เตรียมถามกกต.หลังพบกรรมการขาดประชุม

กรุงเทพฯ 27 เม.ย.-“สมชัย” เตรียมยื่นหนังสือถามกกต.ศุกร์นี้ หลังพบกรรมการ 1 คนขาดประชุมพิจารณาใบส้ม “สุรพล” พร้อมให้ตรวจสอบคลิปหลุด “เสกสกล” เสี่ยงทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง


นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ให้สัมภาษณ์ว่า วันศุกร์ที่ 29 เมษายน เวลา 10.30 น.จะยื่นหนังสือถึงประธานกกต.เพื่อขอสอบถามข้อเท็จจริงว่าการประชุม กกต.ที่ลงมติแจกใบส้มนายสุรพล เกียรติไชยากร อดีตส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย มีกกต. 1 คนขาดการประชุมจริงหรือไม่ ด้วยเหตุผลใด และเป็นเหตุผลอันควรหรือไม่ และขอให้กกต.ตอบข้อเท็จจริง

“ส่วนจะตอบหรือไม่ตอบ ผมจะใช้เป็นเอกสารในการยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)  ประเด็นการปฏิบัติงานผิดมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ถ้ากกต.ตอบและเห็นว่ามีเหตุผลสำคัญ อาจจะไม่ยื่นป.ป.ช. แต่ถ้าตอบแล้วเป็นเหตุผลไม่สำคัญและไม่สมควร จะดำเนินการ ผมจะยื่นป.ป.ช. ตรวจสอบต่อไป และถ้าไม่ตอบเลยเท่ากับว่าแสดงถึงการละเลยของกกต.ทั้งชุด” นายสมชัย กล่าว


นายสมชัย ตั้งข้อสังเกตว่า ตามรายงานการประชุมพบว่า มีกรรมการเข้าประชุมคือจำเลยที่ 2 ถึงจำเลยที่ 7 จากจำนวนจำเลยที่ถูกนายสุรพลฟ้อง คือ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จำเลยที่ 1 นายอิทธิพร บุญประคอง จำเลยที่ 2 นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ จำเลยที่ 3 นายธวัชชัย เทิดเผ่าไทย จำเลยที่ 4 นายฉัตรไชย จันทร์พลายศรี จำเลยที่ 5 นายปกรณ์ มหวรรณพ จำเลยที่ 6 นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ จำเลยที่ 7 นายเมธา ศิลาพันธ์ จำเลยที่ 8 นายเกรียงไกร พานดอกไม้ จำเลยที่ 9 นายหรือดาบตำรวจชาญชนินทร์ จินตนา จำเลยที่ 10 นายสุรเชษฐ์ อินทจักร จำเลยที่ 11 นายหรือพ.ต.ท.โทสมชาย หมายมั่น จำเลยที่ 12 นายสุบิน ทองก้อนสิงห์ จำเลยที่ 13  และนายเกรียงศักดิ์ ยาโน จำเลยที่ 14      

“แต่นายฐิติเชษฐ์ กรรมการการเลือกตั้งลาประชุมกกต. ในวาระที่ 5.1  ถึงวาระที่ 5.4  และไม่อยู่ในรายชื่อที่ถูกฟ้อง โดยวาระที่ 5.4 คือวาระการพิจารณาสำนวนของนายสุรพล เกียรติไชยากร แต่จากเอกสารรายงานการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งครั้งที่ 49/2565 วันอังคารที่ 23 เมษายน 2562 ปรากฏรายชื่อกรรมการผู้มาประชุมครบทั้ง 7 คน ซึ่งตามมาตรา 18 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 ระบุว่าการไม่เข้าประชุมหรือไม่อยู่ในที่ประชุมตามวรรคสองโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้ถือว่าเป็นการจงใจฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม” นายสมชัย กล่าว

นายสมชัย กล่าวว่า มาตรา 19 (1) ที่ระบุถึงการลงมติเรื่องสำคัญ คือการวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งใดมิได้เป็นไปด้วยความสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย กำหนดให้กรรมการการเลือกตั้งทุกคนที่อยู่ในที่ประชุมต้องลงมติ การงดออกเสียงหรือการออกเสียงที่แตกต่างไปจากประเด็นที่จะต้องลงมติจะกระทำมิได้ แต่ไม่เป็นการตัดสิทธิที่จะลาออกจากตำแหน่งก่อนมีการลงมติ เป็นการชี้ให้เห็นว่าการลงมติในวาระ 5.4 เป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่กรรมการการเลือกตั้งสมควรอยู่ในที่ประชุม ไม่สมควรขาดการประชุมโดยไม่มีเหตุอันสมควร


นายสมชัย กล่าวว่า ในวันดังกล่าวจะยื่นเรื่องให้กกต.ตรวจสอบนายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเห็นว่าคลิปเสียงบทสนทนาที่หลุดออกมามีประเด็นสุ่มเสี่ยงกระทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง 3 เรื่อง คือ 1.การใช้จ่ายเงินเกินกว่ากรอบที่กฎหมายกำหนด 2.อาจจะกระทำผิดพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 73 (1) และ 3.การแจ้งค่าใช้จ่ายเป็นเท็จ จึงอยากให้กกต.ตั้งคณะทำงานไต่สวนข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้น แม้ว่านายเสกสกลจะไม่ได้รับเลือกตั้ง แต่ว่าการกระทำผิดดังกล่าว กกต.ต้องดำเนินการไม่ว่าผู้สมัครคนดังกล่าวจะได้รับเลือกตั้งหรือไม่ก็ตาม.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร