กทม. 13 เม.ย.-“เอ้ สุชัชวีร์” ชูนโยบาย “อาวุโสอุ่นใจ” ขอดูแลผู้สูงอายุกรุงเทพอย่างดีที่สุด อ้อนคน กทม. เลือกผู้ว่าฯ และ ส.ก. 50 เขต พร้อมทำทันที
ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หมายเลข 4 และนายปวิช พรหมทอง ผู้สมัคร ส.ก.เขตห้วยขวาง หมายเลข 1 ลงพื้นที่ชุมชนโรงปูนเหนือ-ใต้ และชุมชนลาดพร้าว 42-44 ในช่วงบ่ายวันนี้ (13 เม.ย. 2565) ซึ่งเป็นวันสงกรานต์ ปีใหม่ไทย อีกทั้งยังเป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติอีกด้วย
“เอ้ สุชัชวีร์” เห็นว่าสถานการณ์ผู้สูงวัยใน กทม. มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ครบ 50 เขต และก้าวเดินไปมากกว่า 1 ล้านก้าว พบว่ามีผู้สูงอายุทุกบ้าน ตั้งแต่บ้านมีรั้ว คอนโดมิเนียม แฟลต ชุมชน หมู่บ้านเก่าๆ จนถึงชุมชนที่ผู้สูงอายุไม่ได้ติดเตียง แต่นอนติดพื้นติดเสื่อ
ดังนั้นกรุงเทพมหานครจำเป็นต้องมีนโยบายรองรับสังคมผู้สูงอายุ “อาวุโสอุ่นใจ” 3 เรื่อง
- มีระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทันสมัย พร้อมด้วยอินเทอร์เน็ตฟรี 150,000 จุด
- ยกระดับการแจ้งเหตุฉุกเฉิน รองรับการแจ้งเหตุผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งทางโทรศัพท์ แอปพลิเคชันออนไลน์
- บริการ TeleMed และกำไลแจ้งเหตุฉุกเฉิน (Smart Device) มีระบบติดตามผลการแจ้งเหตุและมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญรับแจ้งเหตุเพื่อประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือทันที
- ตรวจสุขภาพฟรี หมอดี รพ. ดี ใกล้บ้าน
- ผู้สูงอายุในกทม. ตรวจเพิ่มเติมจากสิทธิขั้นพื้นฐาน ตรวจสุขภาพหัวใจ สมอง หลอดเลือด ฟรีทุกปี
- มีรถบริการตรวจสุขภาพออกตรวจถึงชุมชน ให้ผู้สูงอายุเข้าถึงบริการสุขภาพได้ง่ายขึ้น
- รวมถึงเพิ่มอุปกรณ์การแพทย์ทันสมัย และมีหมอเฉพาะทาง 3 วันต่อสัปดาห์ ที่ศูนย์สาธารณสุขใกล้บ้าน
- จ้างงานผู้สูงอายุ 5,000 ตำแหน่ง
- การจ้างงานผู้สูงอายุ ต้องเกิดขึ้นใน กทม. อย่างจริงจัง โดยเข้าระบบกองทุนการจ้างงานชุมชน ให้ผู้สูงอายุได้สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เช่น การดูแลเด็ก/ดูแลผู้สูงอายุด้วยกัน การทำความสะอาด การเพาะปลูกผัก เพื่อการค้าขายในชุมชน เป็นต้น
นอกจากนี้จากการเข้ามาเยี่ยมโรงปูนเหนือ-ใต้ ประธานชุมชนได้พาชมสภาพภายในชุมชน ซึ่งในช่วงเช้าที่ผ่านมาเกิดเหตุเพลิงไหม้ “เอ้ สุชัชวีร์” จึงได้ไปดูสถานที่เกิดเหตุ พบว่าชุมชนมีสายไฟระโยงระยาง จนกลายเป็นที่มาของชื่อเรียกอีกชื่อว่า ชุมชนไฟโยง และเนื่องจาก “เอ้ สุชัชวีร์” เป็นวิศวกร จึงได้แนะนำว่า เมื่อเห็นสายไฟ ขอให้คิดเป็นอย่างแรกว่าอันตราย กทม. ซึ่งมีหน่วยงานที่ดูแลเรื่องน้ำ และไฟฟ้า ควรมีหน่วยเคลื่อนที่เพื่อให้ความรู้ คำแนะนำเรื่องการเดินสายไฟให้กับพี่น้องประชาชน
“ถ้าผู้ว่าฯ เป็นคนนี้ เป็นช่าง เป็นวิศวกร ห่วงใยจริงๆ ไม่อยากให้เหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นในชุมชน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยาก อยู่ที่ผู้นำ ถ้าผู้ว่าฯ กทม. มีความตั้งใจ ก็ทำได้แน่นอน ผมอยากเห็นชุมชนสะอาด และปลอดภัย และเนื่องในโอกาสสงกรานต์ปีนี้ ผม เอ้ สุชัชวีร์ ขออวยพรให้คุณพ่อคุณแม่ ลูกๆ หลานๆ และครอบครัวที่รักทุกคน มีความสุขสมหวัง เฮงๆ และมีความปลอดภัย มีความหวังกับชุมชนของเรา บ้านเมืองของเรา เราจะสู้ด้วยกัน เปลี่ยนกรุงเทพ #เราทำได้”
นายสุชัชวีร์ กล่าวถึงกรณีที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. บางคนไม่มีทีม ส.ก. หรือบางพรรค ส่งผู้สมัคร ส.ก. แต่ไม่มีผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ว่า การจะเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ นั้น จะต้องมาพร้อมทีม ส.ก. เพราะ ส.ก.แต่ละพื้นที่ จะเข้าใจปัญหาชุมชน ปัญหาแต่ละพื้นที่เป็นอย่างดี และเมื่อเป็นผู้ว่าฯ กทม. แล้ว นโยบายต่างๆ จะไม่สามารถเป็นจริงได้ หากไม่มี ส.ก. ที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน ดังนั้นจึงมั่นใจว่าตนเอง และ ส.ก. มีความชัดเจน และถูกต้อง
ขณะเดียวกัน ในวันนี้ (13 เม.ย.) นายสุชัชวีร์ พร้อมด้วยนายปวิช พรหมทอง ผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคฯ ลงพื้นที่ชุมชนโรงปูนเหนือ-ใต้ ชุมชนห้วยขวาง เพื่อขอคะแนนเสียง และพบปะประชาชน ที่พักผ่อนหย่อนใจในกรุงเทพฯ ไม่ได้ออกต่างจังหวัด พร้อมอวยพรประชาชนในชุมชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมถึงยังสำรวจปัญหาในชุมชน โดยเฉพาะปัญหาสายไฟ สายสื่อสาร ที่ระโยงระยางเป็นอันตราย เพราะบ้านเรือนในชุมชนส่วนใหญ่เป็นไม้ ซึ่งหากลัดวงจร จะเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี รวมถึงปัญหาขยะ ที่ตกค้าง รถขยะจัดเก็บไม่หมด เพราะซอยมีขนาเล็ก จึงมีนโยบายการจัดหารถขยะที่ขนาดเล็กลง สามารถเก็บขยะเข้าถึงได้ทุกตรอกซอกซอยในชุมชน รวมถึงนโยบายอาวุโสอุ่นใจ ดูแลผู้สูงอายุในกรุงเทพฯ มีระบบแจ้งเหตุผู้สูงอายุฉุกเฉินที่ทันสมัย ตรวจสุขภาพฟรี หมอดี โรงพยาบาลดีใกล้บ้าน และจ้างงานผู้สูงอายุ 5,000 ตำแหน่ง
นายสุชัชวีร์ ยังติดตามสภาพภายในชุมชน ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพักอาศัยหลังหนึ่ง ที่สามี ทะเลาะกับภรรยาต่างด้าว จึงจุดเพลิงเผาบ้านตนเอง พร้อมกังวลว่า สายสื่อสาร ที่ระโยงระยางเป็นอันตราย เพราะบ้านเรือนในชุมชนส่วนใหญ่เป็นไม้ เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีหากชุมชม ไม่ได้รับการดูแลจาก กทม. อย่างดี.-สำนักข่าวไทย