เสวนาพรรคเพื่อชาติ “มื้อค่ำเพื่อทางออกประเทศไทย”

อิมแพคเมืองทองธานี 28 พ.ค. – เสวนาพรรคเพื่อชาติ นักวิชาการมอง 8 ปี รัฐบาลทำประเทศ ขาดศักยภาพในการแข่งขัน ขณะที่ “ยงยุทธ ติยะไพรัช” ชี้ประเทศจะเปลี่ยนได้ ต้องมีนายกฯ ที่เหมาะสม ส.ส.กินกล้วยต้องหมดสภาฯ เชื่อ “ธรรมนัส” ล้มรัฐบาลยาก


พรรคเพื่อชาติ จัดงานเสวนาภายใต้หัวข้อ “มื้อค่ำเพื่อทางออกประเทศไทย” ณ ห้องแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่านายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ไม่ได้เดินทางมาร่วมงาน ท่ามกลางกระแสข่าวเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ โดยมีนายเทวกฤต พรหมมา รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ เป็นผู้กล่าวเปิดงาน ว่า การจัดงานวันนี้เป็นการรับฟังความคิดเห็น รวมถึงเสนอแนะแนวทางในการแก้ปัญหาของประเทศ เพื่อให้ทุกคนได้ทบทวนกับสิ่งต่างๆที่ผ่านมา โดยจะได้รับฟังแนวคิดใหม่ๆ จากคนรุ่นใหม่ เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาของชาติ ด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน หวังว่าการเสวนาในวันนี้จะนำไปสู่การสร้างแรงผักดันเชิงบวก และจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์เพื่อประเทศไทยของเราจะได้มีทางออกจากปัญหาที่เกิดขึ้น

นางสาวปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ กล่าวถึง ปัญหาต่างๆ ในประเทศที่มีรอบด้าน พรรคเพื่อชาติจะแก้ไขปัญหาจากต้นตอให้สำเร็จ ให้ความสำคัญกับเป้าหมายและโอกาสใหม่ๆ ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมถึงธุรกิจใหม่ใหม่ ที่จะช่วยดึงดูดเม็ดเงินจากต่างชาติให้เข้าประเทศ พรรคเพื่อชาติมีความตั้งใจ ทำเพื่อประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างรายได้ให้กับประชาชน และช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ด้วยยุทธศาสตร์พลิกแผ่นดิน ฟื้นแผ่นน้ำ อีกทั้งจะสนับสนุน soft power ให้มีที่ยืนในเวทีโลก


นางสาวปิยะรัฐชย์ กล่าวว่า วันนี้แม้จะเป็นพรรคการเมืองขนาดเล็ก แต่ถ้าประชาชนพร้อมให้เราใหญ่ เราก็จะใหญ่ให้ประชาชน พรรคต้องการมี ส.ส. จำนวนมากในสภาฯ แต่ต้องเป็น ส.ส. ที่เป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่ ส.ส. ที่เพียงไปนั่งเล่นในสภาฯ สิ่งพวกนี้จะเกิดขึ้นได้ ต้องได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชน

จากนั้น เวทีเสวนา “มื้อค่ำเพื่อทางออกประเทศไทย” มีนายวิโรจน์ อาลี นายจารุพล เรืองสุวรรณ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมงาน โดยมีนายศิโรตน์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระ เป็นผู้ดำเนินรายการ

นายวิโรจน์ กล่าวว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องของความมั่นคงมากจนเกินไป และไม่ได้ให้ความสำคัญกับทรัพยากรที่มีอยู่ และไทยขาดศักยภาพในการแข่งขัน เนื่องจากการรัฐประหาร 8 ปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับในยุครัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จะเห็นได้ชัดว่าไม่ได้ พัฒนาเท่าที่ควร ซึ่งผู้นำในการบริหารงาน ที่เป็นระบบรัฐราชการ ทำให้เกิดความก้าวหน้า ดังนั้นควรต้องมีการเปลี่ยนแปลง


นายจารุพล กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา แต่ทั้งนี้จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในหลายเรื่อง อาทิ เรื่องของความมั่นคง ซึ่งมีหลายด้าน แต่ปัจจุบันในประเทศไทย รัฐมองเรื่องความมั่นคงแคบเกินไป และมีปัญหาในการปรับตัว ซึ่งจากการศึกษาข้อมูล พบว่าในอนาคตจะเกิดภัยคุกคามอย่างหนึ่ง คือ ความไม่มั่นคงทางการเมือง และคาดว่า อนาคตจะมีการประท้วงกันมากขึ้น ทั้งนี้ คาดหวังว่าคนรุ่นใหม่ ทั้งผู้นำและนักการเมือง ต้องปรับแนวคิดว่า คือผู้รับใช้เพื่อประชาชน

ขณะที่นายยงยุทธ กล่าวว่า ปัญหาของประเทศเป็นปัญหาที่ไม่มีวันจบ เปรียบเทียบกับต่างประเทศ มีความก้าวหน้าไปมากกว่าไทย แต่ไทยยังไม่พัฒนาได้ทัน อีกทั้งยังไม่มีการปรับตัวในหลายเรื่อง อาทิ กฎหมายต่างๆ ที่ยังไม่ทันสมัย พร้อมตั้งคำถาม ที่ไทยเสียเปรียบในหลายเรื่องนั้น เป็นเพราะไทยขาดความเข้าใจในการบริหารงานในภาวะวิกฤติ รวมถึงมีการคอรัปชันหรือไม่

นายยงยุทธ กล่าวว่า หน้าที่ของรัฐบาลต้องดูแลคนที่ยากจนและอ่อนแอ พร้อมสร้างศักยภาพให้คนเหล่านั้น มีความพร้อมในการแข่งขัน ประเทศจึงจะเดินหน้าไปได้ ไม่ใช่เอื้อประโยชน์ให้เพียงแต่กลุ่มทุนรายใหญ่เท่านั้น ดังนั้น ปัญหาของไทยขณะนี้ คือ มีกฎหมายล้าหลัง ผู้บริหารขาดวิสัยทัศน์ และต้องมีการสร้างขีดความสามารถของมนุษย์ แต่มองว่า 8 ปีที่ผ่านมา ผู้นำของประเทศยังไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย

“ที่ผ่านมา กว่า 30 ปี มักจะได้ยินว่า ส.ส.ไปรับเงินในห้องน้ำ เวลาจะผ่านกฎหมายสำคัญ และส.ส.ยังสามารถย้ายพรรคได้ตลอดเวลา จึงทำให้ ส.ส.ไปทำมาหากิน เหมือนที่ชอบกินกล้วย เป็นแบบนี้มาตลอด จนนำไปสู่การปฎิรูปประเทศ เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญมาหลายฉบับ ซึ่งหากถามว่าจะสามารถเปลี่ยนประเทศได้หรือไม่นั้น จะต้องทำให้รัฐบาลเข้มแข็ง ส.ส.กินกล้วยต้องหมดสภาฯ และที่สำคัญ ต้องมีกระบวนการคัดสรรนายกรัฐมนตรี ที่ตรงกับสายวิชาชีพ ไม่ใช่เอายาม หรืออาชีวะมาทำหน้าที่ ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหา และถ้าจะให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ สิ่งสำคัญคือประชาชนต้องรับผิดชอบผ่านการเลือกตั้ง” นายยงยุทธ กล่าว

ส่วนการเลือกตั้งในปีหน้าจะเกิดปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ คือ ฝ่ายประชาธิปไตย จะชนะทั้งประเทศหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่าตราบใดที่เรายังมี ส.ว.250 คน ก็คือปัญหา ดังนั้นการที่บอกจะแลนด์สไลด์ ภายใต้เงื่อนไขและกติกาในปัจจุบัน ต้องได้ 300 เสียง ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะการจัดกระบวนทัพของฝ่ายตรงข้ามประชาธิปไตยยังไม่เรียบร้อย แต่ถ้าเรียบร้อยแล้ว คาดว่าคะแนนก็น่าจะเบี่ยงกันเล็กน้อย และแม้การเลือกตั้งจะได้เสียงถล่มทลายแค่ไหน แต่เมื่อตั้งรัฐบาล ก็จะได้คนเดิมๆ กลับมา ซึ่งตนมีข้อกังวลในเรื่องนี้

ทั้งนี้ มองปรากฏการณ์ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงจนล้มรัฐบาลได้หรือไม่นั้น นายยงยุทธ กล่าวว่า การจะล้มรัฐบาลเป็นปรากฏการณ์ที่ยากมาก เพราะ กระบวนการในสภาฯ ยังเอื้อกับฝ่ายรัฐบาล ทั้งประธานสภาฯ ที่มักจะชอบปิดประชุมทุกครั้งที่รัฐบาลอยู่ในสถานการณ์ที่เพลี่ยงพล้ำ และมักจะมีช่องทางให้ซื้อ ส.ส. เพื่อโหวตภารกิจสำคัญ

ภายหลังเสวนา มีการร่วมรับประทานอาหารของผู้สนับสนุนพรรค รวมถึงมีการแสดงดนตรีสดจากวงออร์เคสตรา (Orchestra) จากนายสุกรี เจริญสุข รวมถึงการแสดงงานศิลปะจากนายสุชาติวงษ์ทอง ศิลปินสีน้ำชื่อดังและครูศิลปะนานาชาติ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชา ทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก

กัมพูชา 19 ก.ค.-กัมพูชาทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก ลั่นยึดมั่นอนุสัญญาออตตาวา ประณามคัดค้าน การผลิต และแสดงความเสียใจผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมผลักดันสู่กระบวนการพิสูจน์ เพื่อรักษามิตรภาพ ความปลอดภัย ไม่กล่าวหาซึ่งกัน เมื่อวันที่ 19 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชอาณาจักรกัมพูชา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ทำหนังสือ ถึงทางการไทย เรื่อง การปฏิเสธต่อการนําเสนอของสื่อมวลชนไทยจำนวนหนึ่ง กรณีทหารไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) สำานักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิคและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (สํานักงานทุ่นระเบิด) ขอแจ้งว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีสื่อมวลชนไทยจํานวนหนึ่งได้อ้างอิงแหล่งข้อมูลจากข้าราชการระดับสูงของไทย และเผยแพร่เกี่ยวกับทหารไทย 3 นายได้รับบาดเจ็บจากระเบิด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 บริเวณพิกัด WA 220861 (ยืนยันโดยฝ่ายไทย) อยู่ในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) การเผยแพร่ดังกล่าว มีเจตนา กล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริงและไม่มีการตรวจสอบที่ชัดเจนว่ากัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ ในการนี้สํานักงานทุ่นระเบิด ขอชี้แจงดังนี้ 1.สํานักงานทุ่นระเบิดขอปฏิเสธและปัดตกทั้งหมดต่อเนื้อหาข่าวที่เผยแพร่โดยมีเจตนากล่าวหาว่า กัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ 2.กัมพูชา […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย