รวมไทยสร้างชาติ เปิดตัวบิ๊กเซอร์ไพร์ส มิ.ย.-ก.ค.

ม.กรุงเทพธนบุรี  31 มี.ค.- “เสกสกล” เผยรวมไทยสร้างชาติ เปิดตัวบิ๊กเซอร์ไพร์ส มิ.ย.-ก.ค. ย้ำจุดยืนหนุน “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นนายกฯ คนเดียวเท่านั้น เป็นพันธมิตรพปชร. มั่นใจนายกฯ ไม่วางมือ


นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ผู้ก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึง การประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคในวันนี้ ว่า เป็นการประชุมตามระเบียบที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดไว้ว่าจะต้องประชุมในรอบ 1 ปี และจะมีการปรับปรุงระเบียบและโครงสร้างพรรค เลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ตั้งกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคชุดใหม่ และรายงานงบดุล  ทั้งนี้ จากเดิมคิดว่าจะเปิดตัวบิ๊กเซอร์ไพร์ส แต่จากการหารือเห็นร่วมกันว่า อยากให้เตรียมกาทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน เพราะถ้าหากยังไม่เรียบร้อย ผู้ใหญ่ที่จะมาร่วมอุดมการณ์กับพรรคจะไม่สะดวกใจ หากพรรคยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งนับแต่วันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติถือว่าสมบูรณ์แล้ว ทั้งนี้ ตั้งใจว่าจะมีการประชุมเพื่อเปิดตัวบิ๊กเซอร์ไพร์ส ประมาณเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม โดยวันนี้มีการเปิดตัว น.ส.ชนากานต์ ชัยศรี อดีตมิสไทยแลนด์เวิล์ด ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. และนายปรพล อดิเรกสาร และนายปองพล อดิเรกสาร เป็นสมาชิกพรรค

“ยืนยันว่าไม่มีผู้ใหญ่คนไหนมาสั่งเบรก เป็นแนวคิดของผมเอง ที่เห็นว่าผู้หลักผู้ใหญ่ยังไม่ควรมาเปิดตัวในวันนี้ ขอทำพรรคให้เรียบร้อยสมบูรณ์ก่อน หลังจากนั้นจะเชิญผู้หลักผู้ใหญ่มาร่วมอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง แต่ยืนยันว่ามีการพูดคุยกันเรียบร้อยหมดแล้ว” นายเสกสกล กล่าว


เมื่อถามว่าที่จะมีการเปิดตัวเดือนกรกฎาคมช้าเกินไปหรือไม่ นายเสกสกล กล่าวว่า ไม่ช้า ตอนนี้รวมไทยสร้างชาติมีสาขาทั่วทุกภาค มีคนอยากเป็นสมาชิกพรรคอีกมากมาย ยืนยันว่าจะมีสมาชิกทั่วประเทศ เครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชน อดีตคนเสื้อแดงเยอะแยะ และยังมีเวลาหาสมาชิกอีกเยอะ การเมืองวันนี้ตนอยากให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยก่อน จึงยังไม่อยากให้การเปิดตัวหวือหวาอะไร สำหรับตนในฐานะผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี อยากให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทำงานจนครบ 4 ปี ไม่มีอะไรมากระทบกระทั่ง จนเป็นอุปสรรคในการทำงาน และเรามีมวลสมาชิกสนับสนุนทั่วประเทศ ถ้าตนขยับรับรองว่าสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติมีจำนวนมาก

“ขอย้ำว่าคนที่จะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคต้องมีจุดยืนชัดเจน 2 ข้อคือ 1.รักและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ถ้าใครคิดล้มล้างจาบจ้วงสถาบันไม่ต้องมา 2. ต้องประกาศจุดยืนชัดเจนว่าสนับสนุนพลเออกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ต่ออีก 1 สมัย และพร้อมจะผลักดันพลเอกประยุทธ์ ไม่ว่านายกฯ จะสังกัดพลังประชารัฐหรือไม่ ตนเคยพูดว่า ถ้าพลังประชารัฐ สนับสนุนพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ และต้องเสนอคนเดียวเท่านั้น รวมไทยสร้างชาติก็พร้อมที่จะสนับสนุนรวมกับพลังประชารัฐ” นายเสกสกล กล่าว

ทั้งนี้ หากนายกรัฐมนตรีไม่ลงเล่นการเมืองต่อ ก็จะสนับสนุนใครก็ตาม ที่มีจุดยืนปกป้องสถาบัน ใจซื่อมือสะอาด ไม่โกงชาติบ้านเมืองเหมือนอดีตผู้นำบางคน แต่ถึงอย่างไรตนมั่นใจว่าพลเอกประยุทธ์ ยังสู้ต่อ ยังอาสาทำงานให้ประเทศชาติบ้านเมืองต่อไป


ส่วนบิ๊กเนมที่จะมาร่วมงานกับพรรค มีชื่อนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ตามที่เป็นข่าวหรือไม่ นายเสกสกล กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปถามนายพีระพันธ์เอง ตนไม่อยากให้ไปเจาะจงรายชื่อใคร เพราะบางคนยังไม่ได้ออกจากสมาชิกพรรคเดิม จะผิดกฎหมายพรรคการเมืองได้ แต่ยืนยันว่ามีหลายคนที่เป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์จะมาร่วมงานกับเรา ส่วนหนึ่งเป็นชื่อตามที่มีข่าว เพราะมีการพูดคุยกันระดับหนึ่งแล้ว และขอยืนยันว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ใช่เป็นพรรคของกปปส.ตามที่เป็นข่าว และยืนยันว่าไม่มีสีเสื้อ แต่เป็นรวมไทยสร้างชาติเป็นสโลแกนที่นายกฯ อยากเห็นคนไทยทุกคนรวมพลังกันสร้างบ้านสร้างเมืองให้เกิดความมั่นคงเข้มแข็งต่อไป

เมื่อถามว่าถ้าพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ทั้งคู่ ในการเลือกตั้งจะตัดคะแนนกันหรือไม่ นายเสกสกล กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ที่ประชาชนจะตัดสิน ในทางการเมืองไม่มีการตัดคะแนนกันอยู่แล้ว  ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการสร้างความขัดแย้งระหว่างรวมไทยสร้างชาติกับพลังประชารัฐ และมีแต่จะเป็นพันธมิตรกัน

“ตนให้ความเคารพ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถ้าพลังประชารัฐสนับสนุนพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯต่อ รวมไทยสร้างชาติจะเป็นพรรคคู่ขนานที่จะหาสมาชิก ถ้าประชาชนไม่เลือกพลังประชารัฐก็มาเลือกรวมไทยสร้างชาติได้ ถือเป็นพันธมิตรกัน เพราะพร้อมที่จะเอาส.ส.ไปยกมือสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีร่วมกับพลังประชารัฐ” นายเสกสกล กล่าว

นายเสกสกล กล่าวว่า พรรคจะส่ง ส.ส.ครบ 400 เขต บัญชีรายชื่อครบ 100 คน ซึ่งในใจเราอยากเป็นพรรคใหญ่อยู่แล้ว และไม่แน่ประชาชนอาจจะรวมใจเป็นหนึ่งเดียวเลือกรวมไทยสร้างชาติ  เกิดแลนสไลด์ชนะถล่มทลายมากกว่าพรรคเพื่อไทยก็ได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]