เสวนาพรรคเพื่อชาติ “มื้อค่ำเพื่อทางออกประเทศไทย”

อิมแพคเมืองทองธานี 28 พ.ค. – เสวนาพรรคเพื่อชาติ นักวิชาการมอง 8 ปี รัฐบาลทำประเทศ ขาดศักยภาพในการแข่งขัน ขณะที่ “ยงยุทธ ติยะไพรัช” ชี้ประเทศจะเปลี่ยนได้ ต้องมีนายกฯ ที่เหมาะสม ส.ส.กินกล้วยต้องหมดสภาฯ เชื่อ “ธรรมนัส” ล้มรัฐบาลยาก


พรรคเพื่อชาติ จัดงานเสวนาภายใต้หัวข้อ “มื้อค่ำเพื่อทางออกประเทศไทย” ณ ห้องแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่านายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ไม่ได้เดินทางมาร่วมงาน ท่ามกลางกระแสข่าวเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ โดยมีนายเทวกฤต พรหมมา รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ เป็นผู้กล่าวเปิดงาน ว่า การจัดงานวันนี้เป็นการรับฟังความคิดเห็น รวมถึงเสนอแนะแนวทางในการแก้ปัญหาของประเทศ เพื่อให้ทุกคนได้ทบทวนกับสิ่งต่างๆที่ผ่านมา โดยจะได้รับฟังแนวคิดใหม่ๆ จากคนรุ่นใหม่ เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาของชาติ ด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน หวังว่าการเสวนาในวันนี้จะนำไปสู่การสร้างแรงผักดันเชิงบวก และจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์เพื่อประเทศไทยของเราจะได้มีทางออกจากปัญหาที่เกิดขึ้น

นางสาวปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ กล่าวถึง ปัญหาต่างๆ ในประเทศที่มีรอบด้าน พรรคเพื่อชาติจะแก้ไขปัญหาจากต้นตอให้สำเร็จ ให้ความสำคัญกับเป้าหมายและโอกาสใหม่ๆ ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมถึงธุรกิจใหม่ใหม่ ที่จะช่วยดึงดูดเม็ดเงินจากต่างชาติให้เข้าประเทศ พรรคเพื่อชาติมีความตั้งใจ ทำเพื่อประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างรายได้ให้กับประชาชน และช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ด้วยยุทธศาสตร์พลิกแผ่นดิน ฟื้นแผ่นน้ำ อีกทั้งจะสนับสนุน soft power ให้มีที่ยืนในเวทีโลก


นางสาวปิยะรัฐชย์ กล่าวว่า วันนี้แม้จะเป็นพรรคการเมืองขนาดเล็ก แต่ถ้าประชาชนพร้อมให้เราใหญ่ เราก็จะใหญ่ให้ประชาชน พรรคต้องการมี ส.ส. จำนวนมากในสภาฯ แต่ต้องเป็น ส.ส. ที่เป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่ ส.ส. ที่เพียงไปนั่งเล่นในสภาฯ สิ่งพวกนี้จะเกิดขึ้นได้ ต้องได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชน

จากนั้น เวทีเสวนา “มื้อค่ำเพื่อทางออกประเทศไทย” มีนายวิโรจน์ อาลี นายจารุพล เรืองสุวรรณ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมงาน โดยมีนายศิโรตน์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระ เป็นผู้ดำเนินรายการ

นายวิโรจน์ กล่าวว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องของความมั่นคงมากจนเกินไป และไม่ได้ให้ความสำคัญกับทรัพยากรที่มีอยู่ และไทยขาดศักยภาพในการแข่งขัน เนื่องจากการรัฐประหาร 8 ปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับในยุครัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จะเห็นได้ชัดว่าไม่ได้ พัฒนาเท่าที่ควร ซึ่งผู้นำในการบริหารงาน ที่เป็นระบบรัฐราชการ ทำให้เกิดความก้าวหน้า ดังนั้นควรต้องมีการเปลี่ยนแปลง


นายจารุพล กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา แต่ทั้งนี้จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในหลายเรื่อง อาทิ เรื่องของความมั่นคง ซึ่งมีหลายด้าน แต่ปัจจุบันในประเทศไทย รัฐมองเรื่องความมั่นคงแคบเกินไป และมีปัญหาในการปรับตัว ซึ่งจากการศึกษาข้อมูล พบว่าในอนาคตจะเกิดภัยคุกคามอย่างหนึ่ง คือ ความไม่มั่นคงทางการเมือง และคาดว่า อนาคตจะมีการประท้วงกันมากขึ้น ทั้งนี้ คาดหวังว่าคนรุ่นใหม่ ทั้งผู้นำและนักการเมือง ต้องปรับแนวคิดว่า คือผู้รับใช้เพื่อประชาชน

ขณะที่นายยงยุทธ กล่าวว่า ปัญหาของประเทศเป็นปัญหาที่ไม่มีวันจบ เปรียบเทียบกับต่างประเทศ มีความก้าวหน้าไปมากกว่าไทย แต่ไทยยังไม่พัฒนาได้ทัน อีกทั้งยังไม่มีการปรับตัวในหลายเรื่อง อาทิ กฎหมายต่างๆ ที่ยังไม่ทันสมัย พร้อมตั้งคำถาม ที่ไทยเสียเปรียบในหลายเรื่องนั้น เป็นเพราะไทยขาดความเข้าใจในการบริหารงานในภาวะวิกฤติ รวมถึงมีการคอรัปชันหรือไม่

นายยงยุทธ กล่าวว่า หน้าที่ของรัฐบาลต้องดูแลคนที่ยากจนและอ่อนแอ พร้อมสร้างศักยภาพให้คนเหล่านั้น มีความพร้อมในการแข่งขัน ประเทศจึงจะเดินหน้าไปได้ ไม่ใช่เอื้อประโยชน์ให้เพียงแต่กลุ่มทุนรายใหญ่เท่านั้น ดังนั้น ปัญหาของไทยขณะนี้ คือ มีกฎหมายล้าหลัง ผู้บริหารขาดวิสัยทัศน์ และต้องมีการสร้างขีดความสามารถของมนุษย์ แต่มองว่า 8 ปีที่ผ่านมา ผู้นำของประเทศยังไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย

“ที่ผ่านมา กว่า 30 ปี มักจะได้ยินว่า ส.ส.ไปรับเงินในห้องน้ำ เวลาจะผ่านกฎหมายสำคัญ และส.ส.ยังสามารถย้ายพรรคได้ตลอดเวลา จึงทำให้ ส.ส.ไปทำมาหากิน เหมือนที่ชอบกินกล้วย เป็นแบบนี้มาตลอด จนนำไปสู่การปฎิรูปประเทศ เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญมาหลายฉบับ ซึ่งหากถามว่าจะสามารถเปลี่ยนประเทศได้หรือไม่นั้น จะต้องทำให้รัฐบาลเข้มแข็ง ส.ส.กินกล้วยต้องหมดสภาฯ และที่สำคัญ ต้องมีกระบวนการคัดสรรนายกรัฐมนตรี ที่ตรงกับสายวิชาชีพ ไม่ใช่เอายาม หรืออาชีวะมาทำหน้าที่ ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหา และถ้าจะให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ สิ่งสำคัญคือประชาชนต้องรับผิดชอบผ่านการเลือกตั้ง” นายยงยุทธ กล่าว

ส่วนการเลือกตั้งในปีหน้าจะเกิดปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ คือ ฝ่ายประชาธิปไตย จะชนะทั้งประเทศหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่าตราบใดที่เรายังมี ส.ว.250 คน ก็คือปัญหา ดังนั้นการที่บอกจะแลนด์สไลด์ ภายใต้เงื่อนไขและกติกาในปัจจุบัน ต้องได้ 300 เสียง ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะการจัดกระบวนทัพของฝ่ายตรงข้ามประชาธิปไตยยังไม่เรียบร้อย แต่ถ้าเรียบร้อยแล้ว คาดว่าคะแนนก็น่าจะเบี่ยงกันเล็กน้อย และแม้การเลือกตั้งจะได้เสียงถล่มทลายแค่ไหน แต่เมื่อตั้งรัฐบาล ก็จะได้คนเดิมๆ กลับมา ซึ่งตนมีข้อกังวลในเรื่องนี้

ทั้งนี้ มองปรากฏการณ์ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงจนล้มรัฐบาลได้หรือไม่นั้น นายยงยุทธ กล่าวว่า การจะล้มรัฐบาลเป็นปรากฏการณ์ที่ยากมาก เพราะ กระบวนการในสภาฯ ยังเอื้อกับฝ่ายรัฐบาล ทั้งประธานสภาฯ ที่มักจะชอบปิดประชุมทุกครั้งที่รัฐบาลอยู่ในสถานการณ์ที่เพลี่ยงพล้ำ และมักจะมีช่องทางให้ซื้อ ส.ส. เพื่อโหวตภารกิจสำคัญ

ภายหลังเสวนา มีการร่วมรับประทานอาหารของผู้สนับสนุนพรรค รวมถึงมีการแสดงดนตรีสดจากวงออร์เคสตรา (Orchestra) จากนายสุกรี เจริญสุข รวมถึงการแสดงงานศิลปะจากนายสุชาติวงษ์ทอง ศิลปินสีน้ำชื่อดังและครูศิลปะนานาชาติ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบถ่ายรูป ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ

ทำเนียบ 3 ก.ค.- ชื่นมื่น! 14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบฯ ตั้งแต่ช่วงเช้า ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ “อรรถกร” มาถึงคนแรก ปิดท้ายด้วย “นายกฯ แพทองธาร” เตรียมประชุม ครม. นัดพิเศษในช่วงบ่าย แบ่งงานรองนายกฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐมนตรีใหม่ 14 คน ทยอยเดินทางมายังตึกสันติไมตรี เพื่อตรวจเอทีเค ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีที่เดินทางมาเป็นคนแรก คือ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์ และ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากนั้น นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตามด้วย นายอนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

กู้ร่างครบแล้ว เหตุไฟไหม้โรงงานทิชชู เสียชีวิต 10 ราย

สระบุรี 2 ก.ค. – เหตุไฟไหม้โรงงานกระดาษทิชชู ในนิคมเหมราช จ.สระบุรี ล่าสุดพบร่างที่ 10 ซึ่งเป็นร่างสุดท้าย ถือว่าภารกิจการค้นหาสิ้นสุดแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายกว่า 50 ชั่วโมง ยุติลงแล้ว หลังเกิดเพลิงไหม้อาคารบริษัทผลิตกระดาษทิชชู ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิว เอช เอ ซอย 8 อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ช่วงเที่ยงวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ทีมกู้ชีพ กู้ภัยร่วมกตัญญู กู้ภัยสว่างรัตนตรัย และกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับฝ่ายปกครอง และชุดค้นหาเร่งระดมสรรพกำลัง ปูพรมค้นหาร่างผู้สูญหาย 10 คน นำโดยนายสันทัศน์ รันดาเว นายอำเภอหนองแค ลงพื้นที่เกาะติดการค้นหาผู้สูญหาย ช่วง 10.30 น. มีรายงานจากทีมค้นหามูลนิธิร่วมกตัญญู แจ้งว่า ที่ชั้นบนของอาคารเกิดเหตุ พบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง อยู่ในสภาพเหลือแต่กระดูกบริเวณชั้นที่ 2 ฝั่งตะวันตกของโรงงาน ถือเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้รายที่ […]

เร่งคลี่คลายคดีโจรฉกเงิน-ทองคำ วัดม่วง

กทม. 2 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีโจรวัดม่วง ลักเงินเจ้าอาวาส 10 ล้าน ทองคำ 250 บาท หายล่องหน ขณะที่อดีตพระคนสนิท เผยประตูกุฏิล็อกถึง 5 ชั้น เชื่อฝีมือคนใน พร้อมเรียกร้องตรวจสอบเงินบริจาควัด ความคืบหน้า เหตุคนร้ายย่องลักทรัพย์ เงิน 10 ล้าน-ทองคำหนัก 250 บาท ภายในกุฏิเจ้าอาวาส วัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค วันนี้ชุดสืบสวนของ บก.ปปป. ร่วมกับชุดคลี่คลายคดีของ สน.เพชรเกษม เดินทางไปที่วัดม่วงเพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่เมื่อเดินทางไปที่กุฎิเจ้าอาวาส ปรากฏว่า กุฏิปิดเงียบล็อกกุญแจจากด้านหน้า ไร้เงาเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่ ปปป. จึงพยายามโทรไปหาเจ้าอาวาสแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง เปิดเผยว่า หลังปรากฏข่าว เจ้าอาวาสได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความว่าเงินและทองคำภายในกุฏิหาย ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่ากุฏิดังกล่าวไม่มีรอยงัดแงะ และการจะเข้าไปภายในต้องผ่านประตูซึ่งล็อกถึง 5 ชั้น แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่บุคคลอื่นจะเข้าไปได้ มองว่าตู้เซฟที่เก็บทรัพย์สินไว้นั้นมีขนาดใหญ่ การจะนำทรัพย์สินภายในออกไปน่าจะทำได้ยาก […]