ทำเนียบฯ 2 มิ.ย.-ศบค. ระบุสถานการณ์โควิดในประเทศดีขึ้น แต่หลังผ่อนคลายมาตรการ “เข้าประเทศ-เปิดสถานบันเทิง” อาจทำให้ผู้ติดเชื้อเพิ่ม ย้ำยังต้องระมัดระวังป้องกันตัวเอง
แพทย์หญิงสุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการ สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โควิด-19 หลังการผ่อนคลายมาตรการมีผลเมื่อวาน (1 มิ.ย.) ที่ผ่านมา พบว่า การยกเลิก Test&GO ซึ่งทำให้คนไทยแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน ก็สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ ขณะที่ชาวต่างชาติจะต้องผ่านระบบ Vaccine/Test, Insurance และ Passport (VIP/TIP) ก็พบว่าเมื่อวานนี้ (1 มิ.ย.) หลังการปรับรูปแบบ มีนักเดินทางเดินทางเข้าประเทศผ่านทางท่าอากาศยาน 19,767 คน เป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว 19,713 คน และผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีน 54 คน ผู้เดินทางทางบก ผ่าน 34 ด่านชายแดน พบผู้ติดเชื้อ 2 ราย
ส่วนการเปิดสถานบันเทิงในพื้นที่สีเขียวและสีฟ้า ทางผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขก็ได้ไปสุ่มตรวจสถานบันเทิงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อให้ปฏิบัติตามมาตรฐานป้องกันของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะต้องผ่านมาตรฐาน Thai Stop COVIP 2Plus ซึ่งสถานบันเทิงที่เป็นสถานที่ปิดควรต้องมีการตรวจ ATK สัปดาห์ละครั้ง ทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการควรมองหาสัญลักษณ์ TSC2Plus ก่อนเข้าใช้บริการทุกครั้ง ทั้งนี้หลังติดตามหากพบว่าสถานบันเทิงใดไม่ปฏิบัติตามมาตรการ และมีความเสี่ยงอาจถูกสั่งปิดชั่วคราวได้
พญ.สุมนี กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยมีทิศทางและแนวโน้มที่ดีขึ้น ซึ่งการผ่อนคลายกิจกรรม อาจทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม ดังนั้นประชาชนจึงควรระวังและป้องกันตัวเอง รวมทั้งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ส่วนโรงพยาบาลและสถานพยาบาลให้เตรียมความพร้อมโรคโควิด-19 เข้าสู่โรคประจำถิ่น ขณะที่สถานประกอบการไม่ต้องตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ แต่ให้ตรวจเฉพาะ เมื่อมีผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ
พญ.สุมนี กล่าวว่า สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อวันนี้ (2 มิ.ย.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,560 ราย
ติดเชื้อในประเทศ 2,552 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 2 ราย จากเรือนจำและที่ต้องขัง 6 ราย ทั้งนี้ มีผู้หายป่วย 5,605 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 36,192 ราย รักษาในโรงพยาบาล 15,614 ราย รักษาในโรงพยาบาลสนามและอื่น ๆ 20,578 ราย มีอาการหนัก 844 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 417 ราย และในวันนี้มีผู้เสียชีวิต 34 คน ซึ่งเป็นคนไทยทั้งหมด เป็นชาย 23 ราย หญิง 11 ราย
ขณะที่การให้บริการฉีดวัคซีนกลุ่มเป้าหมายหลัก ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ฉีดเข็มที่หนึ่ง ร้อยละ 84.4 ฉีดเข็มที่สอง ร้อยละ 80.3 และฉีดเข็มที่สาม ร้อยละ 44.7 ส่วนเด็กที่มีอายุ 5-11 ปี ฉีดเข็มที่หนึ่งร้อยละ 59 เข็มที่สองร้อยละ 33.7 พญ.สุมนี กล่าวว่า จากนี้ไปการแถลงของ ศบค. ในการรายงานสถานการณ์โควิด-19 จะปรับลดจากทุกวันพฤหัสบดี เหลือเพียงเดือนละสองครั้ง คือพฤหัสเว้นพฤหัส .-สำนักข่าวไทย