กระทรวงมหาดไทย 5 พ.ค.- มท.1 ชื่นชมเจ้าหน้าที่ขยายผลจับยาบ้ารายใหญ่ใน จ.อุดรธานี พร้อมเน้นย้ำผู้ว่าฯ นายอำเภอทั่วประเทศ ขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เกี่ยวกับผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดครั้งใหญ่ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี มูลค่ามากกว่า 60 ล้านบาท โดยชุดปฏิบัติการฝ่ายปกครองที่ทำการปกครองอำเภอเพ็ญ สามารถจับกุมผู้เสพในพื้นที่ นำไปสู่การขยายผลจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติม ซึ่งเป็นเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ และพบของกลางเป็นยาบ้า จำนวนเกือบ 2 ล้านเม็ด พร้อมของกลางอีกหลายรายการ โดยพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับทราบผลการปฏิบัติการในครั้งนี้ และแสดงความชื่นชมพร้อมให้กำลังใจชุดปฏิบัติการทั้งฝ่ายปกครองอำเภอเพ็ญ และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดอุดรธานี พร้อมเน้นย้ำไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ในการมุ่งมั่นบูรณาการขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้เป็นไปอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง
กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกระทรวงมหาดไทย (ศอ.ปส.มท.) ได้สั่งการให้ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด ดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามนโยบาย ได้แก่ มาตรการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด เพื่อลดผู้ผลิต/ผู้ค้า แบ่งเป็นพื้นที่ชายแดน โดยผนึกกำลังสกัดกั้นตามแนวชายแดน จัดชุดลาดตระเวน ตรวจตรา เฝ้าระวัง ป้องกันการลักลอบนำเข้า ลำเลียงยาเสพติด ควบคู่กับการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าว การเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ ส่วนพื้นที่ตอนใน โดยบูรณาการการปราบปรามผู้ค้ารายย่อยในหมู่บ้านชุมชน ด้วยการปิดล้อม ตรวจค้น ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และมาตรการจัดระเบียบสังคม และ มาตรการป้องกันยาเสพติด เพื่อลดผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ทั้งการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ โดยบุคลากรกระทรวงมหาดไทยทุกระดับต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
“กระทรวงมหาดไทย มุ่งมั่นขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้นต่อเนื่องผ่านกลไกทุกระดับ เพื่อให้ปัญหายาเสพติดหมดไปจากสังคมไทยอย่างยั่งยืนตามนโยบายรัฐบาล โดยหากประชาชนมีเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถแจ้งผ่านสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิด” นายสุทธิพงษ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย