เสวนาพรรคเพื่อชาติ “มื้อค่ำเพื่อทางออกประเทศไทย”

อิมแพคเมืองทองธานี 28 พ.ค. – เสวนาพรรคเพื่อชาติ นักวิชาการมอง 8 ปี รัฐบาลทำประเทศ ขาดศักยภาพในการแข่งขัน ขณะที่ “ยงยุทธ ติยะไพรัช” ชี้ประเทศจะเปลี่ยนได้ ต้องมีนายกฯ ที่เหมาะสม ส.ส.กินกล้วยต้องหมดสภาฯ เชื่อ “ธรรมนัส” ล้มรัฐบาลยาก


พรรคเพื่อชาติ จัดงานเสวนาภายใต้หัวข้อ “มื้อค่ำเพื่อทางออกประเทศไทย” ณ ห้องแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่านายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ไม่ได้เดินทางมาร่วมงาน ท่ามกลางกระแสข่าวเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ โดยมีนายเทวกฤต พรหมมา รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ เป็นผู้กล่าวเปิดงาน ว่า การจัดงานวันนี้เป็นการรับฟังความคิดเห็น รวมถึงเสนอแนะแนวทางในการแก้ปัญหาของประเทศ เพื่อให้ทุกคนได้ทบทวนกับสิ่งต่างๆที่ผ่านมา โดยจะได้รับฟังแนวคิดใหม่ๆ จากคนรุ่นใหม่ เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาของชาติ ด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน หวังว่าการเสวนาในวันนี้จะนำไปสู่การสร้างแรงผักดันเชิงบวก และจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์เพื่อประเทศไทยของเราจะได้มีทางออกจากปัญหาที่เกิดขึ้น

นางสาวปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ กล่าวถึง ปัญหาต่างๆ ในประเทศที่มีรอบด้าน พรรคเพื่อชาติจะแก้ไขปัญหาจากต้นตอให้สำเร็จ ให้ความสำคัญกับเป้าหมายและโอกาสใหม่ๆ ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมถึงธุรกิจใหม่ใหม่ ที่จะช่วยดึงดูดเม็ดเงินจากต่างชาติให้เข้าประเทศ พรรคเพื่อชาติมีความตั้งใจ ทำเพื่อประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างรายได้ให้กับประชาชน และช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ด้วยยุทธศาสตร์พลิกแผ่นดิน ฟื้นแผ่นน้ำ อีกทั้งจะสนับสนุน soft power ให้มีที่ยืนในเวทีโลก


นางสาวปิยะรัฐชย์ กล่าวว่า วันนี้แม้จะเป็นพรรคการเมืองขนาดเล็ก แต่ถ้าประชาชนพร้อมให้เราใหญ่ เราก็จะใหญ่ให้ประชาชน พรรคต้องการมี ส.ส. จำนวนมากในสภาฯ แต่ต้องเป็น ส.ส. ที่เป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่ ส.ส. ที่เพียงไปนั่งเล่นในสภาฯ สิ่งพวกนี้จะเกิดขึ้นได้ ต้องได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชน

จากนั้น เวทีเสวนา “มื้อค่ำเพื่อทางออกประเทศไทย” มีนายวิโรจน์ อาลี นายจารุพล เรืองสุวรรณ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมงาน โดยมีนายศิโรตน์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระ เป็นผู้ดำเนินรายการ

นายวิโรจน์ กล่าวว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องของความมั่นคงมากจนเกินไป และไม่ได้ให้ความสำคัญกับทรัพยากรที่มีอยู่ และไทยขาดศักยภาพในการแข่งขัน เนื่องจากการรัฐประหาร 8 ปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับในยุครัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จะเห็นได้ชัดว่าไม่ได้ พัฒนาเท่าที่ควร ซึ่งผู้นำในการบริหารงาน ที่เป็นระบบรัฐราชการ ทำให้เกิดความก้าวหน้า ดังนั้นควรต้องมีการเปลี่ยนแปลง


นายจารุพล กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา แต่ทั้งนี้จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในหลายเรื่อง อาทิ เรื่องของความมั่นคง ซึ่งมีหลายด้าน แต่ปัจจุบันในประเทศไทย รัฐมองเรื่องความมั่นคงแคบเกินไป และมีปัญหาในการปรับตัว ซึ่งจากการศึกษาข้อมูล พบว่าในอนาคตจะเกิดภัยคุกคามอย่างหนึ่ง คือ ความไม่มั่นคงทางการเมือง และคาดว่า อนาคตจะมีการประท้วงกันมากขึ้น ทั้งนี้ คาดหวังว่าคนรุ่นใหม่ ทั้งผู้นำและนักการเมือง ต้องปรับแนวคิดว่า คือผู้รับใช้เพื่อประชาชน

ขณะที่นายยงยุทธ กล่าวว่า ปัญหาของประเทศเป็นปัญหาที่ไม่มีวันจบ เปรียบเทียบกับต่างประเทศ มีความก้าวหน้าไปมากกว่าไทย แต่ไทยยังไม่พัฒนาได้ทัน อีกทั้งยังไม่มีการปรับตัวในหลายเรื่อง อาทิ กฎหมายต่างๆ ที่ยังไม่ทันสมัย พร้อมตั้งคำถาม ที่ไทยเสียเปรียบในหลายเรื่องนั้น เป็นเพราะไทยขาดความเข้าใจในการบริหารงานในภาวะวิกฤติ รวมถึงมีการคอรัปชันหรือไม่

นายยงยุทธ กล่าวว่า หน้าที่ของรัฐบาลต้องดูแลคนที่ยากจนและอ่อนแอ พร้อมสร้างศักยภาพให้คนเหล่านั้น มีความพร้อมในการแข่งขัน ประเทศจึงจะเดินหน้าไปได้ ไม่ใช่เอื้อประโยชน์ให้เพียงแต่กลุ่มทุนรายใหญ่เท่านั้น ดังนั้น ปัญหาของไทยขณะนี้ คือ มีกฎหมายล้าหลัง ผู้บริหารขาดวิสัยทัศน์ และต้องมีการสร้างขีดความสามารถของมนุษย์ แต่มองว่า 8 ปีที่ผ่านมา ผู้นำของประเทศยังไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย

“ที่ผ่านมา กว่า 30 ปี มักจะได้ยินว่า ส.ส.ไปรับเงินในห้องน้ำ เวลาจะผ่านกฎหมายสำคัญ และส.ส.ยังสามารถย้ายพรรคได้ตลอดเวลา จึงทำให้ ส.ส.ไปทำมาหากิน เหมือนที่ชอบกินกล้วย เป็นแบบนี้มาตลอด จนนำไปสู่การปฎิรูปประเทศ เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญมาหลายฉบับ ซึ่งหากถามว่าจะสามารถเปลี่ยนประเทศได้หรือไม่นั้น จะต้องทำให้รัฐบาลเข้มแข็ง ส.ส.กินกล้วยต้องหมดสภาฯ และที่สำคัญ ต้องมีกระบวนการคัดสรรนายกรัฐมนตรี ที่ตรงกับสายวิชาชีพ ไม่ใช่เอายาม หรืออาชีวะมาทำหน้าที่ ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหา และถ้าจะให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ สิ่งสำคัญคือประชาชนต้องรับผิดชอบผ่านการเลือกตั้ง” นายยงยุทธ กล่าว

ส่วนการเลือกตั้งในปีหน้าจะเกิดปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ คือ ฝ่ายประชาธิปไตย จะชนะทั้งประเทศหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่าตราบใดที่เรายังมี ส.ว.250 คน ก็คือปัญหา ดังนั้นการที่บอกจะแลนด์สไลด์ ภายใต้เงื่อนไขและกติกาในปัจจุบัน ต้องได้ 300 เสียง ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะการจัดกระบวนทัพของฝ่ายตรงข้ามประชาธิปไตยยังไม่เรียบร้อย แต่ถ้าเรียบร้อยแล้ว คาดว่าคะแนนก็น่าจะเบี่ยงกันเล็กน้อย และแม้การเลือกตั้งจะได้เสียงถล่มทลายแค่ไหน แต่เมื่อตั้งรัฐบาล ก็จะได้คนเดิมๆ กลับมา ซึ่งตนมีข้อกังวลในเรื่องนี้

ทั้งนี้ มองปรากฏการณ์ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงจนล้มรัฐบาลได้หรือไม่นั้น นายยงยุทธ กล่าวว่า การจะล้มรัฐบาลเป็นปรากฏการณ์ที่ยากมาก เพราะ กระบวนการในสภาฯ ยังเอื้อกับฝ่ายรัฐบาล ทั้งประธานสภาฯ ที่มักจะชอบปิดประชุมทุกครั้งที่รัฐบาลอยู่ในสถานการณ์ที่เพลี่ยงพล้ำ และมักจะมีช่องทางให้ซื้อ ส.ส. เพื่อโหวตภารกิจสำคัญ

ภายหลังเสวนา มีการร่วมรับประทานอาหารของผู้สนับสนุนพรรค รวมถึงมีการแสดงดนตรีสดจากวงออร์เคสตรา (Orchestra) จากนายสุกรี เจริญสุข รวมถึงการแสดงงานศิลปะจากนายสุชาติวงษ์ทอง ศิลปินสีน้ำชื่อดังและครูศิลปะนานาชาติ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]