7 เม.ย. – ไม่รอด! “ปารีณา” ถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต เซ่นคดีรุกป่าราชบุรี ปิดฉากเส้นทางการเมือง เจ้าตัวเผยขอเวลาทำใจ
นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวภายหลังทราบผลการตัดสินของศาลสั้นๆ ว่า ทราบแล้วว่าแพ้คดีและถูกตัดสิทธิ ยังไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรต่อ ขอเวลาทำใจก่อน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยโทรสัมภาษณ์ หลังจากศาลฎีกามีคำพิพากษาให้นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ พ้นจากตำแหน่ง ส.ส. พร้อมกับตัดสิทธิการเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี และห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต โดยนางสาวปารีณาตอบคำถามสั้นๆ ขอเวลาทำใจก่อน
ส่วนบรรยากาศที่หน้าบ้านของนางสาวปารีณา จ.ราชบุรี พบว่าปิดประตูเงียบ ไม่มีใครเข้าออกเหมือนที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อ เพื่อขอเข้าพบและพูดคุย โดยนางสาปารีณาได้ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่เศร้าว่ารับทราบผลการพิจารณาคดีแล้ว ขอน้อมรับคำพิพากษาของศาล และไม่ขอพูดคุยแสดงความคิดเห็นใดๆ ในเวลานี้ ตนยังไม่มีแผนรองรับ ขอเวลาทำใจสักพัก เนื่องจากเวลานี้ไม่มีไก่ให้เลี้ยง ไม่มีสภาฯ ให้ไปประชุม และไม่ต้องลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน เหมือนเป็นคนไม่มีงานทำ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว หลังจากทำใจได้แล้วค่อยมาคิดว่าจะทำอะไรต่อไป และคงจะไม่มีการแถลงข่าวใดๆ
ส่วนบริเวณหน้าฟาร์มไก่ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นเหตุที่ทำให้ศาลฎีกามีคำพิพากษาว่านางสาวปารีณามีความผิด พบว่าบริเวณประตูทางเข้านั้นยังมีร่องรอยของล้อรถทั้งขนาดใหญ่และเล็กเข้าออกภายในฟาร์ม แต่บริเวณหน้าฟาร์มมีการปิดประตูล็อกเอาไว้ และมีช่องทางเดินเข้าออกด้านข้าง ภายในมีร่องรอยของผู้อยู่อาศัย เนื่องจากมีเสื้อผ้าตากอยู่ คาดว่าอาจจะมียังมีการประกอบกิจการ หรืออาจจะมีการขนย้ายอุปกรณ์ที่อยู่ด้านในออกมา
สำหรับป้ายข้อความที่ประกาศตรวจสอบที่ดินดังกล่าวว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย และอ้างข้อกฎหมายต่างๆ เช่น “เข้าไปยึดถือครอบครอง ก่อสร้าง เผาป่า ทำด้วยประการใด ให้เป็นการทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดินในที่ดินของรัฐโดยไม่มีสิทธิครอบครอง” ซึ่งมีการนำมาปิดประกาศเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2562 นั้นเริ่มซีดจนแทบมองไม่เห็นข้อความ และยังล้มพิงกับรั้วลวดหนามอยู่
คดี “ปารีณา” บรรทัดฐานจริยธรรมอนาคต
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีศาลฎีกาพิพากษานางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากคดีรุกป่าราชบุรี โดยให้พ้นจากตำแหน่ง ส.ส. เพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง 10 ปี ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งและดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต ว่าจะเป็นบรรทัดฐานพิจารณาคดีจริยธรรมร้ายแรงต่อไปในอนาคต เพราะศาลตัดสินตามกฎหมาย และหากมีคดีคล้ายคลึงกันเกิดขึ้นก็มีโอกาสจะรับโทษอย่างเดียวกัน
ส่วนที่บางฝ่ายมองว่าศาลไม่ควรตัดสินโดยใช้จริยธรรม แต่ควรตัดสินคดีแพ่งและคดีอาญามากกว่า นายวิษณุ กล่าวว่า จะพูดอย่างนั้นไม่ได้ เพราะกฎหมายให้ศาลเป็นคนตัดสิน ส่วนที่วิจารณ์ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการประหารชีวิตทางการเมืองที่รุนแรง ขอไม่แสดงความคิดเห็น ส่วนถ้าจะแก้ไขเรื่องโทษตลอดชีวิตจะต้องแก้รัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ ต้องไปว่ากันในอนาคต ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย