พรรคกล้าเปิดทีม ส.ก.-นโยบายยกระดับ กทม.

พรรคกล้า 30 มี.ค.-พรรคกล้าเปิดตัวทีมผู้สมัคร ส.ก. ชู 10 นโยบาย ยกระดับ กทม. เป็น “เมืองสู้วิกฤติ มหานครแห่งโอกาส” แซว “พล.ต.อ.อัศวิน” ใช้สีป้ายเหมือนสีพรรคกล้าเพราะชอบหรือไม่


พรรคกล้าโดยนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค เปิดตัวผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก.) 12 คน ในคอนเซ็ปต์ “ผูกพันใส่ใจ แก้ไขปากท้อง” พร้อมสมัครรับเลือกตั้งวันพรุ่งนี้(31มี.ค.)

นายกรณ์ กล่าวว่า จุดแข็งของพรรคกล้าคือประสบการณ์ คุณสมบัติและความตั้งใจของผู้สมัคร แม้ส่งไม่ครบ 50 เขต แต่เลือกผู้สมัครที่พิสูจน์ตัวเองมาแล้วจริงจัง ในการทำงานช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เห็นว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.เก่งหลายคน แต่ส่วนใหญ่มีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเป็นหลัก แต่ประเด็นความเดือดร้อนที่ผ่านมาจากวิกฤติโควิด คือวิกฤติเศรษฐกิจ ยังไม่มี ซึ่งความตั้งใจของพรรคกล้าตามที่รองหัวหน้าพรรค วรวุฒิ อุ่นใจนำเสนอไปเป็นตัวอย่าง เสริมเติมให้เต็มในแง่มุมของมิติปากท้อง เศรษฐกิจ ซึ่งเป็นจุดแข็งของพรรคกล้า


หัวหน้าพรรคกล้ากล่าวว่า ผู้สมัครของพรรคกล้าทั้ง 12 คน เป็นผู้สมัครที่เกาะติดพื้นที่ ส่วนใหญ่มีประสบการณ์ เป็นประธานสภาเขต อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนมานาน โดยเฉพาะช่วงการระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 ว่าที่ผู้สมัครทั้ง 12 คน ทำงานอาสา ช่วยเหลือทั้งช่วยหาเตียง ฉีดพ่นฆ่าเชื้อ เป็นอาสาสมัครส่งยาให้ถึงบ้าน ดูแลทุกอย่างที่ประชาชนเดือดร้อนตลอด 2 ปีที่ผ่านมา พร้อมกับการก่อตั้งพรรคกล้า เรียกได้ว่าเป็นตัวจริงในพื้นที่

ส่วนกรณีที่ป้ายหาเสียงของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. มีสีคล้ายกับพรรคกล้า นายกรณ์ กล่าวว่า พล.ต.อ.อัศวิน มีผลงานจับต้องอยู่ไม่น้อย แต่เราไม่ได้ส่งผู้ว่าฯ การที่ผู้ว่าฯ ใช้โทนสีพรรคกล้าอาจเป็นเพราะผู้ว่าฯ ชื่นชมแนวทางพรรค ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องไปถามพล.ต.อ.อัศวินเอง ส่วนพรรคกล้าและผู้สมัคร ยืนยันว่านโยบายทั้ง 10 ข้อ และความตั้งใจเข้าไปปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน การใช้งบประมาณของกรุงเทพมหานคร เป็นความตั้งใจที่เรามีความพร้อมผลักดันและให้ความร่วมมือกับผู้สมัครทุกคน ที่ชาวกรุงเทพตัดสินใจว่าจะเลือกเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ เรายืนหยัดในสิ่งที่เราอยากจะทำ และพร้อมพร้อมทำงานกับใครก็ได้ที่ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ

เมื่อถามย้ำว่าการที่ผู้ว่าฯ กับส.ก.ไม่ได้มาจากพรรคเดียว จะทำให้การทำงานจะสะดุดหรือไม่ หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า ความชัดเจนของพรรคและผู้สมัครของพรรค เข้าไปเพื่อผลักดันเรื่องอะไร มันเป็นความเชื่อมั่น ที่พี่น้องประชาชนที่เลือกเรา ถ้าเชื่อในตัวผู้สมัครกับพรรค และเห็นตรงกับเรา ว่าชาวกรุงเทพควรมีสวัสดิการและการดูแลด้านต่างๆ 10 ด้าน เราเข้าไปจะเป็นพลังขับเคลื่อนดูแลนอกเหนือจากตัวเลือกผู้ว่า ที่เขาเลือกไปแล้ว และกรณีที่ผู้ว่าฯที่ได้รับเลือก ไม่ได้เป็นผู้ว่าที่ประชาชนอาจจะเลือกเข้าไป อย่างน้อยจะมีความมั่นใจว่า ส.ก. ที่เขามีอยู่ในมือ 12 คนจากพรรคกล้า จะเข้าไปผลักดันในเรื่องที่เกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของเขาให้เขาต่อไป


“ขอฝากอีกครั้ง พี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพ ที่เตรียมตัวจะออกไปเลือกผู้ว่าฯ ขอฝากไว้ว่า ส.ก. มีความสำคัญ อย่างมากในการดูแลคุณภาพชีวิตของพี่น้องชาวกรุงเทพ เลือก ส.ก. ที่มีความผูกพันกับพื้นที่ เลือก ส.ก. ที่มีประสบการณ์และมีความชัดเจนในประเด็นนโยบายที่จะเข้าไปผลักดันใน กทม. เป็นเรื่องที่มีความสำคัญไม่แพ้กับการเลือกผู้ว่าฯ ขอให้สนับสนุนผู้สมัคร 12 คนของพรรคกล้าที่เราคัดมาให้ท่าน เป็น ส.ก. ในเขตของท่านต่อไป” นายกรณ์ กล่าว

ด้านนายอรรถวิชช์ กล่าวว่า งบประมาณกรุงเทพมหานครราวปีละ 80,000 ล้านบาท โดยการจัดเก็บของกรุงเทพมหานครเอง สิ่งเหล่านี้จะถูกผลักดันภายใต้คอนเซ็ปต์ “ยกระดับกรุงเทพมหานคร เป็นเมืองสู้วิกฤต เป็นมหานครแห่งโอกาส” ผ่าน 10 นโยบาย ที่ ส.ก. จะต้องผลักดัน คือ 1. “กล้าปลดหนี้” โดยสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร นอกจากจะอำนวยเรื่องสถานที่ให้พ่อค้าแม่ค้าแล้ว อยากให้เข้าไปดูแลเกี่ยวกับแหล่งเงินทุน ไม่ให้พ่อค้าแม่ค้าถูกเอารัดเอาเปรียบจากหนี้นอกระบบ มีช่องทางแนะนำไฟแนนซ์ นำหนี้กลับเข้ามาอยู่ในระบบ 2. “กรุงเทพเน็ตฟรี” การเรียนการสอน การขายออนไลน์ สะดวกรวดเร็ว เข้าถึงได้ง่าย 3. “Bangkok Friendly Design”  เด็ก คนพิการ คนชรา เที่ยวสะดวก คนต่างชาติเข้าใจง่าย ดีไซน์ต่าง ๆ ของเมืองหลวงต้องเหมาะกับคนทุกกลุ่ม

เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวว่า 4. “ชุมชนเข้มแข็ง” ให้อาสาคณะกรรมการชุมชนมีรายได้ประจำ งบประมาณโครงการพัฒนาชุมชนเป็นรายปี 5. “รถไฟฟ้า 30 บาท รถเมล์ EV” ทั้งระบบ ช่วยลดค่าครองชีพคนเมือง ด้วยการเข้าไปอุดหนุนส่วนต่างให้รถไฟฟ้าราคา 30 บาท รวมถึงการปรับระบบรถเมล์ให้ใช้ไฟฟ้าทั้งระบบ 6. “สำนักงานเขต Online” ปรับปรุงระบบราชการเป็นแบบ One Click Government ให้การติดต่อ ร้องเรียน ขอใบอนุญาตต่าง ๆ ผ่านระบบออนไลน์ได้ 7. “กล้องพร้อม ไฟพร้อม” ในพื้นที่ที่เป็นเอกชนก็ต้องติดตั้งได้ หากมีการร้องขอจากประชาชน มีระบบจดจำใบหน้า Face Recognition

“8. “น้ำท่วมระบายใน 30 นาที” ให้สำเร็จตามแผนพัฒนา กทม. 20 ปี แก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะ 14 จุดเสี่ยงน้ำท่วมประจำ ควบคุมการระบายน้ำด้วย AI ผันน้ำอย่างเป็นระบบ ลงแหล่งเก็บน้ำใต้ดิน รองรับน้ำรอระบายสู่ทะเล 9. “ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ” สร้างเถ้าแก่ยุคใหม่ ใครจะคิดอยากเริ่มทำธุรกิจ การขออนุญาต เทคนิคธุรกิจต่าง ๆ ศูนย์นี้จะทำหน้าที่เป็นตัวช่วยให้ธุรกิจเริ่มต้นได้ 10. “หมอ Delivery” โรงพยาบาลในสังกัด กทม.ทั้ง 11 แห่ง มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ศูนย์อนามัยทั้ง 50 เขต สามารถรักษาได้ 24 ชั่วโมง ด้วยการวินิจฉัยออนไลน์ ส่งยาได้ภายใน 24 ชั่วโมง รองรับวิกฤตโรคระบาด” นายอรรถวิชช์ กล่าว

เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวว่า นโยบายเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ ส.ก. พรรคกล้า จะเดินหน้าทำให้เกิดขึ้นจริง ซึ่งบางอย่างก็ได้ลงมือทำไปแล้วหลายพื้นที่ และพร้อมยกมือผ่านงบประมาณให้กับโครงการ ที่สอดคล้องกับนโยบาย ย้ำว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ของ กทม.​ ต้องถูกใช้อย่างคุ้มค่า ไม่เป็นเบี้ยหัวแตกอีกต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอด “ภูมะเขือ” กองทัพยึดคืนพื้นที่เบ็ดเสร็จ

26 ก.ค.- ธงชาติไทยโบกสะบัด! ปักยอด “ภูมะเขือ” หลังทหารไทยเปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่คืนจากฝ่ายกัมพูชาสำเร็จช่วงเย็นวานนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ว่า เมื่อเวลา 09.20 น. ได้มีการเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดภูมะเขือ หลังจากที่ทหารไทยได้เปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่ภูมะเขือ ซึ่งเป็นบริเวณที่ฝ่ายทหารกัมพูชาได้วางกำลังไว้อย่างหนาแน่น และสามารถยึดพื้นที่ได้สำเร็จเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความพยายามจากฝ่ายกัมพูชาในการเข้าตีเพื่อแย่งยึดพื้นที่คืนอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการระดมยิงปืนใหญ่และเตรียมการจัดกำลังเข้าตีตอบโต้ฝ่ายไทย -สำนักข่าวไทย

นาวิกโยธินคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ตอบโต้ทหารกัมพูชาหนีกระเจิง

26 ก.ค.- เหตุปะทะชายแดนตราด ทหารนาวิกโยธิน ตอบโต้ทหารกัมพูชาหนีกระเจิง ถอยร่นออกจากพื้นที่อธิปไตยไทย ส่วนประชาชนอพยพไปที่ปลอดภัย เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 26 ก.ค.69 รายงานข่าวจากหน่วยความมั่นคงจังหวัดตราด เปิดเผยว่าถึงสถานการณ์ บริเวณบ้านชำราก จ.ตราด ทหารกัมพูชา ได้วางกำลังรุกล้ำเขตแดนไทย 3 จุดเปิดฉากยิงทหารไทย เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยกำลังทหารนาวิกโยธิน ได้เปิดยุทธการ “ตราดพิฆาตไพรี1” จนสามารถควบคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด ผลักดันกำลังทหารกัมพูชา ออกนอกพื้นที่ ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนประชาชนพื้นที่ อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ได้อพยพไปพื้นที่ปลอดภัย ในอำเภอเมืองตราด ประมาณ 75 เปอร์เซนต์เมื่อวันที่ 24-25 ก.ค.68 -สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง

กทม. 26 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง เตือน 7 จังหวัดรับมือ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก บึงกาฬ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “ก๋อมัย” บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย.- สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]