ไทยสร้างไทย เปิดตัว “ศิธา” พร้อมทีม สก.

โกดังสเตเดี้ยมคลองเตย 30 มี.ค.- ไทยสร้างไทย เปิดตัว “น.ต.ศิธา ทิวารี” ชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมทีมผู้สมัคร ส.ก. 50 เขต ชูนโยบาย 3P ยกระดับกรุงเทพฯ เป็นมหานครโลก ด้าน “คุณหญิงสุดารัตน์” ลั่นขอโอกาสทำกรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งความสุข ประกาศนโยบายดูแลประชาชนตั้งแต่เด็กจนแก่ เลือก ผู้ว่าฯ สร้างไทยได้ “สุดารัตน์” ช่วยทำงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคไทยสร้างไทย เปิดตัวนาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี เป็นว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคไทยสร้างไทย พร้อมว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) ทั้ง50เขต โดยมีตัวแทนประชาชนหลากหลายเขตในพื้นที่กรุงเทพมหานครเข้าร่วมงานจำนวนมาก ทั้งนี้ ก่อนเข้าร่วมงานทุกคนต้องผ่านการคัดกรองโคงิด-19 ด้วยการตรวจ ATK หรือแสดงผลตรวจกับเจ้าหน้าที่ วัดอุณหภูมิ ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข


คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยจะเป็นพรรคของประชาชน ไม่เป็นที่เหยียบยืนของเผด็จการ โดยพรรคพร้อมรับฟังความเห็นต่าง ยุติความขัดแย้ง มุ่งสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งกรุงเทพมหานคร จะต้องเป็นบ้านที่มีความสุข เป็นเมืองแห่งโอกาสที่สร้างรายได้ สร้างโอกาสให้ทุกคนเท่าเทียมโดยเฉพาะคนตัวเล็กตัวน้อย ดังนี้พรรคไทยสร้างไทย มีความตั้งใจจะปลดปล่อยประชาชนออกจากข้าราชการที่กดทับ เพื่อให้ประชาชนสามารถทำมาหากินได้เร็วที่สุด โดยจะออก พ.ร.บ.ปลดล็อกกดระเบียบต่างๆที่เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากิน ภายใน 3 สัปดาห์ และให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยดอกเบี้ย ร้อยละ0.5 พร้อมชูนโยบายดูแลประชาชนตั้งแต่เด็กจนแก่ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลาเวลาเรียนรู้ เรียนฟรีจนจบปริญญาตรี รวมถึงจะทำบำนาญประชาชน เพื่อให้ผู้สูงวัยที่ทำงานตลอดชีวิตได้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรีได้เงินเดือนละ 3000 บาท

“ไม่ต้องกลัวว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ เพราะยากกว่านี้ นโยบาย30 บาทรักษาทุกโรคก็ทำสำเร็จมาแล้วภายใน 4 ปี” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว


คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า ที่เราต้องส่งผู้ว่าฯกทม และ ส.ก.ทั้ง 50 เขต เพราะเรารู้ว่าอำนาจไม่ได้อยู่ที่ผู้ว่าฯกทม.เพียงคนเดียว ต้องมีทีมงานที่เข้มแข็ง รวมถึง พรรคไทยสร้างไทย ต้องมี ส.ส.ในสภา เพื่อเป็นแบล็คให้กับผู้ว่าฯกทม . และ ทีม ส.ก.  ซึ่ง ผู้ว่าฯกทม. ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถรู้มันหาของ กทม. ตนในฐานะที่ทำงานรับใช้ประชาชน กทม.มายาวนาน รู้ทุกซอกทุกซอย จึงขอสัญญาจะนำปัญหาของคน กทม.มาแบกไว้บนบ่า เพื่อแก้ไขปัญหาให้ได้ พรรคไทยสร้างไทยตั้งใจจะหาคนที่ดีที่สุด และมีDNAของพรรคมารับใช้ประชาชนชาว กทม. นั่นก็คือ น.ต.ศิธา ทิวารี

“เลือกผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม.และ ผู้สมัคร ส.ก.ทั้ง50 เขต ของพรรคไทยสร้างไทย ได้ สุดารัตน์ เข้าไปช่วยทำงาน ตนลงเองไม่ได้จึงส่งคนที่ไว้วางใจว่าจะแก้ไขปัญหา ทำให้กรุงเทพฯเป็นเมืองแห่งความสุข”คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

ด้านน.ต.ศิธา ทิวารี ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ตนอาสาที่จะสมัครรับลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และวันนี้ถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยตัวเองนั้นได้เข้ามาทำงานการเมืองตั้งแต่ปี 2543 ในเขตคลองเตย และวันนี้ก็ยังคงสำนึกในความเมตตาของชาวคลองเตยทุกคน และใครที่ถามว่าตนจะไปสู้กับผู้สมัครคนอื่นที่ลงพื้นที่มานานแล้วนั้นได้อย่างไร ขอยืนยันว่าตนทำงานอยู่กับพี่น้องประชาชนมา 22 ปีแล้ว แต่เพียงแค่ไม่ได้ประชาสัมพันธ์ตนเอง และงานที่ตนเคยทำในอดีตมีความเกี่ยวพันกับกรุงเทพมหานคร


 ทั้งนี้ นโยบายหลักที่ ผู้ว่าฯ กทม. ผ่านมา รวมถึงผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ทุกคน ต่างพูดเหมือนกัน ดังนั้นสิ่งที่ต่างอยู่ที่การมองปัญหาของ กทม. ว่าจะมองอย่างไร ซึ่งเมื่อมองดู “กรุงเทพมหานคร” นั้น เปรียบเสมือน “ประเทศไทยย่อส่วน” ที่การจัดวางสำนัก กรม กอง ไม่ต่างกับ กระทรวง ทบวง กรม ของรัฐบาลกลาง ตนจึงมีแนวทางในการแก้ปัญหาของกรุงเทพ แบ่งออกเป้น 3 กลุ่ม คือ 3P “People Profit Planet” เพื่อที่จะยกระดับกรุงเทพ ให้เป็น “มหานครของโลก ที่คนทั่วโลกยอมรับ” ให้ได้ 1.People – สร้างเมืองแห่งโอกาสให้ชาวกรุงเทพ เพราะที่ผ่านมา คนกรุงเทพไม่เคยมีอำนาจในการตัดสินใจพื้นที่ของตนเองเลย ตนจะเป็นผู้ว่าคนแรกที่ให้อำนาจคนกรุงเทพมาร่วมบริหารและตรวจสอบงบประมาณ กทม. ด้วยสภาชุมชน และต้องกำจัดคอรัปชั่น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ กทม.ด้วยระบบกระจายอำนาจการตรวจสอบ และที่สำคัญที่สุด ผมจะลงทุนกับการสร้างคนมากที่สุด ตั้งแต่ที่มีผู้ว่า กทม. มา ทุกพรรคการเมือง ผู้ว่า กทม. ทุกคน เสนอว่า “ต้องการความเป็นเลิศทางการศึกษา” ซึ่งตนมองว่ามันไม่ใช่ เพราะจะสร้างความเหลื่อมล้ำ ทิ้งเด็ก กทม. จำนวนมากให้อยู่ข้างหลัง โดยเริ่มแรกตนจะทำโรงเรียนสังกัด กทม. ให้มี “มาตรฐาน” ทัดเทียมกันเสียก่อน โดย “ความเป็นเลิศทางการศึกษา” ต้องไปพร้อมๆกันทุกโรงเรียน

2.Profit – สร้างมหานครแห่งความมั่งคั่ง เพื่อ Take off กรุงเทพ โดยจะนำร่องกองทุนเครดิตประชาชน ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคไทยสร้างไทย เพื่อล้างหนี้นอกระบบ ให้ทุกคนตั้งตัวได้ ประชาชน “คนตัวเล็ก” ไม่ต้องกู้หนี้นอกระบบในอัตราดอกเบี้ยแสนโหด จากร้อยละ 20 ต่อเดือน ให้สามารถกู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน ร้อยละ 1 ต่อเดือน สร้างเมืองหลวง Street Food ของโลก อาหารสะอาด รสชาติอร่อย สร้างที่ค้าขาย ทุกเขตทั่ว กทม. ได้ 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งแก้ปัญหาส่วยหาบเร่แผงลอย ด้วย DAO และกลไกสภาชุมชน แก้ปัญหาเทศกิจจากเดิมที่ทำตัวเป็น  Inspector ต้องเปลี่ยนเป็น facilitator

3.Planet – สร้างคุณภาพชีวิตคนกรุงเทพอย่างยั่งยืน โดยการลดมลพิษ ลดฝุ่น PM2.5 ด้วยการห้ามรถที่ปล่อยควันเสียวิ่งใน กทม. ควบคุมการก่อสร้าง เร่งปลูกต้นไม้ พร้อมทั้งผลักดันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดย กทม.สนับสนุนการตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าในทุกเขต ตุ๊กๆ มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า รวมถึงจะสร้างเมืองสุขภาพดี เพิ่มสถานที่ออกกำลังกายตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ แจกสายรัดข้อมืออัจฉริยะ ส่งเสริมคน กทม.ให้ออกกำลังกาย

ผู้สื่อรายงานว่า หลังการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. และผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ พร้อม น.ต.ศิธา จะลงพื้นที่เขตคลองเตยทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย