fbpx

ไทยหนุน IPEF ดันเศรษฐกิจ การค้า ลงทุนยั่งยืน

ทำเนียบรัฐบาล 23 พ.ค.-นายกฯ กล่าวถ้อยแถลงเปิดตัวกรอบความร่วมมือ IPEF ผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน เน้นการมีส่วนร่วม สร้างความเจริญรุ่งเรือง มั่งคั่ง ยั่งยืน


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมกิจกรรมเปิดตัวกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด – แปซิฟิก (Indo-Pacific Economic Framework: IPEF) ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) โดยนายกรัฐมนตรีร่วมกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น รวมทั้งผู้นำอินเดีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐเกาหลี สิงคโปร์ และเวียดนามร่วมกันประกาศถ้อยแถลงว่าด้วยกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิกเพื่อความเจริญรุ่งเรือง เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะพัฒนาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจภายใต้กรอบความร่วมมือ IPEF พร้อมกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุม

ายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่จัดกิจกรรมในวันนี้ และขอแสดงความยินดีกับสหรัฐฯ ต่อแนวคิดที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่น ในการมีบทบาทอย่างสร้างสรรค์ เพื่อส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของภูมิภาค ซึ่งได้รับการตอบรับด้วยดีจากประเทศสมาชิกอาเซียน โดย IPEF เป็นกรอบความร่วมมือเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน ที่จะนำไปสู่โอกาสใน 4 สาขา เพื่อยกระดับมาตรฐานด้านต่าง ๆ ทั้งนโยบาย กฎหมาย อุตสาหกรรม และสิ่งแวดล้อม ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนและเทคโนโลยีที่จะนำมาพัฒนาประเทศ เชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานเข้าด้วยกัน ซึ่งหวังว่าจะมีการปรึกษาหารือในรายละเอียดต่อไป


“ไทยสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจมาทุกยุคสมัยด้วยรายได้จากการส่งออกสินค้าและบริการ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 60 ของ GDP จึงให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมความร่วมมือในภูมิภาค ขยายโอกาสทางการค้า การลงทุน เร่งขับเคลื่อนประเทศ มุ่งเน้นเสริมสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สมดุล และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมผ่านโมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งรวมถึงการเร่งการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานไปสู่การใช้พลังงานสะอาด การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และการสร้างมูลค่าเพิ่มโดยใช้องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ทั้งนี้ ไทยเห็นว่าไม่มีประเทศใดที่จะรับมือกับความท้าทายนี้โดยลำพังได้ จึงยินดีที่ IPEF มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค เพื่อเสริมสร้างความเจริญรุ่งเรือง มั่งคั่ง ยั่งยืน และครอบคลุมร่วมกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประวัติศาสตร์ของโลกและของประเทศไทยได้แสดงให้เห็นแล้วว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน จะเกิดประโยชน์สูงสุดได้ ก็ต่อเมื่อนำไปใช้สร้างความปรองดองในภูมิภาค และประเทศไทยยึดมั่นในระบบการค้าเสรีและเปิดการค้าเสรีกับหลายประเทศ พร้อมเชื่อว่าความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกันในภูมิภาคอย่างครอบคลุม จะก่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองและมั่งคั่งร่วมกัน นำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนอย่างแท้จริง

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความยินดีที่ได้ร่วมมือกับหุ้นส่วนประเทศพันธมิตรเสริมสร้างกรอบความร่วมมือ IPEF ซึ่งให้ความสำคัญต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่เปิดกว้าง ครอบคลุม ยั่งยืน และส่งผลประโยชน์ต่อประชาชนของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก รวมทั้งยังมุ่งที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน เพิ่มการสร้างงานในสาขาที่เปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล และพลังงานสะอาด รวมถึงผลักดันการค้าและการลงทุนที่เป็นธรรม มีมาตรฐาน และขจัดคอร์รัปชันที่เป็นอุปสรรคในการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ


นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า IPEF จะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ซึ่งมีประชากรมากกว่ากึ่งหนึ่งของโลก มี GDP ครอบคลุมถึงร้อยละ 60 และเป็นภูมิภาคที่มีส่วนสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจของโลก ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับสหรัฐฯ และพันธมิตร ขับเคลื่อนความร่วมมือที่สร้างเข้มแข็ง เชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน สร้างการค้าและการลงทุนที่มีความโปร่งใส มีการพัฒนาทุนมนุษย์ และมีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ญี่ปุ่นยังให้ความสำคัญกับความเป็นหนึ่งเดียว และการเป็นแกนกลางของอาเซียน และยินดีเปิดรับหุ้นส่วนประเทศอื่น ๆ เข้าร่วมในอนาคต จึงหวังว่าทุกฝ่ายจะได้ร่วมกันขับเคลื่อน IPEF ให้เป็นกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่เสริมสร้างความร่วมมือกับทุกประเทศในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง