กรุงเทพฯ 16 พ.ค. – “พล.ต.อ.อัศวิน” เผยต้องทำทุกวิถีทางให้ชาวกรุงเทพฯ มีเงินในกระเป๋า หากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.อีกครั้ง
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 6 พร้อมผู้สมัคร ส.ก. กลุ่มรักษ์กรุงเทพ โซนกรุงเทพใต้ ตบเท้าขึ้นเวทีปราศรัย ที่จัดบริเวณสถานีบริการน้ำมัน PTT Station พระราม 2 เขตบางขุนเทียน โดยเริ่มจากผู้สมัคร ส.ก. เขตต่างๆ ผลัดกันขึ้นเวทีพูดคุยกับพี่น้องประชาชนที่มาให้กำลังใจและร่วมฟังการปราศรัยในวันนี้
- เขตบางขุนเทียน นายแสงชัย จันทร์ทอง เบอร์ 6
- เขตภาษีเจริญ นายกัณณพิชน์ นาราช เบอร์ 2
- เขตหนองแขม นายประสิทธิ์ ห่อทอง เบอร์ 1
- เขตราษฎร์บูรณะ นายธรณ์เทพ ชัยธนกวิน เบอร์ 5
- เขตบางแค นายศุภกิตติ์ ศีลอุดม เบอร์ 1
- เขตบางบอน นายสงกรานต์ พงษ์พันนา เบอร์ 1
- เขตทุ่งครุ นายสุรชัย บินซาเลห์ เบอร์ 2
โดย พล.ต.อ.อัศวิน ปราศรัยสรุปเรื่องผลงานที่ผ่านมา ที่ได้ทำเพื่อพี่น้องประชาชนเขตกรุงเทพใต้ ประกาศนโยบายที่ผลักดันเร่งด่วนทันที หลังจากได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนให้เป็นผู้ว่าฯ กทม.อีกครั้ง ด้วยการ “ปิดจ๊อบความจนเพื่อคนกรุงเทพฯ” ทั้งเรื่องงานเทศกาลระดับโลก, 100 ตลาด ทั่วกรุงเทพฯ และขยายอายุการจ้างงาน เพื่อแก้ปัญหาเรื่องปากท้อง และนำรายได้กลับเข้าสู่กระเป๋าของพี่น้องประชาชนอีกครั้ง ทั้งยังเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชน มาฟังการปราศรัยใหญ่ในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ด้วย
พล.ต.อ.อัศวิน ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้มาปราศรัยให้พี่น้องประชาชนในกลุ่มโซนกรุงธนใต้ ในพื้นที่เขตบางขุนเทียน โซนกรุงธนใต้ มีอยู่ 7 เขต และมีพี่น้องประชาชนมาร่วมฟังประมาณ 1,000 คน ก็มาบอกพี่น้องประชาชนในสิ่งที่เราทำไปแล้วว่ามีอะไรบ้าง และเราอยากจะทำอะไรให้กับพี่น้องประชาชนต่อ ถ้าเขาเห็นผลงานของเราแล้ว ก็จะได้ตัดสินใจดูว่าควรจะเลือก “อัศวิน” หรือไม่ เป็นสิทธิของพี่น้องประชาชนที่จะต้องตัดสินใจ ตนอยากให้พี่น้องประชาชนมาเลือกตั้งวันที่ 22 พฤษภาคม ตั้งแต่ 08.00-17.00 น. มาใช้สิทธิใช้เสียงในฐานะที่เราเป็นเจ้าของกรุงเทพมหานคร ซึ่งพี่น้องนั่นแหละที่เป็นเจ้าของ กทม. ชอบใครก็เลือกคนนั้น นโยบายใครดีก็เลือกคนนั้น ใครเคยทำมาแล้วดี พี่น้องก็เลือกคนนั้น ให้พี่น้องประชนตัดสินใจเอาเอง แต่ถ้าชอบ “อัศวิน” ก็เลือก “อัศวิน” เบอร์ 6
ส่วนคำถามเรื่อง “สิ่งแรกที่จะทำ หากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. คืออะไร” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า “คือเรื่องการแก้ไขปัญหาความยากจน เรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ซึ่งมันแย่มากจริงๆ ในช่วงนี้พี่น้องประชาชน ทั้งผู้ประกอบการ ห้างร้านต่างๆ ต่างก็ได้รับผลกระทบแย่กันไปหมด เศรษฐกิจตกฮวบหยุดชะงัก โดยไม่มีการเติบโต จึงต้องพยายามขับเคลื่อนให้เดินหน้าให้ได้ ด้วยการพยายามผลักดันนโยบาย ทั้งการจัดงานระดับโลกดึงนักท่องเที่ยวกลับมา เพิ่มจุดทำมาหากิน ต้องให้พี่น้องประชาชนมีรายได้เข้ากระเป๋าให้ได้ เพราะถ้าไม่มีเงินในกระเป๋า ทำอะไรก็ยาก จึงเป็นที่มาของการผลักดันนโยบายอย่างเป็นรูปธรรมในโค้งสุดท้าย…ปิดจ๊อบความจนเพื่อคนกรุงเทพฯ” – สำนักข่าวไทย