ทำเนียบรัฐบาล 22 เม.ย.-นายกฯ ยินดีไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ICCA Congress 2023 ปี 2566 กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมทุกมิติ หวังผลักดันอุตสาหกรรมไมซ์ ต่อยอดรองรับนักท่องเที่ยว ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบและแสดงความยินดีที่ประเทศไทยได้รับคัดเลือกอย่างเป็นทางการให้เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุม ICCA Congress 2023 ของสมาคมการประชุมนานาชาติ (International Congress and Convention Association) ที่กรุงเทพฯ ในปีพ.ศ. 2566 พร้อมขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นส่วนหนึ่งในเวทีประชาคมโลกได้อีกครั้ง โดยกำชับการเตรียมความพร้อมการจัดประชุมทุกมิติ เพื่อแสดงศักยภาพกลุ่มอุตสาหกรรมไมซ์ไทยอย่างมีประสิทธิภาพ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อุตสาหกรรมไมซ์ (MICE : Meeting, Incentive, Convention and Exhibition) หรือกลุ่มธุรกิจการจัดประชุม การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การแสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติของไทย มีความพร้อมและได้รับความไว้วางใจจากนานาประเทศเสมอมา โดยสมาคมการประชุมนานาชาติได้คัดเลือกประเทศไทยให้เป็นเจ้าภาพการจัดงานประชุม ICCA Congress 2023 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 คาดว่าจะมีผู้ร่วมประชุมชาวต่างชาติกว่า 1,000 คน และผู้ร่วมงานชาวไทยประมาณ 200 คน ซึ่งจะทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานมูลค่ากว่าร้อยล้านบาท รวมทั้งสามารถต่อยอด สร้างโอกาสสำคัญของรัฐบาล และภาคธุรกิจไทยในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19
นายธนกร กล่าวว่า สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ICCA Congress 2023 ในครั้งนี้ ไทยยังสามารถใช้เป็นเวทีในการต่อยอดศักยภาพได้ในหลายทาง อาทิ การใช้เวทีการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลสำคัญในการประมูลสิทธิการจัดงาน ขั้นตอนการคัดเลือก และงบประมาณ การสร้างโอกาสให้ไทยชนะการประมูลสิทธิเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมต่าง ๆ ในอนาคต และการสร้างโอกาส สานสัมพันธ์กับผู้บริหารของสมาคมนานาชาติที่ได้รับเชิญ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่ไทยได้รับความสนใจเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง เช่น การประกวดดนตรีและมาร์ชชิ่งอาร์ทชิงแชมป์โลก 2565 (WAMSB World Championship 2022) การประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก 2565 (Global Summit of Women 2022) และงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี 2569 (Udon Thani International Horticultural Exhibitions Center 2026) เป็นต้น
“ไทยได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมนานาชาติอีกหลายงาน และหวังจะเป็นโอกาสเพื่อพัฒนาธุรกิจไมซ์ไทย เป็นการกระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยให้ครอบคลุมทุกกลุ่มตลาดอีกด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ไทยอย่างต่อเนื่อง ผ่านการบูรณาการความร่วมมือกับภาคเอกชนในหลายมิติ พร้อมวางกลยุทธ์และดำเนินงานด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ของไทย หรือการขับเคลื่อนเมืองไมซ์ เช่น กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดภูเก็ต ในการนำร่องความพร้อมการเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวเพื่อรองรับการจัดงานและกิจกรรมที่เป็นมาตรฐานสากล สร้างความเชื่อมั่นแก่ภาคบริการและการท่องเที่ยว หวังขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่นควบคู่กันไป” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพ สนับสนุนให้กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางเวทีทางเศรษฐกิจและการเรียนรู้ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาสู่การเป็น ‘มหานครแห่งเอเชีย’ โดยจะเป็นโอกาส เป็นต้นแบบเมืองไมซ์ให้จังหวัดอื่นสามารถปรับตัว พัฒนาศักยภาพที่มี โดยนายกรัฐมนตรีมั่นใจว่า ไทยจะได้นำเสนอศักยภาพด้านการจัดประชุมและนิทรรศการระดับนานาชาติได้อย่างเต็มที่ในทุกมิติ สร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างกลุ่มธุรกิจต่างชาติ ส่งเสริมการรับรู้ถึงความพร้อมของภาคบริการและการท่องเที่ยว ตลอดจนแลกเปลี่ยนมุมมองขยายโอกาสสร้างความร่วมมือกับประเทศและหน่วยงานสมาคมทุกภาคส่วน ทั้งไทยและต่างประเทศ เชื่อมั่นว่าชาวไทยพร้อมเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับผู้มาเยือนชาวต่างชาติเพื่อประสบการณ์และภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศไทย ซึ่งจะดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุนเพื่อการขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตยิ่งขึ้นในอนาคต.-สำนักข่าวไทย