ทำเนียบรัฐบาล 9 พ.ค.–“พล.อ.ประวิตร” ประชุมกองทุนดิจิทัล ย้ำทุกโครงการต้องคุ้มค่า จำเป็นเร่งด่วน ขับเคลื่อนศก. สังคมได้จริง สั่งปรับปรุงโครงการต่อยอด 5G รองรับ Phuket Sandbox เสริมท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาล
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ครั้งที่ 2/2565 ผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมที่สำคัญได้แก่ รายงานผลการดำเนินงานของกองทุนประจำปีงบประมาณ2564 มีผลการดำเนินงานเฉลี่ยประจำปีบัญชี2564 เท่ากับ4.0109 คะแนน ซึ่งเกินกว่าเกณฑ์มาตรฐานและคะแนนประเมินทุกด้านเกินกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (เกณฑ์มาตรฐานตั้งแต่ระดับ 3.0000 คะแนนขึ้นไป) ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับปีบัญชี 2563 มีคะแนนอยู่ที่ 3.0231 คะแนน โดยมีคะแนนสูงกว่า 0.9878 คะแนน สะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างน่าพอใจ
ที่ประชุมร่วมกันพิจารณาเห็นชอบให้เปลี่ยนแปลงโครงการตามมาตรา 26 (3) ของสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 1โครงการ ได้แก่โครงการสร้างการรับรู้การพัฒนาดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยปรับการจัดหาครุภัณฑ์เพื่อการอบรมเจ้าหน้าที่ และกิจกรรม CSR ที่เน้นให้อบรมในถิ่นทุรกันดาร และเห็นชอบให้เปลี่ยนแปลงสัญญาการรับทุนตามมาตรา 26 (1) , (2)จำนวน 16 โครงการ อาทิ การขอขยายเวลาดำเนินโครงการให้ต่อเนื่องเพื่อประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ และส่งเสริมการพัฒนาประเทศ ได้แก่ โครงการพัฒนาศูนย์รับเรื่องและจ่ายงานฉุกเฉินทางการแพทย์ โครงการณ์ศูนย์ข้อมูลสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบการตรวจวิเคราะห์พยานหลักฐานทางดิจิทัลคดีค้ามนุษย์ รวมทั้งโครงการยกระดับการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ของประเทศ เป็นต้น
ที่ประชุมเห็นชอบการเปลี่ยนแปลงสัญญารับทุนโครงการ 5G Use Case ระบบการคัดกรองและแจ้งเตือนสำหรับ Phuket Sandbox เพื่อเตรียมความพร้อมเปิดเศรษฐกิจท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ใช้ระบบ Thailandpassในการขอวีซ่า สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรกำชับคณะกรรมการฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการตามมติ ระเบียบ และกฎหมายโดยเคร่งครัด พร้อมเน้นย้ำคณะอนุกรรมการฯ กลั่นกรองพิจารณาโครงการ ต้องดำเนินโครงการต่าง ๆ อย่างรอบคอบ คำนึงถึงความเป็นไปได้ คุ้มค่า เสร็จตามกรอบเวลาชัดเจนและยั่งยืน รวมถึงเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ ตามวัตถุประสงค์ของกองทุน ที่จะช่วยขับเคลื่อนดิจิทัลของประเทศได้ตามนโยบายรัฐบาลต่อไป.-สำนักข่าวไทย