ทำเนียบรัฐบาล 29 เม.ย.-“พล.อ.ประวิตร” ประชุมคณะกรรมการแก้ปัญหาชายแดนใต้ เร่งลดเหตุรุนแรง พัฒนาคุณภาพชีวิต รับฟังความต้องการของพื้นที่ ให้ประชาชนมีส่วนร่วม
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( คปต.) ครั้งที่ 1/65 เพื่อร่วมกันลดเหตุรุนแรงให้ชัดเจน และเร่งพัฒนาฟื้นฟูเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ โดยที่ประชุมรับทราบการดำเนินงาน 1.การแก้ไขปัญหาของกลุ่มบุคคลผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฏรหรือคนไร้สัญชาติในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้(จชต.) ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ความสัมพันธ์ จำนวน 1,675 คน ซึ่งพล.อ.ประวิตรสั่งการให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้( ศอ.บต.) เสริมการทำงานของกระทรวงมหาดไทยให้รวดเร็วและรอบคอบขึ้น
2.การขับเคลื่อนงานของคณะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ด้านต่าง ๆ ทั้งการรับฟังและเสริมสร้างความร่วมมือการปฏิบัติงานและสร้างสภาพแวดล้อมหนุนเสริมกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข การสร้างความร่วมมือกับต่างประเทศในการสนับสนุนการการแก้ปัญหาการเสริมสร้างและพัฒนาอาชีพ มุ่งเน้นแรงงานในพื้นที่ไปทำงาน ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย พร้อมติดตามการพัฒนาเศรษฐกิจระดับพื้นที่ ผ่านกลไกสภาสันติสุขตำบล ขับเคลื่อนบูรณาการการศึกษาด้วยสื่อนวัตกรรมและการเรียนการสอนหลักสูตรอิสลามศึกษาตอนต้น ไม่ให้ซ้ำซ้อน มีมาตรฐานและเป็นไปตามความต้องการของคนในพื้นที่ และ 3.ความคืบหน้าโครงการเช่าระบบป้องกันความปลอดภัยเขตเมือง ด้วยระบบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ 6 อำเภอ โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า(กอ.รมน.ภาค 4 สน.) บูรณาการระบบกล้องของทุกหน่วยงาน การเชื่อมโยง การปรับจุดติดตั้งให้เหมาะสมและการติดตามการซ่อมบำรุงไม่ให้ชำรุด
จากนั้นที่ประชุมให้ความเห็นชอบโครงการสานใจสู่สันติ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทุกหมู่เหล่าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เห็นชอบโครงการหนุนเสริมภาคประชาสังคมกับการแก้ไขปัญหาแบบมีส่วนร่วม เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและสร้างสำนึกการมีส่วนร่วมพัฒนาบ้านเมืองไปด้วยกัน
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีนโยบายให้แยกสถิติการก่อเหตุรุนแรงกับเรื่องส่วนตัว และเน้นหลักคิดเข้าใจ เข้าถึงและพัฒนาในการทำงาน รวมทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการมีส่วนร่วมของประชาชน พร้อมกำชับให้ดำเนินโครงการต่าง ๆ ต้องมีการรับฟังความเห็นจากประชาชนอย่างแท้จริงและโครงการต่างๆ ต้องให้มีความเหมาะสมกับบริบทและเป็นไปตามความต้องการของประชาชน ทั้งนี้ ให้พิจารณากฎหมายที่มีอยู่ให้รอบด้าน โดยต้องไม่สร้างเงื่อนไขใหม่.-สำนักข่าวไทย