“อนุชา” ลงภูเก็ต ถกแนวทางแก้ปัญหาประมงฯ

ภูเก็ต 7 เม.ย.- “อนุชา” ลงพื้นที่ภูเก็ตตรวจสอบข้อเท็จจริง ประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนสมาคมประมงฯ ยืนยันรัฐบาลตั้งใจแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ ให้เกิดความยั่งยืน

วันนี้ (7 เมษายน 2565) เวลา 14.00 น. นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางลงพื้นที่ จังหวัดภูเก็ต เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและประชุมหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของสมาคมการประมงแห่งประเทศ โดยมีนายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะทำงานร่วมลงพื้นที่


รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะได้เดินทางไปยังท่าเทียบเรือประมงภูเก็ตตําบลรัษฎา เพื่อตรวจติดตามการบริหารจัดการเรือขาวแดงและตรวจสอบระบบติดตามเรือประมง (Vessel Monitoring System: VMS) และการติดตั้งระบบ Automatic Identification System : AIS ในเรือประมง จากนั้นได้ร่วมประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากกรณีที่สมาคมชาวประมงแห่งประเทศไทย ได้ร่วมประชุมหารือกรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน

ภายหลังตรวจเยี่ยมและประชุมรับฟังปัญหาฯ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีความ ห่วงใยถึงปัญหาการประมงในพื้นที่ ซึ่งการแก้ไขปัญหากรณีดังกล่าว มีความจําเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ความละเอียด รอบคอบในการดําเนินการแก้ไขปัญหา เนื่องจากบางกรณีปัญหาเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องด้านกฎหมาย โดยจะต้อง ประสานสอบถามความเห็นจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาให้การแก้ไขปัญหา เป็นไปอย่างถูกต้อง ตามกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันปัญหาใหม่ที่อาจเกิดขึ้นตามมาภายหลัง พร้อมกำชับให้หาทางแก้ไขให้ทั้งภาครัฐและชาวประมงได้รับประโยชน์ 2 ฝ่าย บนพื้นฐานความร่วมมือความเข้าใจที่ดีต่อกัน


รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่าตลอดเวลาที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ติดตามปัญหาอย่างใกล้ชิด สั่งการกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้ความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาที่สะสมและเรื้อรังมานาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการประมงอย่างเต็มที่ ยืนยันรัฐบาลมีความตั้งใจแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะปัญหาที่ประชาชนได้รับจากการออกกฎ ข้อบังคับ มาตรการต่างๆ ของรัฐบาล ขอให้ประชาชนเข้าใจถึงออกกฎ ข้อบังคับ มาตรการต่างๆ ด้วย เพราะรัฐบาลต้องการทำทุกอย่างให้เข้าสู่ระบบ และถูกต้องกฎหมาย ให้ได้ตามมาตรฐานสากล แต่รัฐบาลก็ไม่เคยทอดทิ้งประชาชนที่ใช้ชีวิต มีอาชีพมาก่อนจะมีกฎข้อบังคับ ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ในส่วนประเด็นข้อกังวลเรื่องการติดตั้ง AIS จะทำให้ข้อมูลผู้ประกอบการถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอให้ผู้ประกอบอย่ากังวลในเรื่องนี้ ซึ่งจะมีการเข้ารหัสเพื่อสามารถให้เข้าถึงข้อมูล ส่วนข้อมูลที่้เปิดเผยนั้นเป็นการเปิดเผยเท่าที่จำเป็นเพื่อใช้ในการติดตามเรือ แต่จะไม่เปิดเผยข้อมูลจริงทั้งหมดของเรือ ส่วนเรื่องอุปกรณ์ปั่นไฟที่ผู้ประกอบการแสดงความเป็นห่วงเรื่องความรับผิดชอบกรณีอุปกรณ์เสียหายนั้น ในส่วนนี้จะเป็นการให้ผู้ประกอบการรับผิดชอบกรณีจงใจทำให้อุปกรณ์เสียหายเท่านั้น ถึงจะให้ผู้ประกอบการรับผิดชอบค่าเสียหาย สำหรับเรื่องวันทำประมงที่ได้เสนออีก 30 วัน ในปีการประมงนั้น ขอให้ทุกคนเข้าใจบริบทของสภาพความสมบูรณ์ของธรรมชาติเพื่อให้เกิดความสมดุลของระบบนิเวศ รวมถึงความปลอดภัยช่วงมรสุม จำเป็นต้องประกาศกำหนดวันเดินเรืออย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตามประเด็นปัญหาต่างๆ ที่ได้มีการนำเสนอจะนําไปประชุมหาแนวทางการแก้ไขปัญหา เพื่อให้การแก้ไขปัญหาของสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ขอให้ชาวประมงช่วยกันรักษาอาชีพประมง รวมถึงความสมบูรณ์ทางทะเล สภาพแวดล้อม และธรรมชาติให้คงอยู่อย่างสมบูรณ์ตลอดไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว