พรรคเพื่อไทย 24 เม.ย.- “จาตุรนต์” ชี้ “ประยุทธ์” แก้ปัญหาประเทศไม่ได้สักข้อ วอนประชาชนเลือกเพื่อไทยเป็นรัฐบาลด้วยคะแนนถล่มทลายแบบแลนด์สไลด์ เพื่อแก้วิกฤติ ชี้รัฐประหารปี 49-57 เป็นต้นตอวิกฤติ ทำประเทศเกิดหายนะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ของพรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ “อนาคตที่พรรคเพื่อไทย อยากทำให้ประชาชน พ้นจากวิกฤตหลุมดำ”ว่า วิกฤติของประเทศ 10 กว่าปีมานี้ มีพรรคไทยรักไทยอยู่ในนั้น ทั้งตัวแสดงและผู้ถูกกระทำ แม้พรรคไทยรักไทยจะถูกยุบ แต่อุดมการณ์และจิตวิญญาณยังอยู่ ทั้งนี้ ต้นตอวิกฤติของประเทศอยู่ที่การรัฐประหารปี 2549 เกิดจากการที่ผู้มีอำนาจไม่ยึดโยงกับประชาชน ไม่ยอมให้ประชาชนกำหนดการบริหารประเทศผ่านการแข็งขันของพรรคการเมือง ไม่ยอมให้กลไลประชาธิปไตยทำให้เกิดรัฐบาลที่ตอบสนองความต้องการของประเทศ ดังนั้น วิกฤตินี้จึงนำไปสู่การมีรัฐบาลที่ไร้ความสามารถ ประเทศเสียหาย ประชาชนเดือดร้อนจนถึงทุกวันนี้ ทั้งที่ในช่วงก่อนรัฐประหารปี 2549 เศรษฐกิจของประเทศกำลังจะดีขึ้นแล้ว
นายจาตุรนต์ ย้ำว่า อุดมการณ์ของพรรคไทยรักไทยนั้นฆ่าไม่ตาย จึงเกิดเป็นพรรคเพื่อไทยในวันนี้ แต่วิกฤติของประเทศกลับหนักขึ้นในการรัฐประหารปี 2557 เพราะอำนาจต่างๆไม่อยู่กับประชาชน อยู่กับองค์กรอิสระที่อยู่ภายใต้การกำกับของ คสช. ซึ่งระบบเช่นนี้ไม่เป็นระบบประชาธิปไตย เพราะการถ่วงดุลถูกทำลาย รัฐบาลที่มีอยู่จึงทำให้เกิดหายนะกับประเทศ
นายจาตุรนต์ ยังกล่าวถึงความท้าทายของประเทศในขณะนี้ว่า มีอยู่ 8 ข้อ ได้แก่ 1.เศรษฐกิจตกต่ำ 2.ความยากจน ตกงาน ไม่มีรายได้ 3.หนี้สาธารณะและหนี้ครัวเรือนสูง 4.ความเหลื่อมล้ำ 5.ขีดความสามารถประเทศตกต่ำ 6.ประเทศกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย 7.โรคร้าย 8.ไม่มีเสรีภาพและไม่มีประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม ตนมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแก้ปัญหาไม่ได้แม้แต่ข้อเดียว ดังนั้น ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง พรรคเพื่อไทยจะต้องบอกกับประชาชนว่า หากจะแก้ปัญหาบ้านเมืองได้ ต้องให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และจะต้องให้พรรคเพื่อไทยชนะอย่างถล่มทลายแบบแลนด์สไลด์เพื่อไทย พร้อมยืนยันว่า จะนำประสบการณ์ในอดีตและนำความรู้ใหม่ๆพาประเทศผ่านพ้นวิกฤติและจะทำให้ดีกว่าในอดีตด้วย
ขณะที่ นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ภายใต้คำถามที่ว่า ความยุติธรรมสองมาตรฐานหรือไม่มีมาตรฐานในความยุติธรรม? ว่า เหตุการณ์ชุมนุมของเยาวชนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นักศึกษาได้ออกมาเรียกร้อง ชุมนุมกันอย่างสันติ แต่เจ้าหน้าที่กลับใช้กำลังในการปราบปรามชุมนุม และศาลก็ไม่อนุญาตให้ประกันตัว ขณะที่อดีตรองหัวหน้าพรรค ถูกกล่าวหาข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายหลายราย แต่ศาลกลับอนุญาตให้ประกันตัว เมื่อลองเปรียบเทียบแล้วจะเห็นความแตกต่างในเรื่องนี้ มันแสดงให้เห็นว่า ไม่มีมาตรฐานในความยุติธรรม อีกทั้ง ปัญหาของรัฐธรรมนูญ ยังทำให้พรรคเพื่อไทย แม้จะได้เสียงข้างมาก แต่กลับไม่ได้เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล เพราะมี ส.ว. 250 เสียง เข้ามามีบทบาทในการเลือกนายกรัฐมนตรี อีกทั้งรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ยังไม่ต่างอะไรกับการเป็นโซ่ที่จะคล้องประชาชน และทำให้กระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยว เพื่อผลประโยชน์กับพวกพ้องของตนเอง ดังนั้น สิ่งที่พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าต่อเป็นก้าวแรก คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อชีวิตใหม่ของพี่น้องประชาชนอีกครั้ง เพื่อให้เป็นไปตามสิ่งที่รัฐธรรมนูญปี 2540 เคยให้ความหวังไว้ โดยจะแก้ไขที่มาของนายกรัฐมนตรี และแก้ไขเรื่องสิทธิเสรีภาพ คุ้มครองสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกในที่สาธารณะ รวมถึงสิทธิ์ในการได้รับการประกันตัว แต่การจะก้าวไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ พรรคเพื่อไทยต้องได้รับการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ดังนั้น ขอให้เลือกพรรคเพื่อไทยแบบแรงสไลด์เพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ.-สำนักข่าวไทย