รัฐสภา 30 พ.ค.- “แม่แตงโม” บอกไม่รัก “ทนายเดชา” แล้ว ไม่ต้องคิดถึง ระบุที่ผ่านมาไม่เคยแนะนำให้ทำเป็นคดีพิเศษ เผยหลังเจอ “เต้” เหมือนฟ้าเปิด ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ด้าน “มงคลกิตติ์” ลั่นแม้เอี่ยวคดีก็ไม่กลัวหลุดเก้าอี้ ส.ส.
นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม ภัทรธิดา กล่าวภายหลังยื่นหนังสือขอหลักฐานต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภาว่า รู้สึกมีความหวังมากขึ้น แต่ก็ต้องทำตามระเบียบราชการ และรู้สึกดีใจที่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว.ในฐานะ กมธ. มาช่วย ซึ่งตนได้กล่าวขอโทษ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ตั้งแต่มีนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เป็นทนายความ ซึ่งตอนนั้นตนไม่ค่อยได้พูดและไม่กล้าขัดใจนายเดชา ส่วนกรณีที่มีการส่งพัสดุมายัง กมธ. แต่ไม่ได้จ่าหน้าซองพัสดุเป็นชื่อบังแจ็คนั้น ตนก็ไม่ทราบเรื่องนี้
ด้านนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวเสริมว่า คุณแม่ไม่ทราบเรื่องนี้ และตนก็เพิ่งทราบ
เมื่อถามว่า กระบวนการยุติธรรมในการตรวจสอบไม่ปกติหรือมีปัญหาหรือไม่ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ฟ้าเปิด ซึ่งเห็นคุณแม่บอกว่าจะไปยื่นกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ด้วยตนเอง เพื่อให้เป็นคดีพิเศษ ขณะนี้รอให้นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในฐานะคณะทำงานร่างหนังสือเสร็จ ทั้งนี้ ตนอยากฝากไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีสำคัญ และส่งผลต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ซึ่งสามารถเรียกคดีนี้ว่า แตงโมโมเดล ซึ่งหากคดีนี้ประสบความสำเร็จก็ถือว่าประชาชนช่วยกัน และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบกฎหมาย เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน
“ผมเชื่อว่านายกรัฐมนตรีคงจะใส่ใจ เห็นใจประชาชนที่สนใจและต้องการให้คดีนี้เป็นคดีพิเศษ หากนายกรัฐมนตรีกำชับกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม และบอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษอย่างเต็มที่ ก็เชื่อว่าความศรัทธาจะเกิดขึ้นกับรัฐบาลและตัวนายกรัฐมนตรีเอง ทั้งนี้ ผมมองว่าตำรวจได้ทำหน้าที่เต็มที่แล้ว แต่ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง จึงไม่อยากไปตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ” นายมงคลกิตติ์ กล่าว
ด้านนางภนิดา กล่าวว่า ที่ผ่านมาที่ตนไม่ได้คิดว่าเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากไม่มีใครแนะนำ และนายเดชาก็ไม่ได้แนะนำ โดยบอกตนแค่ว่าอย่าทำ เดี๋ยวหาทางลงไม่ได้ และย้ำอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งฟ้าเปิดและได้มาเจอนายมงคลกิตติ์ จึงได้ทำอะไรทุกอย่างที่จะเป็นความจริง และเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งตนได้บอกกับแตงโมทุกวันว่า จะหาความยุติธรรมให้กับแตงโมให้ได้ ถึงจะเหนื่อยแต่ก็ยินดีทำให้ลูก
เมื่อถามว่า คดีดังกล่าวเหมือนมาถูกทางแล้ว แต่ดูเหมือนว่านายมงคลกิตติ์อาจถูกฟ้องดำเนินคดี นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า การเป็นผู้แทนประชาชน หากเราปล่อยให้ประชาชนไปเจ็บปวดด้วยตัวเขาเอง และไม่รู้จักเสียสละเอาตัวเข้ามาฝ่ากระสุนแทน เราจะเป็น ส.ส.ไปทำไม หากเรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้ เรื่องปากท้องประชาชนจะทำได้อย่างไร ส่วนกรณีที่นายเดชาออกมาระบุว่าอาจจะส่อผิดจริยธรรม ส.ส.นั้น ก็ไม่เป็นไร หลุดเก้าอี้ ส.ส.ก็หลุดไป เขาเรียกว่า “ตำแหน่งอยู่ได้ไม่นาน แต่ตำนานอยู่ได้ตลอดไป”
เมื่อถามว่า คุณแม่อยากฝากอะไรถึงนายเดชาหรือไม่ นางภนิดา หัวเราะ ก่อนกล่าวว่า “เลิกคิดถึงคุณแม่ได้แล้ว คุณแม่จ่ายค่าข้าวไปแล้ว ทำไมต้องปล่อยให้เป็นข่าวหลายวัน คิดว่านายเดชาเป็นคนปล่อย ซึ่งหากนายเดชาคิดถึงคุณแม่ก็ขอให้เงียบๆ คิดถึงในใจ ซึ่งตอนนี้คุณแม่ไม่รักนายเดชาแล้ว แต่ยังคิดถึงอยู่ ก็สามารถคิดถึงกันได้”.-สำนักข่าวไทย