นายกฯ ยันร่วมถกอาเซียน-สหรัฐ ไม่เข้าข้างใคร เคารพกติกา

วอชิงตัน 13 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี ยืนยันการร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐ ไม่เข้าข้างใคร ย้ำจุดยืนเคารพกติกา ไม่ขัดแย้ง ประเทศชาติต้องไม่เสียหาย ระบุอยู่การเมืองด้วยความจำเป็น มั่นใจหลังเปิดประเทศ ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะพุ่งสูงขึ้น 2-5 ล้านคน ในช่วงปลายปี


วันนี้ (12 พฤษภาคม 2565) เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศสหรัฐอเมริกา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้พบปะกับผู้แทนสมาคมชมรมคนไทยในกรุงวอชิงตัน ดีซี และเมืองใกล้เคียง รวมทั้งหัวหน้าสำนักงานและข้าราชการ หน่วยงานทีมประเทศไทย พร้อมครอบครัว ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้กลับมาที่สหรัฐอเมริกาอีกครั้ง อยากพูดคุยและขอบคุณที่ร่วมเป็นกำลังใจในการทำงาน และจากนี้จะต้องไปพูดคุยอีกหลายเวที ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า เพราะไทยมีเอกภาพในอาเซียน ถือเป็นแกนกลางของอาเซียน และเติบโตอย่างรวดเร็ว

นายกรัฐมนตรี ยังฝากให้คนไทยที่อยู่ในต่างประเทศ ขอให้ทำหน้าที่ทดแทนแผ่นดินเกิด และตอบแทนประเทศสหรัฐฯ ที่ดำเนินชีวิตอยู่ ต้องเคารพกฎหมาย และหากมีโอกาสให้กลับไปพัฒนาประเทศไทย พร้อมขอให้ดูแลบุตรหลานไม่ให้ลืมบ้านเกิดเมืองนอน โดยยอมรับว่า โลกดิจิทัลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และหลายอย่างเกิดความวุ่นวาย การทำงานของรัฐบาลจึงไม่ง่าย ดังนั้นจะต้องมีภูมิคุ้มกันที่ดีในการเสพข่าว และเชื่อข่าวสารต่างๆ ตนเองทำงานมาหลายปี ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มาด้วยความอดทน เพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้นที่สุด จึงอยู่ที่ประชาชนจะตัดสินใจ ย้ำทำหน้าที่ด้วยความสุจริต ไม่แสวงหาผลประโยชน์ ไม่ทำอะไรที่ผิด โดยยึดเป้าหมายว่า ทุกอย่างต้องเกิดประโยชน์ต่อประชาชนทั่วประเทศ ไม่ใช่เพื่อตนเองหรือตระกูล ยืนยันไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว รับราชการมาและเกษียณอย่างภาคภูมิใจ มาอยู่การเมืองด้วยความจำเป็น


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ที่มาประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ สมัยพิเศษ หลายคนจับตาว่า นายกรัฐมนตรีจะพูดอะไร และจะเลือกอยู่ข้างไหน ซึ่งยืนยันได้ว่าจะทำให้ดีที่สุด ทำอย่างไรประเทศไทยจะไม่เสียหาย เคารพกติกา และไม่ขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น ทุกอย่างขอให้ว่าไปตามหลักการ

และเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-สหรัฐฯ ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ที่มาประชุม ส่วนความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ถือเป็นความสัมพันธ์พิเศษ ยาวนานกว่า 200 ปี ซึ่งประเทศไทยไม่เคยทำกับใครในโลกใบนี้ มีแต่ไทยกับสหรัฐฯ เท่านั้น โดยจะมีการพูดคุยด้านความร่วมมือที่หลากหลายมิติ ทั้งการอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน การพัฒนาเศรษฐกิจ หลังโควิด-19 เศรษฐกิจดิจิทัล การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ที่ต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันนี้จะเจอกับผู้นำสหรัฐฯ และผู้นำอาเซียน และสิ่งสำคัญที่เชิญรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจมาด้วย เพราะจะมีการพูดคุยกับภาคธุรกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ เชิญชวนให้ลงทุนในประเทศไทย ขณะที่ความร่วมมือในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย เพราะยอดผู้ติดเชื้อของไทยเริ่มลดลงต่ำกว่าหมื่นติดต่อกันหลายวัน และไทยรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง เพื่อป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิต ซึ่งหลายคนกลัว แต่ตนเองฉีดมา 4 เข็มแล้ว โดยช่วงหนึ่งของการพูดคุย นายกฯ ได้สอบถามคนไทยในสหรัฐฯ ว่า กลัวติดเชื้อโควิด-19 กันหรือไม่ พร้อมระบุว่า เราต้องอยู่กับมันให้ได้ ซึ่งไทยได้รับคำชื่นชมที่ไทยบริหารจัดการได้ในระดับต้นของโลก บางอย่างเป็นอันดับหนึ่งของโลก ที่ผ่านมาต้องกำกับดูแลอย่างเข้มงวด เพื่อความปลอดภัย ยอดผู้ติดเชื้อถึงลดลง อาจจะลำบาก แต่จะค่อยๆ ดีขึ้น ซึ่งวันนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายมากขึ้น ไทยเริ่มเปิดประเทศแล้ว หลายประเทศใช้ไทยเป็นต้นแบบ และตอนนี้ได้เริ่มเปิดให้เดินทางผ่านชายแดนแล้ว และข่าวดีคือการท่องเที่ยวของไทย ตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อวันหลายหมื่นคน คาดว่าในช่วงปลายปีนี้อาจจะขึ้นไปถึง 2-5 ล้านคน หากไม่มีปัญหาใดเกิดขึ้นอีก อาจจะอยู่ที่ 5-10 ล้านคน


นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ปัญหาทุกวันนี้มีอยู่มาก ทั้งความขัดแย้ง การค้า การลงทุน ซึ่งเป็นปัญหาในห่วงโซ่อุปทาน ส่วนเรื่องพลังงาน มีการเปลี่ยนผ่านใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานทดแทนให้มากขึ้น ซึ่งจะเน้นย้ำและผลักดันต่อที่ประชุมอาเซียน-สหรัฐฯ ในประเด็นนี้ด้วย ขณะที่การพบนักธุรกิจสหรัฐฯ จะมีการพูดคุยเรื่องการเสริมสร้างการลงทุนในประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการจ้างงาน ซึ่งน่ายินดีที่นักธุรกิจสหรัฐฯ ไปลงทุนในประเทศไทยจำนวนมาก เพราะเชื่อมั่นในประเทศของเรา

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยมี soft power ทั้งอาหาร วัฒนธรรม การถ่ายทำภาพยนตร์ กีฬา มวยไทย และที่สำคัญที่สุด คือ ยิ้มสยาม ซึ่งอาจหายไปในช่วงใส่หน้ากากอนามัย

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค ในปี 2565 ซึ่งจะเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG โดยชาวไทยจะได้ต้อนรับผู้แทนเขตเศรษฐกิจที่เข้าร่วมการประชุมตลอดทั้งปี รวมทั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 จะได้ต้อนรับผู้นำเขตเศรษฐกิจ อีกทั้งจะเป็นโอกาสได้พูดคุยกับประเทศต่างๆ เพื่อแสวงหาความร่วมมือระหว่างกัน โดยเฉพาะมิติเศรษฐกิจที่จะเป็นโอกาสในการผลักดันให้มีผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้ย้ำว่า ให้ความสำคัญกับการดูแลคนไทยในต่างประเทศ และพยายามพบปะพูดคุยทุกครั้งที่ได้มีโอกาสเดินทาง จึงหวังที่จะเห็นความสมัครสมาน สามัคคี และการช่วยเหลือเอื้ออาทร โดยยินดีที่ชุมชนไทยในสหรัฐฯ จัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนความเข้มแข็งของชุมชนอย่างต่อเนื่อง และรัฐบาลพร้อมจะให้ความช่วยเหลือดูแลชุมชนไทยอย่างเต็มที่ โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณชุมชนไทยที่ให้กำลังใจ และร่วมกันจนเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง และหวังว่าทุกคนจะได้รับประโยชน์จากการพบปะพูดคุยในวันนี้ พร้อมขอให้เชื่อมั่นว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลยังคงเดินหน้าทำงานขับเคลื่อนประเทศอย่างเต็มที่ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนทุกคน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

ฝนถล่มกรุงอีก สูงสุด 107 มม. เขตพระนคร จับตาฝนอีกก้อน

กทม. 6 ก.ย. – ฝนถล่มกรุงเย็นนี้ ปริมาณฝนสูงสุดแตะ 107 มม. ที่เขตพระนคร จับตาฝนอีกก้อน หากไม่อ่อนกำลังจะเคลื่อนตัวเข้า กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ติดตามสถานการณ์ฝนกรุงเทพมหานคร โดยมีสำนักการระบายน้ำ ร่วมให้ข้อมูล ณ ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กทม.2 ดินแดง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้ปริมาณฝนตกหนักไม่แพ้เมื่อวาน เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านประเทศไทยเป็นตัวดึงเมฆฝนเข้ามา โดยในขณะนี้ (เวลา 17.10 น.) ฝนยังคงตกต่อเนื่องในพื้นที่ชั้นในบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ ยังมีเมฆฝนอีกกลุ่มกำลังเคลื่อนตัวเข้ามา คาดว่าหากไม่อ่อนกำลังจะเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ อีกระลอก จากการรายงานพบว่าปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดในรอบ 6 ชั่วโมงอยู่ที่ 107 มิลลิเมตร ที่เขตพระนคร ตามมาด้วย 98.5 มิลลิเมตร ที่เขตวัฒนาและห้วยขวาง ซึ่งถือว่าเกินกว่าขีดความสามารถของระบบระบายน้ำของ กทม. ที่ออกแบบไว้ให้รองรับปริมาณฝนที่ 60 มิลลิเมตร รายงานสถานการณ์ล่าสุดยังพบน้ำท่วมขังในถนนสายหลักและสายรองหลายแห่ง ถนนสายหลัก […]

“อนุทิน” เผยโผ ครม. 100% แล้ว พร้อมเริ่มทำงานทันทีหลังถวายสัตย์ฯ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” เผยโผ ครม. 100% แล้ว พร้อมเริ่มทำงานทันทีหลังถวายสัตย์ปฏิญาณตน ระบุยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม ยืนยันจะเปิดเผยเมื่อถึงเวลาสมควร นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยความชัดเจนการจัดโผคณะรัฐมนตรี ว่าหลายๆ อย่างเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ยืนยันว่าความชัดเจนในการจัดสรรนิ่ง 100% แล้ว ทุกคนที่มาทำหน้าที่ในคณะรัฐมนตรีทราบดีถึงเงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆ โดยจะต้องเริ่มทำงานทันทีหลังเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ส่วนความชัดเจนในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ยังปฏิเสธที่จะเปิดเผย ระบุว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรียังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ยืนยันว่าไม่มีการปิดบังซ่อนเร้น เมื่อถึงเวลาสมควร ไม่เป็นการก้าวล่วงใดๆ ก็จะรีบเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชนคนไทยทุกคน จะไม่ดำเนินการใดๆ ลับหลังประชาชน และจะให้ได้รับทราบร่วมกัน เพื่อออกความเห็นให้รัฐบาลได้รับฟัง และรัฐบาลจะได้ปฏิบัติตาม นายอนุทิน ยังยืนยันว่ารัฐมนตรีทุกคน จะต้องมีคุณสมบัติไม่ขัดต่อกฎหมายและข้อจำกัด จะต้องทุ่มเททำงานด้วยความรู้ความสามารถ เป็นมืออาชีพ ซึ่งมีทั้งทหาร พลเรือน อส. นายกองใหญ่.-314-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

รัฐมนตรีส่ง จนท.ทยอยขนของออกจากทำเนียบ

ทำเนียบ 6 ก.ย. – รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิม ส่งเจ้าหน้าที่ทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล​ หลัง​สภาฯ โหวตเลือก “อนุทิน​” นั่งนายกรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เริ่มมีการทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล หลังสภาฯ มีมติโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ บรรดารัฐมนตรีและทีมงานของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ส่งทีมงานทยอยเก็บของ ก่อนเวลาประมาณ​ 10.00 น.​ พบรถบรรทุก​ 6 ล้อ​ คลุมผ้าใบทึบ ออกจากบริเวณหลังตึกไทยคู่ฟ้า​ รวมไปถึงมีเจ้าหน้าที่มาล้างทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำยาเครื่องปรับอากาศใหม่ ทั้งตึกไทยคู่ฟ้า และตึกบัญชาการ 1 และมีการขนภาพวาดติดฝาผนังออกจากห้องทำงานของนางสาวหทัย ทิวไผ่งาม​ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ แม้ว่าจะเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์​ มีการแจ้งเตรียมขนของของรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิมออก ทั้งวันเสาร์และอาทิตย์.-314-สำนักข่าวไทย