ไทยสร้างไทย เปิดตัว “ศิธา” พร้อมทีม สก.

โกดังสเตเดี้ยมคลองเตย 30 มี.ค.- ไทยสร้างไทย เปิดตัว “น.ต.ศิธา ทิวารี” ชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมทีมผู้สมัคร ส.ก. 50 เขต ชูนโยบาย 3P ยกระดับกรุงเทพฯ เป็นมหานครโลก ด้าน “คุณหญิงสุดารัตน์” ลั่นขอโอกาสทำกรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งความสุข ประกาศนโยบายดูแลประชาชนตั้งแต่เด็กจนแก่ เลือก ผู้ว่าฯ สร้างไทยได้ “สุดารัตน์” ช่วยทำงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคไทยสร้างไทย เปิดตัวนาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี เป็นว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคไทยสร้างไทย พร้อมว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) ทั้ง50เขต โดยมีตัวแทนประชาชนหลากหลายเขตในพื้นที่กรุงเทพมหานครเข้าร่วมงานจำนวนมาก ทั้งนี้ ก่อนเข้าร่วมงานทุกคนต้องผ่านการคัดกรองโคงิด-19 ด้วยการตรวจ ATK หรือแสดงผลตรวจกับเจ้าหน้าที่ วัดอุณหภูมิ ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข


คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยจะเป็นพรรคของประชาชน ไม่เป็นที่เหยียบยืนของเผด็จการ โดยพรรคพร้อมรับฟังความเห็นต่าง ยุติความขัดแย้ง มุ่งสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งกรุงเทพมหานคร จะต้องเป็นบ้านที่มีความสุข เป็นเมืองแห่งโอกาสที่สร้างรายได้ สร้างโอกาสให้ทุกคนเท่าเทียมโดยเฉพาะคนตัวเล็กตัวน้อย ดังนี้พรรคไทยสร้างไทย มีความตั้งใจจะปลดปล่อยประชาชนออกจากข้าราชการที่กดทับ เพื่อให้ประชาชนสามารถทำมาหากินได้เร็วที่สุด โดยจะออก พ.ร.บ.ปลดล็อกกดระเบียบต่างๆที่เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากิน ภายใน 3 สัปดาห์ และให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยดอกเบี้ย ร้อยละ0.5 พร้อมชูนโยบายดูแลประชาชนตั้งแต่เด็กจนแก่ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลาเวลาเรียนรู้ เรียนฟรีจนจบปริญญาตรี รวมถึงจะทำบำนาญประชาชน เพื่อให้ผู้สูงวัยที่ทำงานตลอดชีวิตได้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรีได้เงินเดือนละ 3000 บาท

“ไม่ต้องกลัวว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ เพราะยากกว่านี้ นโยบาย30 บาทรักษาทุกโรคก็ทำสำเร็จมาแล้วภายใน 4 ปี” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว


คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า ที่เราต้องส่งผู้ว่าฯกทม และ ส.ก.ทั้ง 50 เขต เพราะเรารู้ว่าอำนาจไม่ได้อยู่ที่ผู้ว่าฯกทม.เพียงคนเดียว ต้องมีทีมงานที่เข้มแข็ง รวมถึง พรรคไทยสร้างไทย ต้องมี ส.ส.ในสภา เพื่อเป็นแบล็คให้กับผู้ว่าฯกทม . และ ทีม ส.ก.  ซึ่ง ผู้ว่าฯกทม. ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถรู้มันหาของ กทม. ตนในฐานะที่ทำงานรับใช้ประชาชน กทม.มายาวนาน รู้ทุกซอกทุกซอย จึงขอสัญญาจะนำปัญหาของคน กทม.มาแบกไว้บนบ่า เพื่อแก้ไขปัญหาให้ได้ พรรคไทยสร้างไทยตั้งใจจะหาคนที่ดีที่สุด และมีDNAของพรรคมารับใช้ประชาชนชาว กทม. นั่นก็คือ น.ต.ศิธา ทิวารี

“เลือกผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม.และ ผู้สมัคร ส.ก.ทั้ง50 เขต ของพรรคไทยสร้างไทย ได้ สุดารัตน์ เข้าไปช่วยทำงาน ตนลงเองไม่ได้จึงส่งคนที่ไว้วางใจว่าจะแก้ไขปัญหา ทำให้กรุงเทพฯเป็นเมืองแห่งความสุข”คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

ด้านน.ต.ศิธา ทิวารี ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ตนอาสาที่จะสมัครรับลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และวันนี้ถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยตัวเองนั้นได้เข้ามาทำงานการเมืองตั้งแต่ปี 2543 ในเขตคลองเตย และวันนี้ก็ยังคงสำนึกในความเมตตาของชาวคลองเตยทุกคน และใครที่ถามว่าตนจะไปสู้กับผู้สมัครคนอื่นที่ลงพื้นที่มานานแล้วนั้นได้อย่างไร ขอยืนยันว่าตนทำงานอยู่กับพี่น้องประชาชนมา 22 ปีแล้ว แต่เพียงแค่ไม่ได้ประชาสัมพันธ์ตนเอง และงานที่ตนเคยทำในอดีตมีความเกี่ยวพันกับกรุงเทพมหานคร


 ทั้งนี้ นโยบายหลักที่ ผู้ว่าฯ กทม. ผ่านมา รวมถึงผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ทุกคน ต่างพูดเหมือนกัน ดังนั้นสิ่งที่ต่างอยู่ที่การมองปัญหาของ กทม. ว่าจะมองอย่างไร ซึ่งเมื่อมองดู “กรุงเทพมหานคร” นั้น เปรียบเสมือน “ประเทศไทยย่อส่วน” ที่การจัดวางสำนัก กรม กอง ไม่ต่างกับ กระทรวง ทบวง กรม ของรัฐบาลกลาง ตนจึงมีแนวทางในการแก้ปัญหาของกรุงเทพ แบ่งออกเป้น 3 กลุ่ม คือ 3P “People Profit Planet” เพื่อที่จะยกระดับกรุงเทพ ให้เป็น “มหานครของโลก ที่คนทั่วโลกยอมรับ” ให้ได้ 1.People – สร้างเมืองแห่งโอกาสให้ชาวกรุงเทพ เพราะที่ผ่านมา คนกรุงเทพไม่เคยมีอำนาจในการตัดสินใจพื้นที่ของตนเองเลย ตนจะเป็นผู้ว่าคนแรกที่ให้อำนาจคนกรุงเทพมาร่วมบริหารและตรวจสอบงบประมาณ กทม. ด้วยสภาชุมชน และต้องกำจัดคอรัปชั่น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ กทม.ด้วยระบบกระจายอำนาจการตรวจสอบ และที่สำคัญที่สุด ผมจะลงทุนกับการสร้างคนมากที่สุด ตั้งแต่ที่มีผู้ว่า กทม. มา ทุกพรรคการเมือง ผู้ว่า กทม. ทุกคน เสนอว่า “ต้องการความเป็นเลิศทางการศึกษา” ซึ่งตนมองว่ามันไม่ใช่ เพราะจะสร้างความเหลื่อมล้ำ ทิ้งเด็ก กทม. จำนวนมากให้อยู่ข้างหลัง โดยเริ่มแรกตนจะทำโรงเรียนสังกัด กทม. ให้มี “มาตรฐาน” ทัดเทียมกันเสียก่อน โดย “ความเป็นเลิศทางการศึกษา” ต้องไปพร้อมๆกันทุกโรงเรียน

2.Profit – สร้างมหานครแห่งความมั่งคั่ง เพื่อ Take off กรุงเทพ โดยจะนำร่องกองทุนเครดิตประชาชน ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคไทยสร้างไทย เพื่อล้างหนี้นอกระบบ ให้ทุกคนตั้งตัวได้ ประชาชน “คนตัวเล็ก” ไม่ต้องกู้หนี้นอกระบบในอัตราดอกเบี้ยแสนโหด จากร้อยละ 20 ต่อเดือน ให้สามารถกู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน ร้อยละ 1 ต่อเดือน สร้างเมืองหลวง Street Food ของโลก อาหารสะอาด รสชาติอร่อย สร้างที่ค้าขาย ทุกเขตทั่ว กทม. ได้ 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งแก้ปัญหาส่วยหาบเร่แผงลอย ด้วย DAO และกลไกสภาชุมชน แก้ปัญหาเทศกิจจากเดิมที่ทำตัวเป็น  Inspector ต้องเปลี่ยนเป็น facilitator

3.Planet – สร้างคุณภาพชีวิตคนกรุงเทพอย่างยั่งยืน โดยการลดมลพิษ ลดฝุ่น PM2.5 ด้วยการห้ามรถที่ปล่อยควันเสียวิ่งใน กทม. ควบคุมการก่อสร้าง เร่งปลูกต้นไม้ พร้อมทั้งผลักดันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดย กทม.สนับสนุนการตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าในทุกเขต ตุ๊กๆ มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า รวมถึงจะสร้างเมืองสุขภาพดี เพิ่มสถานที่ออกกำลังกายตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ แจกสายรัดข้อมืออัจฉริยะ ส่งเสริมคน กทม.ให้ออกกำลังกาย

ผู้สื่อรายงานว่า หลังการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. และผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ พร้อม น.ต.ศิธา จะลงพื้นที่เขตคลองเตยทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]

คุมฝากขัง “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ค้านประกัน

27 ส.ค. – ตร.คุมตัว “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ส่งฝากขังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พร้อมคัดค้านการประกันตัว เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้ควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ และนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ออกจากห้องคุมขัง ที่อาคารศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อไปฝากขังที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เจ้าหน้าที่ได้แยกควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ สวมเสื้อยืดสีน้ำตาลและกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลเข้ม ก่อนนำผ้าเช็ดตัวสีส้มมาห่มคลุมร่างกาย ขึ้นรถยนต์ตำรวจ ทันทีที่ออกมาทางอดีตพระอลงกตได้ยกมือซ้ายขึ้นมา ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามแต่ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ก่อนขึ้นนั่งบนรถ โดยมีศิษยานุศิษย์ประคองด้านข้าง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ารู้สึกกังวลใจหรือมีอะไรอยากจะชี้แจงหรือไม่ พร้อมกับถามถึงความรู้สึกหลังจากที่ลาสิกขาแล้ว แต่อดีตพระอลงกต ได้แต่ยิ้มแย้มและยกมือปฏิเสธ ไม่ตอบคำถามใดๆ จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อว่า “ไปศาลใช่หรือไม่” อดีตพระอลงกต ตอบสั้นๆ ว่า “ไปศาล” ส่วนนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ได้แยกควบคุมตัวขึ้นรถกระบะของกองบังคับการปราบปราม โดยหมอบี ยังสวมใส่ชุดเดิม คือเสื้อแขนสั้นสีครีม และกางเกงขายาวสีน้ำตาล เจ้าตัวไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้น.-419-สำนักข่าวไทย

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]