กรุงเทพฯ 24 พ.ค. – กมธ.ป.ป.ช.วุฒิสภา ผลักดัน “1 โครงการ 1 QR Code” ติดตามตรวจสอบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ป้องกันทุจริตคอร์รัปชัน ดึงประชาชนร่วมแจ้งเบาะแส
วันที่ 24 พ.ค.65 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 เป็นประธานในการประชุม ที่ประชุมได้พิจารณารายงานเรื่องการจัดทำระบบการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ซึ่งคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ได้พิจารณาเสร็จแล้ว
พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ชี้แจงว่า คณะกรรมาธิการได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการทุจริตคอร์รัปชัน เนื่องจากสถานการณ์การทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการต่างๆ ของภาครัฐ เป็นปัญหาสำคัญระดับประเทศ เพราะเกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณแผ่นดิน และมีมูลค่าสูงมากขึ้นทุกปี โดยในปี 2564 มีงบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้าง 1.2 ล้านล้านบาท ซึ่งปัญหานี้ยังส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และมีผลต่อการตัดสินใจในการลงทุนของประเทศ
พล.ร.อ.ศิษฐวัชร กล่าวว่า นอกจากนี้โครงการประเภทจ้างก่อสร้าง ถือเป็นโครงการที่มีมูลค่างบประมาณสูงที่สุดในทุกปี ประกอบกับเมื่อพิจารณาข้อมูลดัชนีชี้วัดความโกง หรือดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชัน ซึ่งจัดทำโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ได้รายงานดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันโลกประจำปี 2564 จาก 180 ประเทศทั่วโลก พบว่าประเทศไทยมีคะแนนจำนวน 35 คะแนน จาก 100 คะแนนเต็ม สะท้อนว่าการทุจริตหรือคอร์รัปชันในประเทศไทยยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และมีผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนในการใช้ประโยชน์จากโครงการที่ภาครัฐจัดซื้อจัดจ้าง อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศ เพราะเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศในสายตาของนักลงทุนต่างชาติอีกด้วย
พล.ร.อ.ศิษฐวัชร กล่าวอีกว่า คณะกรรมาธิการได้มีการศึกษาและจัดทำระบบติดตาม ตรวจสอบ และป้องกันปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันในการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐในรูปแบบ QR Code เพื่อเป็นเครื่องมือหรือกลไกสำคัญในการเปิดโอกาสและสร้างแรงจูงใจให้เครือข่ายภาคประชาสังคม หรือประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมเฝ้าระวัง สอดส่อง และแจ้งเบาะแสการทุจริตในพื้นที่ของตน เนื่องจากได้เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและตรวจสอบการบริหารการจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ในรูปแบบ 1 โครงการ 1 QR Code ซึ่งมีมาตรการในการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสไว้เป็นความลับ เป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการต่อต้านทุจริต เพื่อการพิจารณาระบบและกลไกปราบปรามการทุจริตให้มีประสิทธิภาพ
“จะมีการบูรณาการข้อมูลกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน ในการตรวจสอบความถูกต้อง ซึ่งการจัดทำรูปแบบ QR Code ถือว่ามีความสะดวกไม่ซับซ้อน และมีขั้นตอนที่ง่ายในการดำเนินการ ซึ่งผู้ปฏิบัติงานสามารถดำเนินการโดยไม่ต้องใช้จ่ายงบประมาณเพิ่ม จึงไม่มีปัญหาเรื่องขาดคนและขาดงบประมาณอีกต่อไป อีกทั้งยังเป็นการอำนวยความสะดวกในการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่จะร่วมกันตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐได้เป็นอย่างดีด้วย” พล.ร.อ.ศิษฐวัชร กล่าว .-สำนักข่าวไทย