“สุชัชวีร์” หาเสียงวันสงกรานต์ ชูนโยบาย “อาวุโสอุ่นใจ”

กทม. 13 เม.ย.-“เอ้ สุชัชวีร์” ชูนโยบาย “อาวุโสอุ่นใจ” ขอดูแลผู้สูงอายุกรุงเทพอย่างดีที่สุด อ้อนคน กทม. เลือกผู้ว่าฯ และ ส.ก. 50 เขต พร้อมทำทันที

ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หมายเลข 4 และนายปวิช พรหมทอง ผู้สมัคร ส.ก.เขตห้วยขวาง หมายเลข 1 ลงพื้นที่ชุมชนโรงปูนเหนือ-ใต้ และชุมชนลาดพร้าว 42-44 ในช่วงบ่ายวันนี้ (13 เม.ย. 2565) ซึ่งเป็นวันสงกรานต์ ปีใหม่ไทย อีกทั้งยังเป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติอีกด้วย


“เอ้ สุชัชวีร์” เห็นว่าสถานการณ์ผู้สูงวัยใน กทม. มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ครบ 50 เขต และก้าวเดินไปมากกว่า 1 ล้านก้าว พบว่ามีผู้สูงอายุทุกบ้าน ตั้งแต่บ้านมีรั้ว คอนโดมิเนียม แฟลต ชุมชน หมู่บ้านเก่าๆ จนถึงชุมชนที่ผู้สูงอายุไม่ได้ติดเตียง แต่นอนติดพื้นติดเสื่อ

ดังนั้นกรุงเทพมหานครจำเป็นต้องมีนโยบายรองรับสังคมผู้สูงอายุ “อาวุโสอุ่นใจ” 3 เรื่อง


  1. มีระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทันสมัย พร้อมด้วยอินเทอร์เน็ตฟรี 150,000 จุด
  • ยกระดับการแจ้งเหตุฉุกเฉิน รองรับการแจ้งเหตุผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งทางโทรศัพท์ แอปพลิเคชันออนไลน์
  • บริการ TeleMed และกำไลแจ้งเหตุฉุกเฉิน (Smart Device) มีระบบติดตามผลการแจ้งเหตุและมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญรับแจ้งเหตุเพื่อประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือทันที
  1. ตรวจสุขภาพฟรี หมอดี รพ. ดี ใกล้บ้าน
  • ผู้สูงอายุในกทม. ตรวจเพิ่มเติมจากสิทธิขั้นพื้นฐาน ตรวจสุขภาพหัวใจ สมอง หลอดเลือด ฟรีทุกปี
  • มีรถบริการตรวจสุขภาพออกตรวจถึงชุมชน ให้ผู้สูงอายุเข้าถึงบริการสุขภาพได้ง่ายขึ้น
  • รวมถึงเพิ่มอุปกรณ์การแพทย์ทันสมัย และมีหมอเฉพาะทาง 3 วันต่อสัปดาห์ ที่ศูนย์สาธารณสุขใกล้บ้าน
  1. จ้างงานผู้สูงอายุ 5,000 ตำแหน่ง
  • การจ้างงานผู้สูงอายุ ต้องเกิดขึ้นใน กทม. อย่างจริงจัง โดยเข้าระบบกองทุนการจ้างงานชุมชน ให้ผู้สูงอายุได้สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เช่น การดูแลเด็ก/ดูแลผู้สูงอายุด้วยกัน การทำความสะอาด การเพาะปลูกผัก เพื่อการค้าขายในชุมชน เป็นต้น

นอกจากนี้จากการเข้ามาเยี่ยมโรงปูนเหนือ-ใต้ ประธานชุมชนได้พาชมสภาพภายในชุมชน ซึ่งในช่วงเช้าที่ผ่านมาเกิดเหตุเพลิงไหม้ “เอ้ สุชัชวีร์” จึงได้ไปดูสถานที่เกิดเหตุ พบว่าชุมชนมีสายไฟระโยงระยาง จนกลายเป็นที่มาของชื่อเรียกอีกชื่อว่า ชุมชนไฟโยง และเนื่องจาก “เอ้ สุชัชวีร์” เป็นวิศวกร จึงได้แนะนำว่า เมื่อเห็นสายไฟ ขอให้คิดเป็นอย่างแรกว่าอันตราย กทม. ซึ่งมีหน่วยงานที่ดูแลเรื่องน้ำ และไฟฟ้า ควรมีหน่วยเคลื่อนที่เพื่อให้ความรู้ คำแนะนำเรื่องการเดินสายไฟให้กับพี่น้องประชาชน

“ถ้าผู้ว่าฯ เป็นคนนี้ เป็นช่าง เป็นวิศวกร ห่วงใยจริงๆ ไม่อยากให้เหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นในชุมชน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยาก อยู่ที่ผู้นำ ถ้าผู้ว่าฯ กทม. มีความตั้งใจ ก็ทำได้แน่นอน ผมอยากเห็นชุมชนสะอาด และปลอดภัย และเนื่องในโอกาสสงกรานต์ปีนี้ ผม เอ้ สุชัชวีร์ ขออวยพรให้คุณพ่อคุณแม่ ลูกๆ หลานๆ และครอบครัวที่รักทุกคน มีความสุขสมหวัง เฮงๆ และมีความปลอดภัย มีความหวังกับชุมชนของเรา บ้านเมืองของเรา เราจะสู้ด้วยกัน เปลี่ยนกรุงเทพ #เราทำได้”

นายสุชัชวีร์ กล่าวถึงกรณีที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. บางคนไม่มีทีม ส.ก. หรือบางพรรค ส่งผู้สมัคร ส.ก. แต่ไม่มีผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ว่า การจะเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ นั้น จะต้องมาพร้อมทีม ส.ก. เพราะ ส.ก.แต่ละพื้นที่ จะเข้าใจปัญหาชุมชน ปัญหาแต่ละพื้นที่เป็นอย่างดี และเมื่อเป็นผู้ว่าฯ กทม. แล้ว นโยบายต่างๆ จะไม่สามารถเป็นจริงได้ หากไม่มี ส.ก. ที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน ดังนั้นจึงมั่นใจว่าตนเอง และ ส.ก. มีความชัดเจน และถูกต้อง


ขณะเดียวกัน ในวันนี้ (13 เม.ย.) นายสุชัชวีร์ พร้อมด้วยนายปวิช พรหมทอง ผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคฯ ลงพื้นที่ชุมชนโรงปูนเหนือ-ใต้ ชุมชนห้วยขวาง เพื่อขอคะแนนเสียง และพบปะประชาชน ที่พักผ่อนหย่อนใจในกรุงเทพฯ ไม่ได้ออกต่างจังหวัด พร้อมอวยพรประชาชนในชุมชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมถึงยังสำรวจปัญหาในชุมชน โดยเฉพาะปัญหาสายไฟ สายสื่อสาร ที่ระโยงระยางเป็นอันตราย เพราะบ้านเรือนในชุมชนส่วนใหญ่เป็นไม้ ซึ่งหากลัดวงจร จะเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี รวมถึงปัญหาขยะ ที่ตกค้าง รถขยะจัดเก็บไม่หมด เพราะซอยมีขนาเล็ก จึงมีนโยบายการจัดหารถขยะที่ขนาดเล็กลง สามารถเก็บขยะเข้าถึงได้ทุกตรอกซอกซอยในชุมชน รวมถึงนโยบายอาวุโสอุ่นใจ ดูแลผู้สูงอายุในกรุงเทพฯ มีระบบแจ้งเหตุผู้สูงอายุฉุกเฉินที่ทันสมัย ตรวจสุขภาพฟรี หมอดี โรงพยาบาลดีใกล้บ้าน และจ้างงานผู้สูงอายุ 5,000 ตำแหน่ง

นายสุชัชวีร์ ยังติดตามสภาพภายในชุมชน ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพักอาศัยหลังหนึ่ง ที่สามี ทะเลาะกับภรรยาต่างด้าว จึงจุดเพลิงเผาบ้านตนเอง พร้อมกังวลว่า สายสื่อสาร ที่ระโยงระยางเป็นอันตราย เพราะบ้านเรือนในชุมชนส่วนใหญ่เป็นไม้ เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีหากชุมชม ไม่ได้รับการดูแลจาก กทม. อย่างดี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]