จี้ กกต.สั่ง ปชป.เล่นงาน “ปริญญ์” เด็ดขาด  

สำนักงานกกต. 18 เม.ย.-“ศรีสุวรรณ” ร้องเลขาฯ กกต.สั่ง ปชป.จัดการ “ปริญญ์”  ขั้นเด็ดขาด ชี้ พ.ร.ป.พรรคการเมืองระบุชัด ถ้า กก.บห.เพิกเฉย ถูกสั่งพ้นตำแหน่งยกชุด


นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย   ยื่นคำร้องต่อเลขาธิการสำนักงานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ขอให้ใช้อำนาจตามกฎหมายพรรคการเมือง 2560 แจ้งไปยังพรรคประชาธิปัตย์   เพื่อให้คณะกรรมการบริหารพรรคมีมติเด็ดขาดตามข้อบังคับพรรค สืบเนื่องจากกรณีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ถูกกล่าวหาว่ากระทำอนาจารกับหญิงสาวหลายราย รวมทั้งข่มขืนกระทำชำเราด้วย ซึ่งรองหัวหน้าพรรคพรรคคนดังกล่าวได้แสดงสปิริตลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่ได้บ่งบอกว่าลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แล้ว  

“เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้าง มาก ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีข้อบังคับพรรค พ.ศ.2561 กำหนดไว้ชัดเจนว่าพรรคดำรงตามระเบียบ กฏเกณฑ์ กฎหมายและรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด และมีจารีตประเพณี บทบัญญัติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจริยธรรมไว้ให้สมาชิกพรรคและกรรมการบริหารพรรคยึดถือเป็นแนวปฏิบัติ   รวมทั้งในข้อ 19  กำหนดไว้พรรคประชาธิปัตย์ต้องรับผิดชอบต่อสมาชิกพรรค โดยไม่ให้สมาชิกของพรรคละเมิดกฎหมาย ข้อบังคับพรรคและระเบียบอื่นใดที่กกต.กำหนด” นายศรีสุวรรณ กล่าว


นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องจริยธรรม ข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์กำหนดไว้ชัดเจนอยู่แล้ว แต่คณะกรรมการบริหารพรรคกลับเพิกเฉยและพยายามอ้างว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ใช่เรื่องของพรรค ซึ่งไม่น่าจะถูกต้อง  เพราะเหตุที่เกิดขึ้นหากปรากฏว่าเป็นจริงก็อยู่ในช่วงเวลาที่รองหัวหน้าพรรคคนดังกล่าวมีตำแหน่งอยู่ในคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งมาตรา 22 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ระบุไว้ชัดเจนว่าพรรคการเมืองจะต้องควบคุมดูแลมวลสมาชิก และคณะกรรมการบริหารพรรคไม่ให้ละเมิดรัฐธรรมนูญ กฎหมายและข้อบังคับพรรค รวมทั้งประกาศอื่นใดของกกต.

“เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้น ได้สดับรับฟังว่าทางคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์จะดำเนินการอย่างใดต่อผู้ที่ละเมิดข้อบังคับหรือไม่ แต่เท่าที่ผ่านมาหลายวัน  ทั้งหัวหน้าพรรค โฆษกพรรค กรรมการบริหารพรรคไม่ได้พูดถึงเรื่องเรียกประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวเลย แต่กลับภาคเสธว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของรองหัวหน้าพรรคคนดังกล่าว ซึ่งพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 22 ระบุไว้ชัดเจนว่าเป็นหน้าที่ของเลขาธิการกกต.ที่จะต้องแจ้งพรรคการเมืองนั้น ๆ ให้รีบยุติการกระทำดังกล่าว และกำหนดมาตรการเพื่อไม่ให้สมาชิกพรรคหรือคณะกรรมการบริหารพรรคดำเนินการในลักษณะดังกล่าวอีก” นายศรีสุวรรณ กล่าว

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า มาตรา 22  วรรค  3 ระบุว่าหากเลขาธิการกกต.แจ้งไปยังพรรคการเมืองดังกล่าวแล้วยังเพิกเฉยและไม่ดำเนินการใด ๆ เลขาธิการกกต.มีอำนาจหน้าที่เสนอเรื่องดังกล่าวไปยังกกต.เพื่อให้สั่งเพิกถอนให้คณะกรรมการบริหารพรรคทั้งชุดพ้นจากตำแหน่งได้ เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องใหญ่ต่อพรรคการเมือง วันนี้องค์การสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจึงมายื่นคำร้องต่อกกต.และเลขาธิการ กกต. เพื่อให้ดำเนินการ ตามครรลองของกฎหมายต่อไป


ส่วนกรณีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้มเปิดคลิปเสียงหญิงสาว ซึ่งปรากฏเสียงฝ่ายชายตัดพ้อว่าถูกกลั่นแกล้งจากพรรคก้าวไกล  นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า กรณีนี้ต้องตรวจสอบข้อมูลต่อไปว่าจะเกี่ยวพันกับพรรคการเมืองที่ถูกระบุในคลิปดังกล่าวหรือไม่ หากมีความชัดเจนและเกี่ยวพันกับเรื่องนี้โดยตรงก็อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลจริยธรรมหรือมาตรฐานทางจริยธรรมที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ซึ่งอาจสร้างความเสื่อมเสียต่อตำแหน่งนักการเมืองคนนั้นหรือพรรคการเมืองนั้น ซึ่งทางสมาคมฯ จะมายื่นป.ป.ช.ให้ไต่สวนเพื่อวินิจฉัยเอาผิดต่อไปได้  

“การเมืองเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อาจจะมีคู่กรณีหลายฝ่ายที่อาจกลั่นแกล้งกันได้ ดังนั้น การตรวจสอบต้องมีความละเอียด รอบคอบ อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าพี่น้องสื่อมวลชนและสาธารณชนเองก็ช่วยตรวจสอบเรื่องนี้กันมากอยู่แล้ว ซึ่งข้อเท็จจริงมีหนึ่งเดียวเท่านั้นและความจริงก็คือความจริง ถ้าความจริงปรากฏแล้ว หากเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนจริยธรรม ฝ่าฝืนกฎหมาย ทางสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญจะดำเนินการให้ถึงที่สุดต่อไป

ส่วนพรรคการเมืองที่ถูกพาดพิงควรดำเนินการอย่างไรหรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า พรรคต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสมาชิกและคณะกรรมการบริหารพรรค   รวมทั้งประชาชน จะอยู่นิ่งเฉยแล้วปล่อยให้เรื่องเงียบไปตามกระแสคลื่นคงไม่ได้ ควรตั้งกรรมการสอบเรื่องนี้โดยเฉพาะว่าข้อเท็จจริงเป็นไปตามคลิปหรือเป็นไปตามที่สื่อมวลชน   หรือโซเชียลมีเดียรายงานหรือไม่ ไม่ใช่ปล่อยวิพากษ์วิจารณ์กันไปมาในโซเชียลมีเดีย ทวิตเตอร์ ซึ่งไม่ถูกต้อง แต่ต้องทำเรื่องนี้ให้มีข้อยุติเพื่อที่สาธารณชนจะได้เข้าใจว่าเป็นเรื่องจริง  หรือเป็นเรื่องตัดแต่งเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย