ทำเนียบรัฐบาล 3 พ.ค.-โฆษกรัฐบาลเตือนประชาชนระวังแบงค์ปลอม แนะตรวจสอบให้แน่ใจ หวั่นตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ขณะที่นายกฯ สั่งใช้กฎหมายเคร่งครัด จัดการเด็ดขาด
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีมีธนบัตรแบงค์พันปลอมมาใช้ซื้อสินค้าขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมฝากเตือนประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มพ่อค้า แม่ค้าระมัดระวัง ขอให้ตรวจสอบธนบัตรที่ได้รับ โดยเฉพาะธนบัตรที่มีมูลค่าสูง ขอให้สละเวลาตรวจสอบให้แน่ใจก่อน จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพแก๊งปลอมธนบัตร พร้อมขอความร่วมมือประชาชน หากพบธนบัตรปลอม ห้ามนำธนบัตรปลอมออกไปใช้อีก เพราะมีความผิดตามกฎหมาย ให้เขียนคำว่า “ปลอม” ลงบนธนบัตร เพื่อแยกออกจากธนบัตรฉบับจริง แล้วนำไปส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ธนาคารพาณิชย์เพื่อนำส่งเข้าระบบ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ โดยให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ให้ได้มากที่สุด หรือโทรศัพท์แจ้งธนาคารแห่งประเทศไทย โทร. 0 2356 7987
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วิธีสังเกตธนบัตรปลอมมีหลายจุดสังเกตุ ดังนี้ 1.การสัมผัส กระดาษธนบัตร เป็นกระดาษที่ทำจากกระดาษที่มีใยฝ้ายเป็นส่วนประกอบหลัก จึงมีความแกร่ง ทนทาน และไม่ยุ่ยง่าย เมื่อจับสัมผัสจะให้ความรู้สึกแตกต่างจากกระดาษทั่วไป 2.ยกส่อง ส่องลายน้ำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระดาษ จากขั้นตอนการผลิตกระดาษโดยใช้กรรมวิธีพิเศษที่ทำให้เนื้อกระดาษมีความหนาบางไม่เท่ากันจนเกิดเป็นภาพตามต้องการ ลายน้ำในธนบัตรไทย เป็นพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อยกส่องกับแสงสว่าง จะเห็นชัดเจนทั้งด้านหน้าและด้านหลังของธนบัตร นอกจากนี้ ลายน้ำยังมีตัวเลขชนิดราคารูปลายไทยโปร่งแสงเป็นพิเศษ และ 3. การพลิกเอียงตัวเลขแฝง ตัวเลขแจ้งชนิดราคาซ่อนอยู่ในลายประดิษฐ์ มองเห็นได้เมื่อเอียงธนบัตรเข้าหาแสงสว่าง ภายในมีตัวเลขแจ้งชนิดราคา เมื่อพลิกธนบัตรขึ้นลงหรือพลิกซ้ายขวา ชนิดราคา 500 บาทและ 1000 บาท จะเห็นการเคลื่อนไหวและเปลี่ยนสลับสี ส่วน ชนิดราคา 100 บาท จะเห็นเป็นประกาย
“นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำให้บังคับใช้กฎหมายจัดการกลุ่มมิจฉาชีพสร้างความเดือดร้อนให้สังคมและประชาชนอย่างเคร่งครัด โดยโทษฐานปลอมหรือแปลงธนบัตรคือจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 10-20 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000-400,000 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 240 ส่วนคนที่นำธนบัตรปลอมไปใช้ทั้งที่รู้ว่าเป็นของปลอมต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-300,000 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 244” นายธนกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย