รัฐสภา 7 เม.ย.-“สาธิต” เผยกมธ.กฎหมายลูกเดินหน้าพิจารณาเรื่องคุณสมบัติผู้ก่อตั้งพรรคการเมือง การันตีวันนี้ลงมติจบ รับประเด็น “ไพรมารีโหวต” ต้องถกเถียงให้ตกผลึก เห็นใจ-เข้าใจ “หมอระวี” ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ คว่ำแก้รธน.บัตรเลือกตั้งสองใบโมฆะ
นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. )ฉบับที่… พ.ศ… ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมกรรมาธิการฯ ว่า วันนี้(7 เม.ย.) จะพิจารณาเรื่องคุณสมบัติผู้ก่อตั้งพรรคการเมืองที่มอบหมายให้คณะทำงานไปศึกษาร่วมกัน เนื่องจากมีความคิดเห็นแตกต่างกัน โดยเฉพาะเรื่องการกำหนดอายุและอาชีพ จำนวนและเงินทุนการก่อตั้งพรรค ซึ่งบางประเด็นอาจจะแก้ไขยาก เพราะอยู่ในหลักการที่กำหนดไว้อยู่แล้ว อาจต้องลงมติในประเด็นที่เห็นต่างที่สามารถแก้ได้และอยู่ในหลักการ
“วันนี้ที่ประชุมต้องพิจารณา เนื่องจากคณะทำงานโดยนายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะเลขานุการกมธ.วิสามัญฯ ไปทำมาจบหมดแล้ว เพียงแต่รอนายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ และรองประธานกมธ.วิสามัญฯ ที่เป็นเจ้าของร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมาร่วมประชุมด้วย วันนี้จะพูดคุยให้จบแล้วลงมติ เพื่อเดินหน้าต่อไป” นายสาธิต กล่าว
นายสาธิต กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเพิ่มเวลาการประชุมตั้งแต่เวลา 09.30 น. -16.30 น. จากเดิมที่ประชุมตั้งแต่เวลา 09.30 น.-13.00 น. โดยจะเริ่มตั้งแต่ช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์เป็นต้นไป เนื่องจากที่ผ่านมาหยุดการประชุมไปสองสัปดาห์ ตั้งเป้าว่าต้องพิจารณาให้เสร็จทันกรอบเวลาคือก่อนเปิดสมัยประชุมสภาฯ สมัยสามัญในวันที่ 22 พ.ค.นี้ จึงจะพยายามเร่งให้เสร็จโดยเร็ว
“ประเด็นสำคัญก็ผ่านไปแล้ว 1 ประเด็นสำหรับกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งเหลืออีกประมาณ 1-2 ประเด็นสำคัญจะต้องดำเนินการหาข้อยุติโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามในที่ประชุมเน้นย้ำเห็นเห็นเป้าหมายตรงกันว่าจะต้องเสร็จให้เร็วที่สุดและทันการเปิดประชุมสภาฯสมัยสามัญ” นายสาธิต กล่าว
ส่วนกรณีนพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เตรียมไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาคว่ำการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นบัตรเลือกตั้งสองใบเป็นโมฆะ นายสาธิต เชื่อว่า จะไม่เกิดผลกระทบต่อการพิจารณาของกมธ.วิสามัญฯ ตนเข้าใจและเห็นใจพรรคเล็กภายใต้สถานการณ์หนึ่ง แต่วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป นพ.ระวีและพรรคเล็กคงอยากรักษาสถานภาพของตนเอง ในฐานะที่ต่อสู้และก่อตั้งพรรคเล็กขึ้นมา
“แต่เมื่อสถานการณ์มาถึงตอนนี้ เราให้ความสำคัญว่าจะต้องทำให้สถาบันพรรคการเมืองมีความเข้มแข็ง และเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง รวมถึงคะแนนที่จะนำมาคำนวณต้องเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นสิ่งที่พรรคเล็กและนพ.ระวีจะใช้สิทธิ์ตนก็เข้าใจได้ ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความเห็นของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ที่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกฎหมายลูกที่กำลังพิจารณา เพราะเรื่องที่นพ.ระวียื่นเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ ที่แก้ไขให้เป็นบัตรเลือกตั้งสองใบ ถือว่าเป็นการใช้สิทธิ์ตามปกติ” นายสาธิต กล่าว
สำหรับประเด็นร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เรื่องการจัดทำไพรมารีโหวตที่ยังข้อถกเถียงกันมาก อาจทำให้ยืดระยะเวลาการพิจารณาออกไปหรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า เป็นประเด็นสำคัญ เพราะในส่วนการทำไพรมารีโหวตในหลักรัฐธรรมนูญคือการใช้คำว่าการมีส่วนร่วมของประชาชน แต่ในแง่การปฏิบัติที่ลงมือทำจริงของแต่ละพรรคการเมืองเห็นตรงกันว่ามีปัญหา ที่สำคัญการมีส่วนร่วมของประชาชนมีหลายมิติ
“การทำไพรมารีโหวต ถ้าสะท้อนความต้องการของคนในเขตเลือกตั้งจะเป็นการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง แต่ถ้าทำเพื่อให้ครบเงื่อนไขตามกฎหมาย ก็อาจจะไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ การพิจารณาต้องถกเถียงกันให้ตกผลึก ถ้าเขียนไว้เข้มจนเกินไปและพรรคการเมืองทำไม่ได้ จะเป็นช่องว่างทำให้พรรคการเมืองมีความหมิ่นเหม่ว่าทำไม่ครบเงื่อนไข และเกิดข้อบกพร่องในการทำผิดกฎหมาย เมื่อเราเขียนกฎหมายแล้วต้องให้เป็นไปตามเจตนารมณ์และทุกฝ่ายปฏิบัติได้จริง ไม่เกิดเงื่อนไข” นายสาธิต กล่าว.-สำนักข่าวไทย