ศาลปกครอง 11 พ.ค.-ศาลปกครอง สั่งซ้ำให้ กกต.ประกาศรับ “พีรพล” เป็นผู้สมัคร ส.ก.เขตพญาไทภายในพรุ่งนี้ ด้านก้าวไกล ขู่ไม่ดำเนินการโดน ม.157 ฐานปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบแน่
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายพีรพล กนกวลัย ผู้สมัคร ส.ก.เขตพญาไท พรรคก้าวไกล เข้าร่วมฟังการไต่สวนของศาลปกครองนัดแรก กรณีที่ กกต. ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ไม่ประชาสัมพันธ์ชื่อ-เบอร์ นายพีรพล หน้าหน่วยเลือกตั้ง ภายหลังศาลปกครองมีคำสั่งทุเลาแล้ว ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม โดยศาลปกครองใช้เวลาไต่สวนประมาณ 2 ชั่วโมง
นายชัยธวัช ให้สัมภาษณ์ภายหลังฟังการไต่สวนของศาลปกครอง ว่า การไต่สวนในวันนี้ ตัวแทนของ กกต. และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร มีการอ้างว่าเหตุที่ไม่ดำเนินการใดๆ เพราะไม่มีกฎหมาย ระเบียบ แบบฟอร์ม ในการจะปฏิบัติตามคำสั่งทุเลาของศาลปกครอง และอ้างว่าตอนนี้ทาง กกต.ได้อุทธรณ์คำสั่งทุเลาดังกล่าวไปแล้ว จึงยังไม่มีการดำเนินการใดๆ แต่ในวันนี้ศาลปกครองเห็นว่าการอ้างว่าอยู่ระหว่างอุทธรณ์นั้นไม่เป็นเหตุทำให้คำสั่งทุเลาสิ้นผลลง ดังนั้นศาลปกครอง จึงได้มีคำสั่งชัดเจนว่าให้ ผอ.กกต.กทม. ดำเนินการตามคำสั่งทุเลาโดยทันที ด้วยการให้ออกประกาศรับสมัครนายพีรพล ให้เป็นผู้สมัคร ส.ก.เขตพญาไท และให้ติดประกาศไว้ที่หน้าหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วยในเขตพญาไท ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ ซึ่งเราก็ต้องรอดูผลการดำเนินการของ กกต.ว่าจะสามารถดำเนินการได้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ได้หรือไม่ เพราะขณะนี้ใกล้วันเลือกตั้งเต็มทีแล้ว ก็จะส่งผลเสียหายต่อผู้สมัครของพรรคก้าวไกล
“เรื่องนี้หาก ผอ.กกต.กทม. ไม่ดำเนินการตามคำสั่งศาลในวันนี้อีก ไม่มีการติดประกาศ ไม่มีการประกาศรับนายพีรพล เป็นผู้สมัคร ส.ก.เขตพญาไท รวมถึงไม่มีการติดประกาศหน้าหน่วยเลือกตั้งภายในพรุ่งนี้ ทางพรรคก้าวไกลก็คงจะพิจารณาการดำเนินคดีตามมาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อไป เพราะวันนี้คำสั่งศาลปกครองชัดเจนมากๆ แล้วในทางปฏิบัติว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร”นายชัยธวัช กล่าว
นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า ส่วนคดีที่ได้ฟ้องต่อศาลปกครองทางศาลได้บอกชัดเจน ว่าศาลสามารถที่จะวินิจฉัยพิพากษาได้เสร็จสิ้นก่อนวันเลือกตั้งในวันที่ 22 พฤษภาคม หาก กกต.ไม่ขอขยายเวลา ซึ่ง กกต.ได้อ้างว่าจำเป็นต้องขอขยายเวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานจำนวนมากในการพิจารณาคดี ซึ่งศาลได้ขอความร่วมมือไม่อยากให้ขยายเวลาออกไปอีก เพราะเห็นว่าพยานหลักฐานควรจะมีอยู่แล้วตั้งแต่ตอนที่พิจารณาไม่รับสมัครนายพีรพล ดังนั้นไม่ควรจะต้องใช้เวลามากมาย เพื่อพิจารณาเรื่องนี้ให้จบก่อนการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามเราอยากเห็นการเลือกตั้งที่เป็นกลาง สุจริต ไม่มีพฤติการณ์ใดๆ ที่ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะในการเลือกตั้ง ส.ก.เขตพญาไทเป็นที่ทราบกันดีว่านายพีรพลเป็นผู้สมัครที่ได้รับการยอมรับจากคนในเขตพญาไทอย่างมาก จากการทำงานในพื้นที่ 2 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นหากไม่มีการดำเนินการตามคำสั่งของศาลโดยเร็ว ก็จะทำให้ ผอ.กกต.กทม.ถูกมองได้ว่าไม่มีความเป็นกลางทางการเมือง
ด้านนายพีรพล กล่าวว่า วันนี้ศาลได้ชี้ว่า กกต.จะต้องดำเนินการเสมือนหนึ่งเป็นผู้สมัครเลย เพราะศาลทุเลาไปแล้ว ก็ดำเนินการโดยวิธีปกติ ไม่จำเป็นต้องมีแบบฟอร์มหรือระเบียบกฎหมายใดๆแล้ว สิ่งที่ ผอ.กกต.กทม.ก็ต้องปฏิบัติตาม เพราะที่ผ่านมาตนได้รับความเสียหายแล้ว หาเสียงไม่ได้ แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย เพราะเขาอ้างว่าไม่ได้เป็นผู้สมัคร และตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียง 10 กว่าวันเท่านั้น หาก กกต.ยังนิ่งเฉยอยู่ ตนก็จะต้องดำเนินคดีกับกกต.อีกหลายคดี ในฐานนะที่เป็นผู้สมัครแล้วได้รับความเสียหาย ดังนั้นขอให้ กกต.อย่านิ่งเฉย และขอให้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครอง และขอให้ประชาชนในเขตพญาไทได้รับทราบว่าตนถือเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแล้วตามคำสั่งของศาลปกครอง อย่างไรก็ตามเมื่อระยะเวลาทอดเลยมาถึงขนาดนี้แล้ว ตนเชื่อว่าจะต้องมีขบวนการใดขบวนการหนึ่งที่จ้องที่จะไม่ให้ตนได้เป็นผู้สมัคร จากการที่อยู่พรรคก้าวไกล และคนที่อยู่พรรคก้าวไกลจะโดนลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ ดังนั้นขออย่าใช้กระบวนการที่ไม่ถูกต้องมาดำเนินการกับคนที่มีความคิดเห็นทางการเมืองต่าง และต้องถูกกำจัดไป หากดำเนินการเช่นนี้เชื่อว่าหากคนที่ทำเรื่องเหล่านี้หมดอำนาจจะมีคดีติดตามตัวไปอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย