กรุงเทพฯ 20 พ.ค. – “สุชัชวีร์” ผู้สมัครหมายเลข 4 จากพรรคประชาธิปัตย์ ปราศรัยหาเสียงโค้งสุดท้าย ที่หัวลำโพง ขอโอกาสคนกรุงเทพฯ เข้ามาแก้ไขปัญหาให้คนกรุง
นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ เลือกปิดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้าย ที่สถานีรถไฟกรุงเทพฯ หรือหัวลำโพง โดยมีผู้สมัคร ส.ก. ทั้ง 50 คน 50 เขต และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม. ร่วมในเวทีด้วย เพื่อขอคะแนนจากคนกรุงในช่วงโค้งสุดท้าย ด้วยบทสรุปของการเดินทางในเส้นทางผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของตนเอง หลังจากก่อนหน้านี้ได้ใช้ยุทธ์ศาสตร์การลงพื้นที่อย่างหนักครบทั้ง 50 เขต เพื่อรับฟังปัญหาและนำเสนอนโยบาย
ขณะที่บนเวทีปราศรัย มีคุณเมธี อรุณ หรือเมธี ลาบานูน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มาช่วยปราศรัย รวมทั้งนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ มาร่วมขึ้นเวทีปราศรัยด้วย
ไฮไลท์หลักของเวทีอยู่ที่การส่งข้อความถึงคนกรุงว่า “คนเป็นผู้ว่าฯ ต้องกล้าคิดใหม่ เพื่อเปลี่ยนกรุงเทพฯ” เป็นส่งสัญญาณไปยังคนกรุงเทพฯ ว่า “เบอร์ 4 เปลี่ยนกรุงเทพเราทำได้”
โดยนายสุชัชวีร์ได้เดินจากชานชาลามาขึ้นเวที สวมกอดผู้สมัคร ส.ก. และรับช่อดอกไม้สีเหลืองจากพรรยา พร้อมหอมแก้มก่อนที่จะกอดนายอภิรักษ์ จากนั้นได้ขึ้นเวที กล่าวถึงการจะก้าวขึ้นตำแหน่งผู้ว่า กทม. เป็นเส้นทางนี้ค่อนข้างยากลำบาก แต่ก็พร้อมจะทุ่มเทพลังกายพลังใจกับทุกคน ซึ่งจากการลงพื้นทีทำให้ได้พบมิตรภาพ และหากได้เป็นผู้ว่าฯ จะเป็นผู้ว่าฯ ที่มุ่งมั่นมากที่สุด และจากการเดินหาเสียงครบทุกเขตไม่ต่ำกว่าล้านก้าว ทำให้ทราบว่ากรุงเทพฯ กำลังวิกฤติอยู่ 4 เรื่อง คือ 1.วิกฤติจากภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะเรื่องน้ำท่วม 2.วิกฤติเรื่องเทคโนโลยีคนจำนวนมากขาดโอกาสเข้าถึงอินเทอร์เน็ต รวมถึงผู้นำไม่รู้จักใช้เทคโนโลยีในการเเก้ไขปัญหา
3.วิกฤติเรื่องการศึกษา นับวันความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาจะยิ่งมากขึ้น ต้องปฏิรูปอย่างเร่งด่วน 4.วิกฤติสังคมผู้สูงอายุ ที่เพิ่มขึ้นทุกปี เฉพาะใน กทม.มีจำนวนผู้สูงอายุ 1.2 ล้านคน เเละจะเพิ่มเป็น 2 ล้านคนภายใน 4 ปีข้างหน้า โรงพยาบาลต่างๆ จะไม่เพียงพอให้บริการ ดังนั้นปัญหาต่าง ๆ ที่กล่าวมา ต้องอาศัยคนมีความรู้ความเข้าใจมาเเก้ปัญหา เเละที่สำคัญที่สุด ที่คน กทม. จะต้องเจอปัญหาซ้ำซาก
เเละสำคัญที่สุดที่คน กทม. ต้องประสบปัญหาซ้ำซาก คือ ปัญหาน้ำท่วม โดยยกตัวอย่างการเเก้ปัญหาน้ำท่วมของประเทศสิงคโปร์ ที่มีการทำเเก้มลิงใต้ดิน เเละตึกทุกตึกมีบ่อพักน้ำอยู่ใต้ดิน ซึ่งสามารถเเก้ปัญหาได้อย่างเบ็ดเสร็จ เเต่พอตัดภาพมาที่ประเทศไทย ไม่มีใครเเก้ปัญหานี้ได้
“ดังนั้นผมไม่กล้าพูดว่าถ้าผมได้เป็นผู้ว่าฯ เเล้วจะเเก้ปัญหาน้ำท่วมด้วยวิธีเก่า ๆ โดยการลอกท่อลอกคลอง ผมอาย ผมจะเเก้ปัญหาน้ำท่วมเเบบเบ็ดเสร็จ ผมทำเป็น ผมทำได้”
ขณะที่ด้านการศึกษา จะให้มีโรงเรียนดีใกล้บ้าน เพิ่มสวัสดิการครู กทม. ไวไฟฟรี 150,000 จุด ทั่ว กทม. เป็นเมืองสวัสดิการต้นแบบอาเซียน.-สำนักข่าวไทย