พรรคกล้าเปิดทีม ส.ก.-นโยบายยกระดับ กทม.

พรรคกล้า 30 มี.ค.-พรรคกล้าเปิดตัวทีมผู้สมัคร ส.ก. ชู 10 นโยบาย ยกระดับ กทม. เป็น “เมืองสู้วิกฤติ มหานครแห่งโอกาส” แซว “พล.ต.อ.อัศวิน” ใช้สีป้ายเหมือนสีพรรคกล้าเพราะชอบหรือไม่


พรรคกล้าโดยนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค เปิดตัวผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก.) 12 คน ในคอนเซ็ปต์ “ผูกพันใส่ใจ แก้ไขปากท้อง” พร้อมสมัครรับเลือกตั้งวันพรุ่งนี้(31มี.ค.)

นายกรณ์ กล่าวว่า จุดแข็งของพรรคกล้าคือประสบการณ์ คุณสมบัติและความตั้งใจของผู้สมัคร แม้ส่งไม่ครบ 50 เขต แต่เลือกผู้สมัครที่พิสูจน์ตัวเองมาแล้วจริงจัง ในการทำงานช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เห็นว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.เก่งหลายคน แต่ส่วนใหญ่มีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเป็นหลัก แต่ประเด็นความเดือดร้อนที่ผ่านมาจากวิกฤติโควิด คือวิกฤติเศรษฐกิจ ยังไม่มี ซึ่งความตั้งใจของพรรคกล้าตามที่รองหัวหน้าพรรค วรวุฒิ อุ่นใจนำเสนอไปเป็นตัวอย่าง เสริมเติมให้เต็มในแง่มุมของมิติปากท้อง เศรษฐกิจ ซึ่งเป็นจุดแข็งของพรรคกล้า


หัวหน้าพรรคกล้ากล่าวว่า ผู้สมัครของพรรคกล้าทั้ง 12 คน เป็นผู้สมัครที่เกาะติดพื้นที่ ส่วนใหญ่มีประสบการณ์ เป็นประธานสภาเขต อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนมานาน โดยเฉพาะช่วงการระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 ว่าที่ผู้สมัครทั้ง 12 คน ทำงานอาสา ช่วยเหลือทั้งช่วยหาเตียง ฉีดพ่นฆ่าเชื้อ เป็นอาสาสมัครส่งยาให้ถึงบ้าน ดูแลทุกอย่างที่ประชาชนเดือดร้อนตลอด 2 ปีที่ผ่านมา พร้อมกับการก่อตั้งพรรคกล้า เรียกได้ว่าเป็นตัวจริงในพื้นที่

ส่วนกรณีที่ป้ายหาเสียงของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. มีสีคล้ายกับพรรคกล้า นายกรณ์ กล่าวว่า พล.ต.อ.อัศวิน มีผลงานจับต้องอยู่ไม่น้อย แต่เราไม่ได้ส่งผู้ว่าฯ การที่ผู้ว่าฯ ใช้โทนสีพรรคกล้าอาจเป็นเพราะผู้ว่าฯ ชื่นชมแนวทางพรรค ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องไปถามพล.ต.อ.อัศวินเอง ส่วนพรรคกล้าและผู้สมัคร ยืนยันว่านโยบายทั้ง 10 ข้อ และความตั้งใจเข้าไปปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน การใช้งบประมาณของกรุงเทพมหานคร เป็นความตั้งใจที่เรามีความพร้อมผลักดันและให้ความร่วมมือกับผู้สมัครทุกคน ที่ชาวกรุงเทพตัดสินใจว่าจะเลือกเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ เรายืนหยัดในสิ่งที่เราอยากจะทำ และพร้อมพร้อมทำงานกับใครก็ได้ที่ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ

เมื่อถามย้ำว่าการที่ผู้ว่าฯ กับส.ก.ไม่ได้มาจากพรรคเดียว จะทำให้การทำงานจะสะดุดหรือไม่ หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า ความชัดเจนของพรรคและผู้สมัครของพรรค เข้าไปเพื่อผลักดันเรื่องอะไร มันเป็นความเชื่อมั่น ที่พี่น้องประชาชนที่เลือกเรา ถ้าเชื่อในตัวผู้สมัครกับพรรค และเห็นตรงกับเรา ว่าชาวกรุงเทพควรมีสวัสดิการและการดูแลด้านต่างๆ 10 ด้าน เราเข้าไปจะเป็นพลังขับเคลื่อนดูแลนอกเหนือจากตัวเลือกผู้ว่า ที่เขาเลือกไปแล้ว และกรณีที่ผู้ว่าฯที่ได้รับเลือก ไม่ได้เป็นผู้ว่าที่ประชาชนอาจจะเลือกเข้าไป อย่างน้อยจะมีความมั่นใจว่า ส.ก. ที่เขามีอยู่ในมือ 12 คนจากพรรคกล้า จะเข้าไปผลักดันในเรื่องที่เกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของเขาให้เขาต่อไป


“ขอฝากอีกครั้ง พี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพ ที่เตรียมตัวจะออกไปเลือกผู้ว่าฯ ขอฝากไว้ว่า ส.ก. มีความสำคัญ อย่างมากในการดูแลคุณภาพชีวิตของพี่น้องชาวกรุงเทพ เลือก ส.ก. ที่มีความผูกพันกับพื้นที่ เลือก ส.ก. ที่มีประสบการณ์และมีความชัดเจนในประเด็นนโยบายที่จะเข้าไปผลักดันใน กทม. เป็นเรื่องที่มีความสำคัญไม่แพ้กับการเลือกผู้ว่าฯ ขอให้สนับสนุนผู้สมัคร 12 คนของพรรคกล้าที่เราคัดมาให้ท่าน เป็น ส.ก. ในเขตของท่านต่อไป” นายกรณ์ กล่าว

ด้านนายอรรถวิชช์ กล่าวว่า งบประมาณกรุงเทพมหานครราวปีละ 80,000 ล้านบาท โดยการจัดเก็บของกรุงเทพมหานครเอง สิ่งเหล่านี้จะถูกผลักดันภายใต้คอนเซ็ปต์ “ยกระดับกรุงเทพมหานคร เป็นเมืองสู้วิกฤต เป็นมหานครแห่งโอกาส” ผ่าน 10 นโยบาย ที่ ส.ก. จะต้องผลักดัน คือ 1. “กล้าปลดหนี้” โดยสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร นอกจากจะอำนวยเรื่องสถานที่ให้พ่อค้าแม่ค้าแล้ว อยากให้เข้าไปดูแลเกี่ยวกับแหล่งเงินทุน ไม่ให้พ่อค้าแม่ค้าถูกเอารัดเอาเปรียบจากหนี้นอกระบบ มีช่องทางแนะนำไฟแนนซ์ นำหนี้กลับเข้ามาอยู่ในระบบ 2. “กรุงเทพเน็ตฟรี” การเรียนการสอน การขายออนไลน์ สะดวกรวดเร็ว เข้าถึงได้ง่าย 3. “Bangkok Friendly Design”  เด็ก คนพิการ คนชรา เที่ยวสะดวก คนต่างชาติเข้าใจง่าย ดีไซน์ต่าง ๆ ของเมืองหลวงต้องเหมาะกับคนทุกกลุ่ม

เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวว่า 4. “ชุมชนเข้มแข็ง” ให้อาสาคณะกรรมการชุมชนมีรายได้ประจำ งบประมาณโครงการพัฒนาชุมชนเป็นรายปี 5. “รถไฟฟ้า 30 บาท รถเมล์ EV” ทั้งระบบ ช่วยลดค่าครองชีพคนเมือง ด้วยการเข้าไปอุดหนุนส่วนต่างให้รถไฟฟ้าราคา 30 บาท รวมถึงการปรับระบบรถเมล์ให้ใช้ไฟฟ้าทั้งระบบ 6. “สำนักงานเขต Online” ปรับปรุงระบบราชการเป็นแบบ One Click Government ให้การติดต่อ ร้องเรียน ขอใบอนุญาตต่าง ๆ ผ่านระบบออนไลน์ได้ 7. “กล้องพร้อม ไฟพร้อม” ในพื้นที่ที่เป็นเอกชนก็ต้องติดตั้งได้ หากมีการร้องขอจากประชาชน มีระบบจดจำใบหน้า Face Recognition

“8. “น้ำท่วมระบายใน 30 นาที” ให้สำเร็จตามแผนพัฒนา กทม. 20 ปี แก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะ 14 จุดเสี่ยงน้ำท่วมประจำ ควบคุมการระบายน้ำด้วย AI ผันน้ำอย่างเป็นระบบ ลงแหล่งเก็บน้ำใต้ดิน รองรับน้ำรอระบายสู่ทะเล 9. “ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ” สร้างเถ้าแก่ยุคใหม่ ใครจะคิดอยากเริ่มทำธุรกิจ การขออนุญาต เทคนิคธุรกิจต่าง ๆ ศูนย์นี้จะทำหน้าที่เป็นตัวช่วยให้ธุรกิจเริ่มต้นได้ 10. “หมอ Delivery” โรงพยาบาลในสังกัด กทม.ทั้ง 11 แห่ง มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ศูนย์อนามัยทั้ง 50 เขต สามารถรักษาได้ 24 ชั่วโมง ด้วยการวินิจฉัยออนไลน์ ส่งยาได้ภายใน 24 ชั่วโมง รองรับวิกฤตโรคระบาด” นายอรรถวิชช์ กล่าว

เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวว่า นโยบายเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ ส.ก. พรรคกล้า จะเดินหน้าทำให้เกิดขึ้นจริง ซึ่งบางอย่างก็ได้ลงมือทำไปแล้วหลายพื้นที่ และพร้อมยกมือผ่านงบประมาณให้กับโครงการ ที่สอดคล้องกับนโยบาย ย้ำว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ของ กทม.​ ต้องถูกใช้อย่างคุ้มค่า ไม่เป็นเบี้ยหัวแตกอีกต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ ภายหลัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เข้าร่วมสอบปากคำ พระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ และ หมอบี ล่าสุด มีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต ยินยอมจะขอลาสิกขาจากเพศบรรพชิตแล้ว เพื่อนำเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยอดีตพระอลงกต ถูกจับกุมเมื่อช่วงตี 1 ที่ผ่านมา ตามหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ในข้อหายักยอกเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และฟอกเงิน.-สำนักข่าวไทย

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]

คุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง

สระแก้ว 26 ส.ค.- ฝ่ายความมั่นคงคุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานประกาศปิด 2 วัน (26-27 ส.ค.) เพื่อความปลอดภัย สถานการณ์บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งอยู่ติดแนวชายแดนกัมพูชา และเกิดเหตุการณ์ตึงเครียดเมื่อวานนี้ ล่าสุดสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานได้ประกาศปิดเรียน 2 วัน ในวันที่ 26-27 สิงหาคมนี้ เพื่อความปลอดภัย ด้านฝ่ายความมั่นคงเข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดำเนินมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยและปฏิบัติการตามขั้นตอน เพื่อยืนยันการรักษาอธิปไตยของไทย และความปลอดภัยของประชาชน ขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุในช่วงนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยง ขณะที่ทางฝั่งกัมพูชายังคงมีชาวบ้านนอนเฝ้าอยู่บริเวณรั้วตลอดทั้งคืน แต่ยังไม่มีการก่อความวุ่นวายใดๆ