“สันติ” ยัน พปชร. ไม่ตกต่ำ ลุยกวาด ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 150 ที่นั่ง

เทอร์มินัล 21 โคราช 3 เม.ย.- “สันติ” ประกาศเดินตามเป้ากวาด ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 150 ที่นั่ง มั่นใจกระแส “พล.อ.ประยุทธ์” ยันพรรคไม่ตกต่ำ มีแต่ดีวันดีคืน ย้ำ “พีระพันธ์ุ” ลาออกไม่กระทบพรรค พปชร. ไม่สน “แลนด์สไลด์” เพื่อไทย เย้ยแค่ความฝัน

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐคนใหม่ กล่าวภายหลังการประชุมใหญ่สามัญพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งตนในนามกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ยืนยันเป้าหมายว่าขับเคลื่อนนโยบายที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคได้ประกาศไว้ โดยจากนี้ตนจะร่วมประชุมกับกรรมการบริหารพรรค และภาคส่วนต่างๆ ตลอดจนผู้อำนวยการพรรค และฝ่ายยุทธศาสตร์ของพรรค เพื่อกระจายงานลงไปให้กับ ส.ส. สมาชิกพรรค ผู้บริหารในแต่ละภาค ที่แบ่งเป็น 10 ภาคทั่วประเทศ ลงไปรับทราบและสะท้อนปัญหาจากประชาชนในแต่ละภาคและกลุ่มจังหวัด นอกจากนี้ จะพัฒนาเยาวชนคนรุ่นใหม่ เพิ่มศักยภาพหลังจบการศึกษา


ขณะเดียวกัน พรรคได้ตั้งเป้าหมายที่ พล.อ.ประวิตร ให้โจทย์ไว้ ว่าจะได้ ส.ส.ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 150 ที่นั่ง ซึ่ง ส.ส. เก่า ,ส.ส.ใหม่ และกรรมการบริหารพรรคจะรวมกันเป็นหนึ่ง เพื่อเดินไปสู่เป้าหมายให้ประชาชนมีความหวังกับพลังประชารัฐ จะทำเพื่อปากท้องของประชาชนตามเจตนารมณ์ของ พล.อ.ประวิตร เมื่อถามว่าการตั้งพรรคใหม่ ที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เช่นเดียวกับพลังประชารัฐ จะเป็นการตัดคะแนนกันหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ไม่สนใจพรรคอื่น ให้ความสำคัญกับพลังประชารัฐ ที่จะพัฒนาให้เป็นความหวังของประชาชน

เมื่อถามว่านายพีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคได้ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐจะมีผลกระทบต่อพรรคหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า พรรคมีความตั้งใจจะพัฒนาให้เป็นสถาบัน เพื่อให้คนรุ่นใหม่ในอนาคตสามารถเข้ามาสานต่อนโยบายและผลักดันให้ขับเคลื่อนไปได้ อย่างไม่มีรอยต่อ หรือสะดุด แม้ว่าในอนาคตจะไม่มีตน หรือกรรมการบริหารคนอื่นๆ ก็จะสามารถเดินหน้าพรรคต่อไปได้


เมื่อถามว่าการนั่งเลขาธิการพรรค ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเล็กเกินไปหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า หน้าที่ที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับทุกกระทรวง ที่จะแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชน หากมีความตั้งใจในการที่จะดูแลขับเคลื่อนแก้ปัญหา มองว่าไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็สามารถที่จะประสานให้นโยบายของพรรคขับเคลื่อนไปได้

นายสันติ กล่าวว่า ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการประกาศตัวเป็นหัวหน้าครอบครัวของพรรคการเมืองอื่น แต่พลังประชารัฐให้ความสำคัญกับบ้านหลังใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐ เพราะสมาชิกของพลังประชารัฐถือเป็นครอบครัวใหญ่ ที่ต้องลงไปดูทุกข์สุขของประชาชนเป็นหลัก

เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐมีแนวทางจะดึงคะแนนเสียงของคนรุ่นใหม่ได้อย่างไร นายสันติ กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการสัมมนากับสมาชิกใน 400 เขตของพรรค เพื่อให้นำนโยบายของพรรคไปแจ้งกับประชาชน โดยเชื่อว่าหากเราดูแลประชาชนได้ตั้งแต่ฐานราก ขึ้นมาจนถึงนักธุรกิจ ตนก็เชื่อมั่นว่าคะแนนความไว้วางใจจะได้รับการตอบรับเอง


ส่วนที่พรรคเพื่อไทยจะได้คะแนนเสียงแบบแลนด์สไลด์ พรรคพลังประชารัฐจะสามารถต้านทานได้หรือไม่ นายสันติ มั่นใจในพรรคพลังประชารัฐ ส่วนการแลนด์สไลด์ของพรรคอื่นที่พูดถึง เป็นแค่ความฝัน แค่คำพูด แต่สำคัญที่การกระทำ

เมื่อถามถึงกระแสพรรคที่ตกต่ำลง จะสามารถสู้ศึกในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้หรือไม่ นายสันติ ยืนยันว่า กระแสพรรคพลังประชารัฐไม่ได้ตกต่ำ แต่ต้องบอกว่า กระแสดีมาก ดูจากโพลเป็นกลางที่สำรวจความเห็นของประชาชน ซึ่งมั่นใจว่ากระแสของตัว พล.อ.ประยุทธ์ ที่ทำเพื่อประชาชน โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ยาวนานถึง 2 ปี สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ ด้วยการใช้งบประมาณดูแลประชาชน ทั้งการเยียวยา ดูแลรักษา จึงถือว่ามีความทุ่มในการทำงานมาก

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากนี้จะมีการปรับการทำงานด้านการประชาสัมพันธ์ของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีนวัตกรรมใหม่ที่เข้ามาเสริมการทำงานของทีมประชาสัมพันธ์พรรค แต่บุคลากรพรรคก็ทำงานได้ดีแล้ว และจากนี้จะนำผลงานของรัฐบาล และผลงานพรรค สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนมากขึ้น

ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค กล่าวว่า หลังจากนี้ คณะกรรมการชุดนี้ถือว่าถูกต้องตามกฎหมาย เป็นมติของที่ประชุมใหญ่ และต่อไปจะมีการจัดองค์ประกอบต่างๆ และช่วงใกล้การเลือกตั้งถึงจะมีการขับเคลื่อนการทำงาน ซึ่งยอมรับว่าบรรยากาศการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคในครั้งนี้ เป็นบรรยากาศที่ดี อบอุ่น ราบรื่น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านศรีสะเกษสุดช้ำ บ้านเรือนถูกกัมพูชายิงถล่มเหลือแต่ซาก

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับจากศูนย์อพยพเจอสภาพบ้านเหลือแต่ซาก หลังถูกลูกปืนใหญ่กัมพูชายิงถล่ม ขณะที่พบหัวจรวด BM-21 กลางทุ่งนา อีก 2 จุด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายเรียบร้อย ปลัดอำเภอน้ำยืน เน้นย้ำหากชาวบ้านพบหลุมลึก-ปากหลุมแคบ ให้รีบแจ้งทันที ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีกระสุนโจมตีของกัมพูชายิงตกใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย จากภาพจะเห็นว่ามีรถอีแต๋นคันหนึ่งวิ่งผ่านจุดที่กระสุนพุ่งตกลงมาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ นายกุลนที อายุ 45 ปี เดินทางกลับมาบ้าน หลังอพยพออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 สัปดาห์ ในช่วงเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่เห็นบ้าน นายกุลนทีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะบ้านเสียหายอย่างหนัก ทั้งโครงสร้างไม้และปูนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประตู หน้าต่าง กระจก และหลังคาถูกกระสุนถล่มจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม […]

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]