fbpx

นายกฯ ยันร่วมประชุมอาเซียน-สหรัฐ ตามวาระไม่เลือกข้าง

ทำเนียบฯ 6 พ.ค.- นายกฯ ยันเดินทางร่วมประชุมอาเซียน-สหรัฐ เป็นไปตามวาระปกติ ไม่ได้เลือกข้าง เชื่อมั่นจุดยืนของไทย วอนอย่าปล่อยข่าวที่ไม่เกี่ยวข้องกับการประชุม พร้อมยอมรับเป็นห่วงความขัดแย้งในประเทศ


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเดินทางไปร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ที่ กรุงวอชิงตัน ระหว่างวันที่ 12-13 พฤษภาคมนี้ โดยยืนยันว่าการเดินทางไปครั้งนี้ไม่ได้มีประเด็นอะไรเป็นพิเศษตามที่มีกระแสข่าว และเป็นการประชุมตามปกติ ซึ่งเมื่อเกิดสถานการณ์สงครามขึ้นมาก็ถือเป็นเรื่องของภูมิภาค และคงมีการแสดงความคิดเห็นกัน แต่คงไม่ใช่เป็นการเลือกอะไรกับใคร และวาระการประชุมมีเรื่องที่ต้องหารือกันจำนวนมากและคงไม่ได้มุ่งไปที่ประเด็นใดประเด็นหนึ่ง และทุกประเทศก็มีนโยบายทางด้านการต่างประเทศ  ส่วนในอาเซียนก็ได้มีการพูดคุยกันผ่านทางเลขาธิการอาเซียนอยู่แล้ว และไทยก็ดำเนินไปในบทบาทของอาเซียน ซึ่งเหมือนการประชุมทุกครั้งที่ผ่านมา และตนจะพยายามทำอย่างเต็มที่ให้ดีที่สุด ขอให้ไว้ใจซึ่งกันและกัน ขออย่ากังวลกันมากนัก และขออย่ามีการปล่อยข่าวที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการประชุมครั้งนี้ ทั้งนี้ ตนเองเชื่อมั่นว่า บทบาทของไทยอยู่ในจุดไหน

“อย่าไปฟังมากนักเลย คนบางคนแสดงความคิดเห็นออกมา บางทีก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ก็พูดออกมา อาจจะด้วยความห่วงใย และคนที่ควรจะห่วงใยมากที่สุดคือนายกรัฐมนตรีไม่ใช่หรือ ซึ่งการประชุมอาเซียน-สหรัฐ ก็ได้มีการเตรียมการมาเป็นระยะเวลานานพอสมควรแล้ว กระทรวงการต่างประเทศมีการประชุมรัฐมนตรีมาตลอดเวลา ไม่ใช่อยู่ดีๆก็ไปประชุมเลย” พลเอกประยุทธ์ กล่าว


สำหรับสถานการณ์ในประเทศในช่วงที่เดินทางไปประชุมนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้มีความเป็นห่วงเรื่องความขัดแย้งภายในประเทศ ซึ่งไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะมาสร้างความขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งวันนี้เราจะต้องเตรียมการชี้แจงร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ตามวาระที่ได้เตรียมไว้ ซึ่งถ้าไม่ได้มีการพิจารณาจะทำให้เกิดความเดือดร้อนในการใช้งบประมาณ จึงอยากให้ทุกคนมีความเข้าใจกันบ้าง และมีอีกหลายเรื่องที่จะต้องทำให้บ้านเมืองสงบ เพราะเรากำลังเดินหน้าเรื่องของการท่องเที่ยวและการลงทุน ซึ่งต่างชาติก็ต้องมองว่าประเทศไทยมีความขัดแย้งอะไรหรือไม่ และถ้าไม่มีความขัดแย้งอะไรมากมายและอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ต่างชาติ ก็จะมาเพิ่มการลงทุนภายในประเทศของเรามากขึ้นซึ่งเราจำเป็นต้องปรับแก้หลายมาตรการทั้งสิทธิประโยชน์ต่างๆ และข้อกฎหมายต่างๆ ให้มีความทันสมัย

ส่วนจะต้องขอความร่วมมือจากฝ่ายค้านในเรื่องของงบประมาณอย่างไรนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มีการหารือกันตลอด อะไรที่ขัดแย้งกันมากๆโดยไม่มีความจำเป็น ก็ไม่รู้จะขัดแย้งไปทำไม ขณะเดียวกัน การใช้จ่ายงบประมาณในขณะนี้ต้องให้เกิดประโยชน์สูงสุดและให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและต้องตั้งเป้าหมายในการทำงบประมาณปี 66 ให้สอดคล้องกันด้วย ซึ่งขณะนี้มีผลกระทบจากโควิดและสถานการณ์ต่างประเทศ รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ เพื่อประโยชน์ของประชาชน.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง