กรุงเทพฯ 4 พ.ค. – “ชัชชาติ” หาเสียงชุมชนคลองเตย จับมือครูประทีป ย้ำแนวทาง “ทำน้อยได้เยอะ” พัฒนาศูนย์เด็กเล็กทุกแขวง ลดภาระผู้ปกครอง-ส่งเสริมพัฒนาการเด็ก
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 ลงพื้นที่หาเสียงเขตคลองเตย ที่ตลาดคลองเตยร่วมกับ ครูประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ ผู้ก่อตั้งและเลขาธิการมูลนิธิดวงประทีป รวมทั้งผู้นำชุมชนคลองเตย ย้ำนโยบายในการจัดการขยะและบำบัดน้ำเสียจากต้นทาง โดยเริ่มต้นจากตลาดในพื้นที่ กทม. จากนั้นเดินทางต่อไปยังชุมชนบล็อค 6 มูลนิธิดวงประทีป เพื่อรับฟังความต้องการของชาวชุมชน ครู ผู้ปกครองที่โรงเรียนอนุบาลดวงประทีปด้านที่อยู่อาศัยและศูนย์เด็กก่อนวัยเรียนที่มีจำนวนไม่เพียงพอ
นายชัชชาติ กล่าวว่า จากนโยบายรายเขตของทีมเพื่อนชัชชาติ พบว่าเขตคลองเตยมีปัญหาสำคัญเรื่องการสนับสนุนศูนย์เด็กก่อนวัยเรียน เช่น ครูพี่เลี้ยงขาดสวัสดิการและมีรายได้ไม่เพียงพอ ส่งผลให้ขาดกำลังใจในการทำงาน ค่าอาหารของเด็กอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้น กทม. ต้องเข้ามาดูแลและสนับสนุนศูนย์เด็กก่อนวัยเรียนอย่างเพียงพอ ชัชชาติ เสนอนโยบายพัฒนาศูนย์เด็กอ่อนและศูนย์เด็กเล็กใกล้ชุมชนและแหล่งงาน เพิ่มบุคลากรและจัดการอบรมเสริมสร้างความรู้ ความสามารถเพื่อให้มีขีดความสามารถในการดูแลเด็กเล็ก รวมถึงปรับค่าตอบแทนให้มีความเหมาะสมกับค่าครองชีพและสอดคล้องกับค่าตอบแทนของตลาด เพิ่มค่าอาหารสำหรับเด็กอ่อนให้เป็น 40 บาทต่อวัน เพื่อให้ศูนย์เด็กอ่อนมีศักยภาพในการดูแลเด็กมากยิ่งขึ้น
“การพัฒนาศูนย์เด็กก่อนวัยเรียนเป็นนโยบายที่เราทำน้อยแต่ได้เยอะ เพราะเด็กในวัย 0-6 ปี กำลังมีพัฒนาการที่สูงมาก ดังนั้น ถ้าเราลงทุนกับศูนย์เด็กเล็กให้มีบริการพื้นฐานที่ดี จะยิ่งช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กให้ดียิ่งขึ้น เราจะพยายามดูแลศูนย์เด็กก่อนวัยเรียนให้มีคุณภาพและให้กระจายไปในทุกเขตทุกแขวง” นายชัชชาติกล่าว
นายชัชชาติ กล่าวเพิ่มเติมถึงกิจกรรมในวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ค. 65 ที่สวนลุมพินีว่า ตั้งใจนำเสนอผลจากการลงพื้นที่ 50 เขต กทม. กว่า 1,000 วันที่ผ่านมา ในการสำรวจปัญหาจริงร่วมกับกลุ่มอาสาสมัครและประชาชน พร้อมนำเสนอนโยบายให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้รับทราบอย่างชัดเจน เพื่อมีส่วนในการตัดสินใจใช้สิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในช่วงโค้งสุดท้าย เบื้องต้นวางแผนเป็นกิจกรรมในรูปแบบไม่ใหญ่ เพื่อเป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคระบาดโควิด-19 แต่มีการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางออนไลน์ให้ติดตามอย่างทั่วถึงแน่นอน .-สำนักข่าวไทย