กทม. 16 พ.ค.-“เพื่อไทย” จี้ลดภาษีดีเซลลิตรละ 5 บาทตามที่เคยแนะไว้แล้ว ชี้ราคาน้ำมันปาล์มพุ่ง เลิกผสมไบโอดีเซลลดราคาลงได้ แนะศึกษาบทเรียนในสมัยรัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ราคาน้ำมันตลาดโลกเท่ากันแต่ราคาดีเซลยังต่ำกว่า 30 บาทได้
นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเลย กรรมการบริหารและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 3 บาทเป็นเวลา 3 เดือนและกำลังจะสิ้นสุด จึงมีแนวคิดที่จะขยายต่อการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลนี้ในจำนวนเท่าเดิมคือลดลิตรละ 3 บาทหรือจะลดภาษีลงลิตรละ 5 บาท ดังนั้น คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยจึงอยากเรียกร้องให้ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท ตามที่ได้เรียกร้องและเสนอไว้นานแล้ว ซึ่งจะช่วยลดราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เป็นภาระของประชาชนที่กำลังลำบากกันมากได้ ซึ่งหากดำเนินการตามที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้แนะนำมาเกือบปีแล้ว พี่น้องประชาชนคงคงได้ลดค่าใช้จ่ายและลดภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงลงได้ จึงเสนอให้เร่งลดภาษีลงลิตรละ 5 บาทโดยทันที อีกทั้งจะได้ไม่ต้องขึ้นราคาน้ำมันดีเซลอีกลิตรละ 1 บาทตามที่เป็นข่าว
นอกจากนี้ ปัจจุบันราคาน้ำมันปาล์มมีราคาสูงมากพุ่งทะลุเกินลิตรละ 70 บาท สาเหตุหลักมาจากประเทศอินโดนีเชียที่เป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่ได้ห้ามการส่งออกน้ำมันปาล์มทำให้ราคาพุ่งสูง ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลต้องลดการผสมน้ำมันปาล์มในน้ำมันไบโอดีเซล หรือไม่ต้องผสมเลยก็ได้ เพราะไม่มีความจำเป็นต้องผสมแล้ว จุดประสงค์หลักของการผสมน้ำมันปาล์มในไบโอดีเซลก็เพื่อจะช่วยพยุงราคาผลผลิตปาล์มของเกษตรกรชาวสวนปาล์มแต่ปัจจุบันราคาได้พุ่งสูงมากแล้ว ถึงไม่ผสม ราคาปาล์มก็ไม่ตกลงมา การลดการผสมหรือการไม่ผสมน้ำมันปาล์มจะช่วยลดราคาน้ำมันดีเซลได้มาก จึงไม่จำเป็นที่จะเอาน้ำมันปาล์มราคา 60-70 บาทไปผสมน้ำมันดีเซลที่ราคา 30 กว่าบาทให้ราคาเพิ่มขึ้น โดยไม่มีเหตุผล จนเกิดข้อกังขาว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนบางกลุ่มเท่านั้น ดังนั้นจึงควรต้องลดหรืองดการผสมไบโอดีเซลในทันที
นอกจากเรื่องการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาทและการลดการผสมน้ำมันปาล์มที่ราคาพุ่งสูงในไบโอดีเซลแล้ว รัฐบาลควรจะปรับโครงสร้างราคา โดยเฉพาะการกำหนดราคาหน้าโรงกลั่นของไทยที่สูงกว่าราคาหน้าโรงกลั่นสิงคโปร์ ต้องลดลงให้เท่ากันอย่าให้บริษัทน้ำมันเอาเปรียบคนไทย ซึ่งทั้ง 3 เรื่องนี้ตนได้อภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาฯ ตามมาตรา 151 ไว้แล้ว และตรงกับที่สมาพันธ์ผู้ขนส่งเรียกร้อง รวมถึงการทวงเงิน 20,087.42 ล้านบาทจากกองทุนสงเสริมการอนุรักษ์พลังงานซึ่งเป็นเงินของประชาชนกลับคืนมา แต่พลเอกประยุทธ์ ยังนิ่งเฉยไม่ยอมชี้แจงเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด
ในภาวะเศรษฐกิจที่ทรุดหนัก เงินเฟ้อสูง เศรษฐกิจโตต่ำ และมีการว่างงานมาก หรือที่ต่างประเทศเรียกว่า Stagflation นี้ รัฐบาลจะต้องหาทางลดค่าใช้จ่าย ลดเงินเฟ้อให้กับประชาชน สาเหตุส่วนใหญ่มาจากราคาน้ำมันก็ต้องแก้ไขที่ราคาน้ำมัน ซึ่งในอดีตรัฐบาลพรรคเพื่อไทย สมัยอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ราคาน้ำมันในตลาดโลกก็อยู่ที่ 100$ กว่า เท่าๆกับราคาในปัจจุบัน แต่รัฐบาลสมัยนั้นยังสามารถยืนราคาน้ำมันดีเซลต่ำกว่าลิตรละ 30 บาทได้ ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้พลเอกประยุทธ์ได้ศึกษาและเรียนรู้วิธีการ ประชาชนจะได้ไม่ลำบากดังเช่นทุกวันนี้.-สำนักข่าวไทย