หัวลำโพง 12 เม.ย. – “ศิธา” ลงพื้นที่หัวลำโพง ส่งประชาชนกลับภูมิลำเนา ระบุแม้เป็นประชากรแฝงก็ต้องได้รับการดูแลอย่างดี ด้าน คุณหญิงสุดารัตน์ มอง “พล.อ.ประวิตร” ขึ้นป้ายสวัสดีปีใหม่ไทย มีนัยยะปูทางสู่การเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี
น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 11 พรรคไทยสร้างไทยพร้อมด้วย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย และผู้สมัคร สก. ลงพื้นที่พบปะประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อรับฟังปัญหาจากประชาชนที่สะท้อน เรื่องการให้บริการเที่ยวรถไฟที่ยังไม่เพียงพอ และต้องกำหนดระยะห่าง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ให้ชัดเจน ทำให้ประชาชนหลายคนพลาดการเดินทาง
น.ต.ศิธา กล่าวว่า เหมือนทุกครั้งในช่วงเทศกาลที่มีการเดินทาง มักพบว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดจะเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นกรุงเทพมหานครควรเตรียมสำรวจเตียงและสถานพยาบาลเพื่อเตรียมรองรับตัวเลขการติดเชื้อที่น่าจะเพิ่มขึ้นหลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมระบุประชาชนที่เดินทางในวันนี้(12 เม.ย.) ส่วนหนึ่งเป็นประชากรแฝง ที่เข้ามาอยู่อาศัย และทำงานในกรุงเทพมหานคร ซึ่งแม้จะไม่ใช่คนที่มีสิทธิในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง แต่ก็ถือเป็นคนไทย ที่ต้องได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ แม้กระทั่งกลุ่มชุมนุมที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด
ด้าน คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงการขึ้นป้ายอวยพรปีใหม่ไทยของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่า อาจมีนัยยะทางการเมือง ที่มีความเป็นไปได้ในการปูทางไปสู่การเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี อีกทั้งที่ผ่านมาการเคลื่อนไหวของนายกรัฐมนตรี ในการลงพื้นที่พบปะประชาชนเกิดขึ้นบ่อยขึ้น ขยันกว่าปกติ เหมือนทั้ง 2 ป. ต่างคนต่างมีเป้าหมายของดาวคนละดวง จึงไม่แน่ใจว่าในอนาคตทั้ง 2 ป. จะยังคงอยู่ร่วมกันหรือไม่
“นายกรัฐมนตรีและพล.อ.ประวิตร ในฐานะที่ยังมีหน้าที่ มีตำแหน่ง มีงบประมาณ ก็ไม่ควรมองแต่เรื่องผลประโยชน์หรือคะแนนเสียง หรือการเตรียมการทางการเมืองในอนาคต แต่อยากเห็นการผนึกกำลังของคนในรัฐบาลจากทุกกระทรวง ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน โดยเฉพาะในภาวะวิกฤตโควิด- 19 แบบนี้ ขณะนี้ประชาชนเดือดร้อน เพราะน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนการผลิต มีราคาแพง ทำให้ทุกอย่างมีราคาแพง ซึ่งจริงๆ รัฐบาล แก้ปัญหาง่ายมาก เพียงลดภาษีสรรพสามิต น้ำมัน เพราะที่ผ่านมา ไม่เคยมีการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน สูงเท่านี้ มาก่อน”คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย.