รมต.อนุชา ดันหน่วยงานภาครัฐสู่ “รัฐบาลดิจิทัล” สะดวกเท่าเทียม

กรุงเทพฯ 28 พ.ค.- รมต.อนุชา ดันหน่วยงานภาครัฐปรับตัวสู่การเป็น “รัฐบาลดิจิทัล” ประชาชนเข้าถึงบริการได้สะดวก เท่าเทียม


วันนี้ (28 พฤษภาคม 2565) เวลา 11.00 น. นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานสัมมนา “Digital Government Summit 2022” ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA โดยมี นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดร.สุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล นายธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วม

ภายในงาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “ก้าวต่อไปของการเป็นรัฐบาลดิจิทัล” โดยมีเนื้อหาการพัฒนาภาครัฐไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล ซึ่งเป็นกลไกหลักที่สำคัญในการนำพาประเทศไทยก้าวข้ามความท้าทายต่างๆ ไปสู่โลกอนาคตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแนวคิดประเทศไทย 4.0 ทุกหน่วยงานภาครัฐจึงต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ผันผวนในอนาคต โดยคำนึงถึง 3 แนวทางหลักในการพัฒนา ประกอบด้วย 1. ข้อมูล ซึ่งเป็นฐานสำคัญในการนำไปตัดสินใจประกอบการดำเนินงานด้านต่างๆ 2. แพลตฟอร์มกลางภาครัฐ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการบูรณาการการทำงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน 3. การพัฒนาบุคลากรภาครัฐ ยกระดับทักษะด้านดิจิทัลให้บุคลากรภาครัฐทุกคนมีความพร้อมสำหรับการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของหน่วยงาน


รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าโลกยุคดิจิทัลเป็นยุคแห่งโอกาสที่ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและการบริการภาครัฐผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ องค์กรภาครัฐจึงควรมีการปรับปรุงและพัฒนาการบริการประชาชนสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล เพื่ออำนวยความสะดวก สร้างประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน และให้บริการข้อมูลข่าวสารอย่างเท่าเทียม ทั่วถึง ตามนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐเพื่อผลักดันการบริการและข้อมูลดังกล่าวเข้าสู่ระบบดิจิทัล เช่น การจัดทำแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐเบ็ดเสร็จได้ในจุดเดียว เช่น ตรวจสอบเครดิตบูโร ตรวจสอบข้อมูลทะเบียนรถ เช็คสิทธิเลือกตั้งและแจ้งเหตุไม่ไปเลือกตั้ง ข้อมูลใบขับขี่ ข้อมูลไปสั่งจราจร ข้อมูลประกันสังคม เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด สิทธิรักษาพยาบาล ตรวจสอบข้อมูลที่ดิน ที่อยู่อาศัย ข้อมูลอาชีพ การขอหนังสือรับรองผล O-Net และชำระค่าสาธารณูปโภค รวมถึงการให้บริการแจ้งความออนไลน์ และการรับเรื่องร้องทุกข์ต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีต่างๆ รองรับการเข้าถึงระบบของภาครัฐ อย่างเช่น ดิจิทัลไอดี เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปรับตัวประเทศสู่การเป็นสังคมดิจิทัลในอนาคต

โอกาสนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมเปิดสถาบันนวัตกรรมและธรรมาภิบาลข้อมูล (DIGI : Data innovation and Governance Institute) และมอบรางวัลต้นแบบท้องถิ่นดิจิทัล และรางวัลประกวดการใช้ประโยชน์จากข้อมูลภาครัฐในการวิเคราะห์เชิงลึก (Data Analytic) ในโครงการ DIGI Data Camp “ค่ายสานฝันป้อมอัศวินข้อมูลภาครัฐประจำปี 2565” และร่วมชมนิทรรศการการให้บริการภาครัฐด้วยระบบดิจิทัล โดยประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมงานและรับบริการภาครัฐ อาทิ ทำบัตรประชาชน ทำพาสปอต ตรวจสอบเครดิตบูโร ต่อใบอนุญาตประกอบการ แจ้งความออนไลน์ ตรวจสอบใบสั่งจราจรออนไลน์ ลงทะเบียนยืนยันตัวตน SME ในระหว่างวันที่ 28-29 พฤษภาคม 2565 ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิขยับลงอีก 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1 – 2 องศาฯ ยอดดอยและยอดภูหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง

ยิงพรานล่าหมูป่า

เพื่อนรับเป็นคนยิงนายพรานวัย 52 อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า

เพื่อนเปิดปากรับสารภาพเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายพรานวัย 52 ปี เสียชีวิตในสวนผลไม้ อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า ยืนยันไม่ได้มีปัญหาหรือมีเรื่องกันมาก่อน

เติมน้ำมันไม่จ่าย

แท็กซี่เติมน้ำมันไม่จ่าย ซิ่งหนีพุ่งชนรถ 5 คันรวด

ตำรวจชัยภูมิ ไล่ล่าแท็กซี่เติมน้ำมัน แล้วซิ่งหนี ไม่จ่ายเงิน แถมยังขับพุ่งชนรถตำรวจ รถเก๋งและรถ 6 ล้อ รวม 5 คันรวด