รัฐสภา 2 มิ.ย.-“ทนายเดชา” ยื่นกมธ.ป.ป.ช.สอบริยธรรม “มงคลกิตติ์” ลั่น จะทำทุกทางให้หลุดส.ส. ย้ำส.ส.มาเฟียเอาไว้ไม่ได้ ด้าน “พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์” ยันให้ความเป็นธรรม ชี้ เข้าข่ายความผิดอาญาด้วย
นายเดชา กิตติวิทยานันนท์ หรือ ทนายเดชา อดีตทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธา มารดาของแตงโม ภัทรธิดา พัชระวีรพงษ์ อดีตนักแสดงสาว ยื่นหนังสือต่อพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส ประธานกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร(ปปช.) ขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคไทยศิวิไลย์ หลังมีพฤติกรรมข่มขู่ตนและเพื่อนทนาย ซึ่งอาจเข้าข่ายผิดจริยธรรมร้ายแรง จากกรณีโทรศัพท์ข่มขู่ว่าหากไม่หยุดพูดถึงคดีการเสียชีวิตของแตงโมจะถูกกระทืบ
“นายมงคลกิตติ์ระบุด้วยว่าไม่นิยมใช้วิธีการทางกฎหมายเพราะไม่ถนัด ถนัดแต่วิธีนอกระบบ ทั้งที่นายมงคลกิตติ์เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ยังข่มขู่ว่าหากผมไม่หยุดพูดเกี่ยวกับคดีจะส่งไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้วไม่ได้กลับมา ซึ่งหมายถึงจะต้องตายอย่างเดียว ดังนั้น ก่อนตายผมจึงเดินทางมาหาพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ซึ่งพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบกลับทันทีว่ายังไงก็ไม่ตายหรอก”
นายเดชา กล่าวว่า นายมงคลกิตติ์ยังโพสต์เฟซบุ๊กจะให้คนไปแจ้งความ เช่น ที่จ. มหาสารคาม นราธิวาส ภูเก็ต ทั้งที่เหตุเกิดที่กรุงเทพ ฯ เพราะต้องการให้ตนลำบาก เป็นการใช้สิทธิ์ไม่สุจริต กลั่นแกล้ง ทั้งนี้ ส.ส.มีหน้าที่ในการประชุมสภา แต่กลับไปงมหามีด เห็นท่อนไม้ก็บอกเป็นแตงโม แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตำรวจสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว และอยู่ในขั้นตอนอัยการสั่งฟ้อง และยังตั้งพรรคพวกทนายความ อ้างว่ามี 30-40 คน รวมถึงอ้างอดีตผู้พิพากษาตรวจสอบการทำงานตำรวจ อัยการ
“พฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรม แบบนี้เรียกว่า ส.ส.มาเฟีย ใครทำอะไรขัดหูก็จะออกมากระทืบ ผมเห็นว่าคนแบบนี้ไม่ควรเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกต่อไปและต้นจะทำทุกอย่างเพื่อให้นายมงคลกิตติ์พ้นจากความเป็น ส.ส. คนที่จะจัดการกับนายมงคลกิตติ์ได้ เอาที่ผม เซิร์ช Google มีเพียง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์คนเดียว เป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เป็นมือสังหารส.ส.มาแล้วหลายคน คนต่อไปคือนายมงคลกิตติ์ ให้เตรียมฌาปนกิจได้เลย และตอนนี้จะไม่มีมวยล้มต้มคนดู เพราะต้องหลุด ส.ส.อย่างเดียว ผมคงไม่เอาส.ส.มาเฟียไว้” นายเดชา กล่าว
ส่วนกรณีที่นายเดชาท้าให้นายมงคลกิตติ์ลงสัตยาบันกับคุณแม่ของแตงโม ในฐานะเป็นคนแนะนำ ให้ฟ้องร้องคนบนเรือว่าร่วมกันฆ่า หรือร่วมกันทำร้ายแตงโม แต่นายมงคลกิตติ์กลับไม่ยอมทำ นายเดชา กล่าวว่าการที่ไม่ลงชื่อแสดงว่ากลัว และเป็นเรื่องโกหกเพราะบอกว่าเป็นคดีฆาตกรรม การที่ไม่ร่วมลงสัตยาบันเพราะต้องรับผิดถ้าเกิดมีการฟ้องเท็จ ซึ่งตอนนี้เป็นห่วงแม่คุณแตงโมมาก เพราะแต่ละครั้งที่นายมงคลกิตติ์แถลงข่าวร่วมกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แล้วบอกว่า เป็นนโยบายของพรรคไทยศิวิไลย์ เป็นแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และอาจจะขัดกับรัฐธรรมนูญ ตนจึงมองว่าเมื่อคุณแม่แตงโมฟังเรื่องนี้แล้วควรหาที่จะหาที่ปรึกษาใหม่ดีกว่า
ด้านพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า การที่นายมงคลกิตติ์กล่าววาจาข่มขู่ คิดว่าทนายเดชาไม่มีความรู้หรือไม่มีพรรคพวกหรือ ตนจะช่วยให้ความเป็นธรรมกับทนายเดชาทั้งกรณีที่นายมงคลกิตติ์ ผิดจริยธรรมและผิดประมวลกฎหมายอาญาด้วย มาตรา 309 ที่ระบุว่าผู้ใดข่มขู่ประทุษร้ายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน มีโทษจำคุก 3 ปี มาตรา209 ผู้ใดกระทำการเป็นอั้งยี่ซ่องโจร มีโทษจำคุก 7 ปี แต่มาตราที่สำคัญคือมาตรา 157 ในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งในการสอบสวนของผมอาศัยมาตรา 234 (1) ที่ระบุว่าคณะกรรมการป.ป.ช มีอำนาจหน้าที่ไต่สวนดำเนินคดีนักการเมือง ที่กระทำการขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย และประพฤติผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง
“พฤติกรรมต่าง ๆ ของนายมงคลกิตติ์ ผิดกฎหมาย ผิดรัฐธรรมนูญและผิดจริยธรรม ผมจะรีบสอบสวนและส่งไปยังป.ป.ช. เพื่อให้ส่งศาลฎีกาเพื่อดำเนินการความผิดทั้งอาญาและจริยธรรม ในฐานะส.ส.ต้องขอโทษทนายเดชา แต่ยืนยันว่าส.ส.ไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกคน ถ้าส.ส.ทำผิดกฎหมาย ผมก็ไม่ละเว้น” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย