต 2 คน โดยบริเวณข้างโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซ.เพชรเกษม 20 พบ 1 ศพ เป็นหญิง และบริเวณข้างวัดแห่งหนึ่ง แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ พบอีก 1 ศพเป็นผู้ชาย เบื้องต้นจากการสอบถามเพื่อนบ้าน คาดผู้ก่อเหตุมีอาการคลั่งยา หลอนฝันว่าผู้ตายรายแรกที่เป็นหญิงทำคุณไสยใส่ จึงเดินไปใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่กกหู ขณะที่กำลังซักผ้าเสียชีวิตทันที หลังจากนั้นเดินออกมาหน้าวัด พบนายติ่ง จึงใช้ปืนกระบอกเดียวกัน ยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิตคาที่เป็นศพที่ 2 ขณะนี้ตำรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว เป็นลูกเจ้าของโรงเรียนใกล้เคียงกับวัดดังกล่าว ถูกนำตัวไปสอบสวนที่ สน.ภาษีเจริญ – สำนักข่าวไทย

หนึ่งเดียวในโลก! ทำบุญตักบาตรบนหลังช้างสุรินทร์

สุรินทร์ 10 ก.ค.- สุรินทร์จัดยิ่งใหญ่! ทำบุญตักบาตรบนหลังช้าง เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ประจำปี 2568 ยิ่งใหญ่หนึ่งเดียวในโลก ประชาชนและนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ หลั่งไหลร่วมทำบุญตักบาตรบนหลังช้างสุรินทร์ เนื่องในวันอาสาฬหบูชา และเข้าพรรษา ประจำปี 2568 บริเวณลานหน้าอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีพระสงฆ์ สามเณร 64 รูป นั่งรับบิณฑบาตบนหลังช้างแสนรู้ และช้างงายาว 64 เชือก โดยนำอัฒจันทร์เหล็กมาตั้งรอบอนุสาวรีย์ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนมายืนใส่บาตรข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อความเป็นสิริมงคล ช้างที่มีพระสงฆ์นั่งบนหลังจะเดินเข้าไปรับบาตร. – สำนักข่าวไทย

บุกจับแอดมินแอปฯ ดัง นำเด็กไลฟ์แสวงหาประโยชน์

ร้อยเอ็ด 10 ก.ค.- มท.1 ลุยต่อ สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำหมายศาลบุกจับแอดมินกลุ่มแอปฯ ดัง นำเด็กมาเปลือยไลฟ์ออนไลน์แสวงหาประโยชน์ พร้อมช่วย 2 เด็กสาวเหยื่อค้ามนุษย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ กรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “Discord disconnected” จับกุมหนุ่มนำเด็กสาวมาเปลือยไลฟ์สดออนไลน์หารายได้ โดยนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง ร่วมกับนายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พล.ต.ต.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด นายพุทธภูมิ นาชัยเริ่ม นายอำเภอธวัชบุรี สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด นายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ และนายศักดิ์ชัย โรจนรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง พ.ต.อ. ภาสกร หินเธาว์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรธวัชบุรี นำทีมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองร่วมเข้าแสดงหมายค้นหมายจับของศาลจังหวัดร้อยเอ็ด จับกุมหนุ่ม นำเด็กมาเปลือยไลฟ์สดออนไลน์หารายได้ พร้อมตรวจค้นบ้านเพื่อหาพยานหลักฐานในพื้นที่อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด สืบเนื่องจากกรมการปกครอง […]

กรมอุตุฯ เตือน 6 จังหวัดรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 10 ก.ค.- กรมอุตุฯ เตือน 6 จังหวัด บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร จันทบุรี และตราด รับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทย โดยเฉพาะในบริเวณจังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 11-13 ก.ค. ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากจะมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน […]