fbpx

ย้ำความร่วมมืออาเซียน-สหรัฐ ก้าวผ่านความท้าทายสู่ยุคใหม่

วอชิงตัน 13 พ.ค.- นายกฯ กล่าวถ้อยแถลง ย้ำความร่วมมืออาเซียน-สหรัฐ ที่เข้มแข็ง เพื่อก้าวผ่านความท้าทาย สู่ยุคใหม่ที่มั่นคงและยั่งยืน


วันนี้ (วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2565) เวลา 11.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา ณ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา กรุงวอชิงตัน สหรัฐฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมกล่าวถ้อยแถลงในการหารือระหว่างอาหารกลางวัน (Working Lunch) ระหว่างผู้นำอาเซียนกับนางคามาลา เดวี แฮร์ริส (The Honorable Kamala Devi Harris) รองประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ในประเด็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์อาเซียน – สหรัฐอเมริกา

นายกรัฐมนตรีขอบคุณรองประธานาธิบดีที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น งานเลี้ยงอาหารกลางวันในวันนี้ถือเป็นโอกาสอันดีในการหารือกำหนดทิศทางความสัมพันธ์อาเซียน-สหรัฐฯ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นพ้องกับรองประธานาธิบดีว่า “ประวัติศาสตร์ในศตวรรษที่ 21 จะถูกจารึกขึ้นในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก” โดยอาเซียน-สหรัฐฯ ต้องร่วมมือกันอย่างแข็งขันเพื่อก้าวผ่านความท้าทายใหม่ในหลายประการ


การรับมือและฟื้นฟูจากโควิด-19 และการส่งเสริมความมั่นคงด้านสาธารณสุขในระยะยาว เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน โดยนายกรัฐมนตรีเห็นว่า สหรัฐฯ สามารถขยายความร่วมมือกับอาเซียนในด้านการวิจัย การพัฒนายาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็น การขยายฐานการผลิตวัคซีนในภูมิภาค รวมถึงการพัฒนาการแพทย์สมัยใหม่ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านสาธารณสุขและเพิ่มขีดความสามารถด้านนวัตกรรมให้กับภูมิภาค โดยไทยมี “ศูนย์จีโนมิกส์” ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการพัฒนาระบบสาธารณสุขไทยให้มีประสิทธิภาพและความแม่นยำมากขึ้น

การพัฒนาทุนมนุษย์ จะช่วยสร้างความเข้มแข็งและภูมิคุ้มกันให้กับภูมิภาค โดยเฉพาะในยุค 4IR ซึ่งเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในทุกมิติ โดยสหรัฐฯ สามารถเข้ามาลงทุนและช่วยพัฒนา รวมถึงสนับสนุนผู้ประกอบการดิจิทัลสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการ MSMEs ในอาเซียนได้ ในขณะเดียวกันไทยก็มีพื้นที่ Thailand Digital Valley ใน EECi ด้วย

ความร่วมมือทางทะเล จะเป็นประโยชน์ต่ออาเซียน-สหรัฐฯ ซึ่งเชื่อมโยงกันด้วยมหาสมุทรแปซิฟิก การบริหารจัดการสถานการณ์ทางทะเลให้มีความมั่นคง ปลอดภัย และตั้งอยู่บนกฎกติกา จะทำให้ทุกฝ่ายสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลได้อย่างยั่งยืน ไทยจึงให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความร่วมมือทางทะเลในภูมิภาคมาโดยตลอด โดยเฉพาะการต่อต้านการประมง IUU นอกจากนี้ ไทยจริงจังในการบังคับใช้กฎหมาย โดยผลักดันให้มีการจัดตั้งเครือข่ายอาเซียนเพื่อการต่อต้านการประมง IUU เพื่อเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนข้อมูลและหารือการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยสหรัฐฯ สามารถมีบทบาทในการแบ่งปันแนวปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานสากล และถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตาม ควบคุม และเฝ้าระวังการทำประมง IUU ให้แก่อาเซียน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมประมงที่ยั่งยืนของภูมิภาค และช่วยฟื้นคืนความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อมให้แก่มหาสมุทร


นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือเหล่านี้ล้วนเป็นความร่วมมือที่สร้างสรรค์ โดยจะนำมาซึ่งการพัฒนาและความเจริญเติบโตที่ยั่งยืนในภูมิภาค จึงหวังว่า อาเซียนและสหรัฐฯ จะมุ่งมั่นขับเคลื่อนความร่วมมืออย่างจริงจัง เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ให้ก้าวสู่ยุคใหม่อย่างมั่นคงต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME