คาดรู้ผลเลือกตั้ง ‘ผู้ว่าฯ กทม.’ ไม่เป็นทางการ 22.00 น.

อสมท 21 พ.ค.- ปลัด กทม. คาดรู้ผลคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. อย่างไม่เป็นทางการ 22.00 น. หากไม่มีปัญหาเรื่องร้องเรียน เชื่อ กกต. ประกาศรับรองผลภายใน 1 เดือน ย้ำหลัง 18.00 น. วันนี้ หยุดหาเสียง ไม่กดไลค์-แชร์ข้อความ ป้องกันผิดกฎหมายเลือกตั้ง


นายขจิตร ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานครกล่าวถึง ความพร้อม การตรวจวัสดุอุปกรณ์ การเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก.) และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้แก่คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ทั้ง 50 เขต ว่า มีความพร้อมทั้ง 50 เขตเป็นการตรวจทานก่อนว่าบัตรที่ให้ไปมีการปั๊มตราเรียบร้อยแล้วหรือไม่ บัตรครบถ้วนหรือไม่ และอบรมซักซ้อมเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น โดยวันพรุ่งนี้ (22 พ.ค.65) เวลา 05.00 น. กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ารับอุปกรณ์ที่ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วไปที่หน่วยเลือกตั้ง ส่วนการเตรียมความพร้อมของหน่วยเลือกตั้งกรณีฝนตก นั้น ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ได้ขอให้ผู้อำนวยการเขตแต่ละเขตออกไปตรวจหน่วยเลือกตั้ง โดยเฉพาะหน่วยเลือกตั้งใดที่มีความเสี่ยงปัญหาน้ำท่วมขัง ให้จัดเตรียมเลททางเดินให้ประชาชนใช้เข้าออกได้อย่างสะดวก

สำหรับ ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าจะพกร่ม พกเจลหรือสเปย์แอลกอฮอล์ ติดตัวมาอยู่แล้ว และขอให้พิจารณามาก่อนว่าจะเลือกผู้สมัครท่านใดเพื่อความสะดวกรวดเร็วไม่ต้องพะวงหน้าหน่วยเลือกตั้ง รวมถึงลำดับที่หน่วยเลือกตั้ง ที่สามารถดูได้จากใบแจ้งที่ทางสำนักงานเขตส่งไปยังที่อยู่ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบสิทธิเลือกตั้งจากเว็บไซต์ของสำนักการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย โดยการกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ซึ่งจะระบุสถานที่หน่วยเลือกตั้ง รวมถึงสิทธิว่าสามารถเลือกตั้งได้ทั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและส.ก. หรือเลือกได้เฉพาะผู้ว่าฯ กทม.ได้อย่างเดียว


“ประเมินว่าในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ค.) จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ซึ่งเป็นจำนวนที่จะได้เสียงส่วนใหญ่ที่เหมาะสม เพราะกรุงเทพมหานครห่างหายจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เป็นเวลา 9 ปี ส่วน ส.ก. เกือบ 11 ปี เชื่อว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยเฉพาะการใช้สิทธิครั้งแรก คงไม่สละสิทธิ” ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าว

ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวอีกว่า สำหรับผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ คาดว่าจะทยอยส่งมาจากแต่ละเขต ตั้งแต่เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป โดยการรวมผลคะแนน จะส่งมาจากสำนักงานเขต เพื่อบันทึกข้อมูลของแต่ละเขต เข้าสู่ระบบประมวลผลคะแนน และจะถูกส่งไปยังศูนย์ประมวลผลใหญ่เพื่อรวบรวมคะแนนของทั้ง 50 สำนักงานเขต ไปขึ้นจอแสดงผลที่ห้องบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง คาดว่าผลอย่างไม่เป็นทางการ น่าจะทราบได้ในช่วง 22.00 – 23.00 น. ซึ่งกรุงเทพมหานครจะมีการแถลงข่าวเป็นระยะ

สำหรับการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. หากไม่มีอะไรผิดพลาดหรือมีอะเรื่องร้องเรียน คาดว่าจะประกาศรับรองผลได้ภายในหนึ่งเดือน ทั้งนี้ต้องดูว่าผู้ชนะการเลือกตั้ง มีเรื่องร้องเรียนหรือไม่ การจัดการเลือกตั้งไม่เป็นที่ครหา


ปลัดกรุงเทพมหานคร ยังย้ำ ตั้งแต่เวลา 18:00 น.ของวันนี้(21 พ.ค.) ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. และ ส.ก. ต้องหยุดการหาเสียง ทันที ส่วนประชาชนหากมีคลิปวิดีโอการหาเสียงของบรรดาผู้สมัคร ที่ใช้หาเสียง ต้องไม่กดไลท์กดแชร์เพิ่มเติม ป้องกันปัญหาการรีรัน ซึ่งอาจจะผิดกฏหมายเลือกตั้งได้ ขณะที่วันพรุ่งนี้(22พ.ค.65) เมื่อไปถึงหน่วยเลือกตั้งไม่ควรโพสต์ภาพข้อความว่าสนับสนุนใครคนใดคนหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และอาจเป็นเหตุให้ผู้สมัครท่านนั้นมีความเสี่ยงถูกร้องเรียนได้ อีกทั้งเมื่อเข้าไปในคูหาเลือกตั้งไม่ควรถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งหรือการลงคะแนน แต่หากเห็นมีผู้ที่เข้าข่ายกระทำการทุจริตก็สามารถแจ้งไปยัง กกต.ได้

ส่วนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่มาถึงหน่วยเลือกตั้งในเวลา 17.00 น. ยังสามารถใช้สิทธิได้หรือไม่ ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่าถ้ามาเข้าแถวทันเวลา 17.00 น. จะได้ใช้สิทธิทุกคน แต่หากเจ้าหน้าที่ทำการตัดแถวแล้วยังมีบุคคลที่เดินทางมาก็ไม่สามารถที่จะใช้สิทธิหลังเวลาปิดหีบ 17.00 น. ได้ เพื่อป้องกันการถูกร้องเรียนจนอาจทำให้หน่วยเลือกตั้งนั้นต้องมีการนับคะแนนใหม่ จึงขอให้ทุกคนเข้าใจในจุดนี้

“ทุกเสียงของประชาชนเป็นเสียงสำคัญที่จะชี้ชะตากรุงเทพมหานครว่าจะมีผู้บริหารที่เก่งผู้บริหารที่ทำงานได้เห็นผลเพื่อมาบริหารกรุงเทพมหานคร เพื่อคนกรุงเทพฯ” ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]