fbpx

ศบค.พรุ่งนี้มีลุ้นผ่อนคลายสถานบันเทิง

ทำเนียบรัฐบาล 19 พ.ค.-เลขาฯ สมช. เผย ประชุมศบค.พรุ่งนี้อาจพิจารณาผ่อนคลายให้สถานบันเทิง ปรับโซนสีพื้นที่สีเขียว –ฟ้ามากขึ้น เชื่อกระตุ้นตัวเลขเศรษฐกิจ


พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศปก.ศบค. กล่าวถึงการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) หรือ ศบค.ในวันพรุ่งนี้(20 พ.ค.) ว่า ที่ประชุมจะรับทราบรายงานผลและประเมินทิศทางการทำงาน หลังปรับเปลี่ยนรูปแบบการเปิดประเทศและปรับพื้นที่โซนสีจังหวัดผ่อนคลายมาตรการลงจากสีส้มเป็นสีเหลืองทั้งหมด และมีพื้นที่สีใช้มาตรการสีเขียว 17 จังหวัด

“ที่ประชุมจะพิจารณาปรับพื้นที่โซนสีให้ผ่อนคลายมากขึ้นจากสีเหลืองเป็นสีเขียวเพิ่มขึ้น รวมทั้งเพิ่มพื้นที่สีฟ้ามากขึ้น เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ในบรรยากาศที่สามารถจะผ่อนคลายมาตรการได้ และจะปรับมาตรการอื่นเพื่อให้ระบบเศรษฐกิจเดินได้สะดวกกว่าเดิม เดินทางเข้าออกประเทศได้คล่องตัว ลดภาระการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ส่วนที่มีข้อกังวลและต้องจับตาคือหลังจากเปิดสถานศึกษาเต็มรูปแบบ 100% ซึ่งเรามีมาตรการรองรับไว้แล้ว” เลขาธิการสมช. กล่าว


พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ส่วนข้อเสนอของผู้ประกอบการ ให้เปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์คาราโอเกะ จะนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมในวันพรุ่งนี้ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาพิจารณามาหลายรอบ แต่ทางสาธารณสุขยังมีความกังวลอยู่ อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้น่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น โดยดูจากวิธีการจัดการตนเองเมื่อติดเชื้อเป็นไปด้วยดี คิดว่าน่าจะได้รับการพิจารณา

ส่วนจะพิจารณาเปิดสถานบันเทิงทั่วประเทศหรือไม่ เลขาธิการสมช. กล่าวว่า อยู่ในขั้นตอนพิจารณา โดยจะดูพื้นที่ปลอดภัยเป็นหลัก และประเมินตามปัจจัยที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีมอบแนวทางไว้นานแล้วว่าจะต้องพิจารณาจากปัจจัยใดบ้าง หากพื้นที่ใดพร้อม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะพิจารณาจากปัจจัยที่วางหลักเกณฑ์ไว้

เมื่อถามว่าประเมินตัวเลขทางเศรษฐกิจจะเพิ่มแค่ไหน หากผ่อนคลายให้สถานบันเทิง พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า จากข้อมูลตัวเลขผู้ประกอบอาชีพกลางคืนจำนวนหลายล้านคน ไม่ต้องกังวลเพราะจะตัวเลขทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นแน่นอน อีกทั้งพื้นที่ภาคการท่องเที่ยวจะมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวด้วย สำคัญที่สุดคืออาชีพของคนไทยที่เกี่ยวข้องข้อง 10 ล้านคนจะทำให้ธุรกิจขยับขยาย


“ส่วนการประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น ต้องดูการฉีดวัคซีนจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต การบริหารจัดการของแต่ละพื้นที่ การปรับตัวของประชาชน เป็นต้น ซึ่งเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่วางไว้ โดยนายกฯ ให้พิจารณาอย่างค่อยเป็นค่อยไปก่อนประกาศ และมีโอกาสประกาศให้เร็วขึ้น หากสถานการณ์เป็นไปตามปัจจัยที่วางไว้” เลขาธิการสมช. กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

ศาลสั่งจำคุกลูกชาย รมช.เมาแล้วขับ 2 เดือน ปรับ 4 พันบาท

ศาลสั่งจำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท ลูกชายรัฐมนตรีช่วย เมาขับฝ่าด่านตรวจ โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี พร้อมพักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน

ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต

จ.ภูเก็ต 19 เม.ย.-นายกฯ ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต พร้อมสำรวจการจราจร วงเวียนอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร