กทม. 9 เม.ย.- “สกลธี” ไม่อยากมองทำลายป้ายเป็นเกมการเมือง พร้อมเผยนโยบายกล้องใส่ระบบ AI ทั่ว กทม. เพิ่มความปลอดภัย เน้นประชาชนขอดูภาพวงจรปิดง่ายขึ้น โดยเฉพาะคดีอาชญากรรม
นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินสายพบปะประชาชน พร้อมแนะนำตัว กับผู้มาจับจ่ายซื้อของ พ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดธรากร ซอยรามคำแหง 166 และไปต่อที่ ตลาดนัดจตุจักร 2 และตลาดมีนบุรี เขตมีนบุรี มีประชาชนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
นายสกลธี กล่าวว่า วันนี้มาเดินตลาดเช้า 3 ตลาดที่เขตมีนบุรี เพื่อมาดูการจับจ่ายซื้อของ พบว่ากำลังซื้อค่อนข้างลดลง และเขตมีนบุรี พบว่างบประมาณส่วนกลางของกรุงเทพฯ ยังลงมาไม่เพียงพอ แม้ว่ามีถนนใหญ่ตัดขึ้นมาใหม่ แต่ถนนสาขายังมีสภาพเป็นลูกรังและเป็นหินอยู่ ต้องกระจายงบประมาณให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีส้ม ซึ่งนโยบายของตนคือการเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชน “ล้อ ราง เรือ” ซึ่งการเดินทางโดยเรือโดยสารของกรุงเทพฯตอนที่เป็นรองผู้ว่าฯ กทม. ได้ผลักดันเรือคลองแสนแสบ ซึ่งจะต้องมีการขยายเส้นทางไปถึงเขตหนองจอกด้วย เพราะมีประชากรอาศัยอยู่จำนวนมาก เพื่อเดินทางเข้าไปทำงานในพื้นที่ชั้นใน
นายสกลธี กล่าวถึงกรณีที่ป้ายหาเสียงของตนที่ถูกกรีดทำลายหลายจุด ว่า ไม่อยากจะคิดว่าเป็นเกมการเมือง จึงได้ให้ทีมงานนำออกทันทีและพยายามติดป้ายในจุดที่ไม่กีดขวางทางเดินการจราจรของประชาชน ส่วนการจะแจ้งความดำเนินคดีผู้ทำชายป้ายหรือไม่นั้น ขอดูอีกระยะหนึ่ง หากมีมากขึ้น อาจจะต้องจัดทีมงานมาคอยติดตามและดูกล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานครต่อไป ซึ่งกล้อง CCTV ทั่วกรุงเทพฯมีกว่า 60,000 ตัว หากได้เข้ามาบริหารเป็นผู้ว่าฯ กทม. จะเพิ่มกล้อง CCTV เพิ่มการติดตั้งให้ถี่ทุกจุดมากขึ้น รวมถึงใส่ระบบ AI สมองกลเข้ามาร่วมการทำงานด้วย เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ยืนยันว่าให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของคนกรุงเทพฯ รวมถึงชาวต่างชาติที่จะเข้ามาท่องเที่ยว ซึ่งกล้องวงจรปิดมีประโยชน์เรื่องการติดตามอาชญากรรมได้มากและในอนาคตจะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนขอดูภาพกล้องวงจรปิดได้ง่ายขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาค่อนข้างยาก เรื่องการขอไฟล์ภาพก็ไม่ต้องใช้แผ่นซีดีแล้ว สามารถดึงไฟล์ภาพให้ได้เลย
ทั้งนี้มีความมั่นใจในสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แม้ว่าจะมีเวลาอีกเดือนเศษเท่านั้น ซึ่งเท่าที่การเดินพบปะประชาชนก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดี แต่ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนในวันเลือกตั้ง 22 พฤษภาคมนี้.-สำนักข่าวไทย