พท.ชี้  8 ปีมีแต่เสื่อมถอย

พรรคเพื่อไทย 24 พ.ค.- “เพื่อไทย” ชี้ 8 ปีรัฐบาลมีแต่ความเสื่อมถอย  “จิราพร” ระบุ จัดเอเปค ส่อเค้าล้มเหลว ระบุพปชร.ไม่ทำตามที่หาเสียง มือไม่ถึง ควรสละอำนาจ


คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย นำโดย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์ ด้านเศรษฐกิจ น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย นายพชร นริพทะพันธุ์ กรรมการบริหารพรรค ร่วมแถลงข่าว “8 ปีแห่งความเสื่อมถอย” “เพื่อไทย เพื่ออนาคตที่สดใสของประเทศไทย”  โดยนายพิชัย กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.แบบแลนด์สไลด์ หรือแบบถล่มทลาย ซึ่งหวังว่าผลจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯ  กทม.ที่ชาวกทม.ส่วนใหญ่แสดงชัดเจนว่าไม่เลือกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาจะนำมาสู่การชนะแบบแลนด์สไลด์ให้กับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้

“แสดงให้เห็นว่าประชาชนเบื่อหน่ายกับคำแก้ตัวซ้ำ ๆ ของพล.อ.ประยุทธ์ ที่อ้างว่าต้องทำรัฐประหารเข้ามาเพราะต้องแก้ไขความวุ่นวายและเพื่อให้เกิดความสงบ ทั้งที่คนที่สร้างความวุ่นวายคือคนที่ได้ดิบได้ดีและอยู่รอบตัวพล.อ.ประยุทธ์ทั้งนั้น รวมถึงบางคนที่ถูกประชาชนลงโทษให้สอบตกจากผู้ว่าฯ กทม. ครั้งนี้ด้วย” นายพิชัย กล่าว


นายพิชัย กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าตลอด 8 ปีที่ผ่านมาประชาชนทนไม่ไหวและรับไม่ได้แล้วกับความเสื่อมถอยทุกด้านของประเทศ ทั้งเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจจะชัดเจนที่สุดเพราะเป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่พิสูจน์ได้ ไม่ใช่แค่วาทกรรม การบริหารเศรษฐกิจผิดพลาดทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยต่ำเตี้ยมาตลอด 8 ปีทำให้รายได้ของประชาชนหดหาย หนี้สินล้นทะลัก ทั้งหนี้สินประเทศ หนี้สินภาคครัวเรือน หนี้ภาคธุรกิจ หนี้เสียธนาคาร หนี้นอกระบบพากันพุ่งกระฉูด และยังไม่แนวโน้มลดลง คนตกงานเพิ่มขึ้นหลายล้านคน อีกทั้งคนจนเพิ่มขึ้นทุกปีตลอด 8 ปี จนต้องแจกบัตรคนจนมากถึง 20 ล้านใบ

นายพิชัย กล่าวว่า ขณะที่ความสามารถแข่งขันของประเทศลดลง ถูกประเทศเพื่อนบ้านแซงหน้ากันแล้ว เช่น ลาว กลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางราง หลังจากรถไฟความเร็วสูง จีน-ลาวเสร็จ ศูนย์กลางผลิตรถยนต์สมัยใหม่ย้ายไปอินโดนิเซีย ศูนย์กลางผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปอยู่ที่เวียดนาม และไทยกลายเป็นเมืองขึ้นทางเทคโนโลยีสมัยใหม่เพราะไม่พัฒนาธุรกิจเทคโนโลยีขนาดใหญ่หรือยูนิคอร์น อีกทั้งความเหลื่อมล้ำของไทยเพิ่มมากขึ้นจนติดอันดับโลก

“รัฐบาลปล่อยให้เจ้าสัวผูกขาดควบรวมกิจการ ทั้งการควบรวมแมคโคร-โลตัส และการควบรวม ทรู-ดีแทค รวมถึงการให้คนบางกลุ่มมีอิทธิพลทางธุรกิจพลังงาน ซึ่งทำให้คนรุ่นใหม่ถูกปิดกั้นในการพัฒนาขึ้นมาเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ในอนาคต และการคอรัปชั่นที่พุ่งสูงขนาดองค์การระหว่างประเทศยังจัดอันดับทุจริตของไทยแย่ลง 5 ปีติดกัน จากอันดับ 96 ในปี 2560 มาเป็นอันดับ 110 ในปี 2564” นายพิชัย กล่าว


นายพิชัย กล่าวว่า ด้านสังคมก็ย่ำแย่ไม่ต่างกัน คนรุ่นใหม่ถูกปิดกั้นทางความคิด ถูกดำเนินคดี และอยากย้ายประเทศเป็นล้านคน ในขณะที่ความเสื่อมถอยทางการเมืองเหมือนย้อนยุค 30 ปี ที่มีสว. 250 คน มาโหวตนายกฯ พรรคการเมืองอ่อนแอมีพรรคเล็กพรรคน้อยมากมายมาต่อรองผลประโยชน์

“8 ปีที่ผ่านมาปัญหาทั้งหมดเกิดมาจากความต้องการที่จะรักษาอำนาจของผู้นำ โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของประเทศ นี่เป็นสาเหตุที่รัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่าผู้นำต้องไม่อยู่เกิน 8 ปีจากปัญหานี้ ดังนั้นพลเอกประยุทธ์ อย่าดันทุรังอีกเลย ประชาชนได้แสดงความต้องการชัดเจนแล้วว่าอยากเปลี่ยนผู้นำขอให้มั่นใจได้ว่าพรรคเพื่อไทยจะมีแนวทางฟื้นเศรษฐกิจชัดเจน โดยเสนอแนวคิดมาตลอด และขอให้มั่นใจได้ว่า “เพื่อไทย เพื่ออนาคตที่สดใสของประเทศไทย” นายพิชัย กล่าว

น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.จังหวัดร้อยเอ็ด และ กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทุกครั้งที่รัฐประหาร มักจะอ้างความสุขของประชาชน แต่กลับทำลายนโยบายดี ๆ ที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ซึ่งหากจำกันได้ เมื่อพล.อ.ประยุทธ์รัฐประหารเข้ามา พยายามจะล้มโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค แต่นโยบายดังกล่าวได้รับรางวัลจากสหประชาชาติ จึงทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถเลิกได้ แถมกลับไปเอาหน้าเอาเครดิตที่สหประชาชาติ

“นโยบายแจกแท็บเล็ตให้นักเรียนเมื่อ 10 ปีกว่าก่อน ซึ่งเป็นการปูพื้นฐานความรู้ทางคอมพิวเตอร์และการเข้าถึงเศรษฐกิจดิจิตอลที่มีความสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน แต่ก็ถูกยกเลิกจากการเข้ามาของคณะรัฐประหาร อีกทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูงซึ่งเห็นได้ชัดว่าประเทศลาวได้ประโยชน์อย่างมากจากโครงการนี้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่มา 8 ปี แต่ระบบคมนาคมขนส่งของไทย โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูงยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และใช้งบประมาณเฉลี่ยสูงกว่าสมัยรัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นอย่างมาก หนี้สาธารณะเพิ่มสูงกว่า 10 ล้านล้านบาทแต่ประเทศไม่ได้พัฒนาเลย”  น.ส.จิราพร กล่าว

“ส่วนพรรคพปชร. ที่หาเสียงไว้ ทั้งค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400-425 บาท เงินเดือนอาชีวะ 18,000 บาท ปริญญาตรี เดือนละ 20,000 บาท ข้าวหอมมะลิตันละ 18,000 บาท ข้าวเจ้าตันละ 12,000 บาท มารดาประชารัฐ ฯลฯ กลับไม่ทำเลย ไม่ต่างอะไรกับเพลงเราจะทำตามสัญญาขอเวลาอีกไม่นาน แต่ปาเข้าไป 8 ปีแล้ว”  น.ส.จิราพร กล่าว

น.ส.จิราพร กล่าวว่า การที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม APEC ในปลายปีนี้ส่อเค้าจะล้มเหลว เพราะยังไม่ทันไร การประชุมรัฐมนตรีการค้าจาก 21 เขตเศรษฐกิจมีความขัดแย้งสูง กลายเป็นสนามประลองกำลังของมหาอำนาจ ไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมได้ประเทศไทยต้องออกแถลงการณ์เองแก้เก้อ บ่งชี้ถึงศักยภาพที่อ่อนด้อยในการบริหารจัดการการประชุมนานาชาติของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งต่างจากรัฐบาลในอดีตอย่างสิ้นเชิง

“ทางที่ดีที่สุดพล.อ.ประยุทธ์ควรเลิกพยายามกระเสือกกระสนที่จะอยู่ในอำนาจให้นานที่สุด เพื่อได้นั่งเป็นประธานเอเปค หวังจะกอบกู้ภาพลักษณ์ตัวเองคืน แต่ถ้ารู้ตัวว่ามือไม่ถึงก็ควรจะสละอำนาจ และให้รัฐบาลที่มาจากประชาชนได้เข้ามาบริหารประเทศแทน” น.ส.จิราพร กล่าว

นายพชร นริพทะพันธุ์ กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตลอด 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ล้มเหลวในการพัฒนาดิจิตอลและด้านพลังงาน ซึ่งเป็นสองแนวทางหลักในการพัฒนาประเทศ ทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสอย่างมาก และยังตัดอนาคตของคนรุ่นใหม่ ที่จะพัฒนามาเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ในอนาคตได้ ส่วนด้านดิจิตอล พล.อ.ประยุทธ์ปล่อยให้ควบรวมของผู้ประกอบการรายใหญ่เช่น ทรูและดีแทคที่จะสร้างปัญหาให้กับประชาชนในอนาคต และยังปล่อยให้ข้อมูลส่วนตัวของประชาชนรั่วไหล อีกทั้งยังปล่อยให้มี Digital Harassment มี SMS และ การโทรศัพท์หลอกลวงทำให้ประชาชนโดนหลอกเสียเงินจำนวนมาก และยังไม่มีทิศทางชัดเจนเรื่องเงินดิจิตอล และ สินทรัพย์ดิจิตอล นอกจากนี้ระบบการศึกษาไม่ส่งเสริมให้ผลิตบุคคลการทางดิจิตอลที่สำคัญสำหรับการพัฒนาประเทศ

นายพชร กล่าวว่า สำหรับด้านพลังงาน การจัดการข้อพิพาทในพื้นที่ที่มีก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยเป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพทำให้มีปัญหาในการนำก๊าซธรรมชาติขึ้นมา และอาจจะเป็นปัญหาเหมือนกรณีเหมืองทองคิงส์เกตได้ แนวทางบริหารพลังงานของพลเอกประยุทธ์ ไม่ส่งเสริมให้มีผู้ประกอบการรายใหญ่ มีแต่รายเดิม ๆ อีกทั้งการบริหารจัดการผิดพลาดไม่ได้คำนึงถึงความต้องการใช้พลังงานที่แท้จริงทำให้ประชาชนต้องแบกรับภาระค่าไฟฟ้าที่สูงเกินจริง

“นี่เป็นเพียงบางปัญหาเท่านั้น ปัญหาทางด้านดิจิตอลและด้านพลังงานยังมีอีกมาก ซึ่งมีเรื่องใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา และอาจจะยากเกินกว่าที่พลเอกประยุทธ์ จะเข้าใจ ซึ่งทำให้ประเทศไทยก้าวไม่ทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งจะทำให้คนรุ่นใหม่เสียโอกาสอย่างมาก” นายพชร กล่าว.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]