“จุรินทร์” ยินดีผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่

กรุงเทพฯ 23 พ.ค.- “จุรินทร์” แสดงความยินดี “ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่” พร้อมขอบคุณทุกคะแนนเลือก “ดร.เอ้-ส.ก.ปชป.” มองในทางบวก คนกรุงฯ ยังให้โอกาสพรรค


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานครว่า ขอแสดงความยินดีกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ พร้อมขอบคุณพี่น้องชาวกรุงเทพมหานครที่ช่วยลงคะแนนเสียงให้กับผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรค และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ซึ่งทุกคะแนนเสียงถือว่ามีความหมายกับพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งขอบคุณสมาชิกพรรคจากทั่วประเทศ ที่ช่วยเป็นกำลังใจให้กับการเลือกตั้งในกรุงเทพฯ

“พี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร ถือว่าทุกคะแนนเสียงมีความหมาย มีความสำคัญอย่างยิ่งกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งการเลือกตั้งเที่ยวนี้ ผมได้ประเมินในทางบวกว่า เป็นไปในทิศทางที่ถือว่าพี่น้องชาวกรุงเทพมหานครในภาพรวมก็ยังให้โอกาสกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะต้องยอมรับว่าหลังจากการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งไม่ใช่การเลือกตั้งท้องถิ่น อย่างเที่ยวนี้เราไม่ได้รับเลือกตั้งในกรุงเทพมหานคร แต่การที่เที่ยวนี้ผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ประชาธิปัตย์มาอันดับสอง และเลือกตั้ง ส.ก. ก็ได้รับเลือกตั้ง หากตัวเลขไม่เปลี่ยนถึง 9 คน ก็ถือว่าเป็นไปในทิศทางบวกสำหรับพรรค ฝากขอบคุณพี่น้องชาวกรุงเทพมหานครทุกท่านด้วยความซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว


เมื่อถามว่า นายสุชัชวีร์ ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นครั้งแรก แต่คะแนนมาเป็นอันดับ 2 นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ผลเป็นที่น่าพอใจ นายสุชัชวีร์ เป็นบุคลากรที่มีศักยภาพ เพราะฉะนั้นยังสามารถทำงานทางการเมืองไปได้อีกเยอะ ตนก็จะหาโอกาสคุยกับนายสุชชัชวีร์ว่า สนใจงานที่จะช่วยพรรคในด้านใดบ้าง ซึ่งยินดีอย่างยิ่ง หากจะมาทำงานการเมืองให้กับพรรคในรูปแบบอื่น และคงเป็นเรื่องที่ต้องหารือกันต่อไป โดยต้องเป็นความสมัครใจด้วย

สำหรับการที่พรรคเพื่อไทย ได้จำนวน ส.ก. ในหลายเขต มีความกังวลเรื่องการสะท้อนถึงคะแนนนิยมในการเลือกตั้งใหญ่หรือไม่นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า เป็นคำตอบหนึ่งสำหรับในสถานการณ์ปัจจุบัน และเป็นคำตอบหนึ่งสำหรับการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นของกรุงเทพมหานคร แต่จะมีผลกระทบมากน้อยแค่ไหนกับระดับประเทศในการเลือกตั้งครั้งต่อไปนั้น ยังไม่สามารถตอบได้ และยังไม่สามารถวิเคราะห์ได้

เมื่อถามถึงคำว่าเพื่อไทยแลนด์สไลด์ จะมีโอกาสมากน้อยแค่ไหน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ขอไม่วิจารณ์ แต่ทุกพรรคมีสิทธิ์ตั้งธงของตัวเอง ตนไม่คิดว่าจะมีพรรคเดียวที่ตั้งธงของตัวเองว่าจะต้องเป็นอะไร ทุกพรรคก็ต้องตั้งเป้าหมายด้วยกันทั้งสิ้น เป้าหมายเป็นตัวเลข หรือเป้าหมายเป็นการรณรงค์หาเสียงก็สุดแล้วแต่ แต่ละพรรคการเมือง เพื่อไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกพรรคจะต้องคิดทำ แล้วก็กำหนดทิศทางในการที่จะเดินไปข้างหน้า คงเหมือนกับหลายๆ พรรคที่ทำอยู่เช่นเดียวกัน แต่ผลเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องเป็นผู้ให้คำตอบ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง