ไทยสร้างไทย เปิดตัว “ศิธา” พร้อมทีม สก.

โกดังสเตเดี้ยมคลองเตย 30 มี.ค.- ไทยสร้างไทย เปิดตัว “น.ต.ศิธา ทิวารี” ชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมทีมผู้สมัคร ส.ก. 50 เขต ชูนโยบาย 3P ยกระดับกรุงเทพฯ เป็นมหานครโลก ด้าน “คุณหญิงสุดารัตน์” ลั่นขอโอกาสทำกรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งความสุข ประกาศนโยบายดูแลประชาชนตั้งแต่เด็กจนแก่ เลือก ผู้ว่าฯ สร้างไทยได้ “สุดารัตน์” ช่วยทำงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคไทยสร้างไทย เปิดตัวนาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี เป็นว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคไทยสร้างไทย พร้อมว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) ทั้ง50เขต โดยมีตัวแทนประชาชนหลากหลายเขตในพื้นที่กรุงเทพมหานครเข้าร่วมงานจำนวนมาก ทั้งนี้ ก่อนเข้าร่วมงานทุกคนต้องผ่านการคัดกรองโคงิด-19 ด้วยการตรวจ ATK หรือแสดงผลตรวจกับเจ้าหน้าที่ วัดอุณหภูมิ ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข


คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยจะเป็นพรรคของประชาชน ไม่เป็นที่เหยียบยืนของเผด็จการ โดยพรรคพร้อมรับฟังความเห็นต่าง ยุติความขัดแย้ง มุ่งสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งกรุงเทพมหานคร จะต้องเป็นบ้านที่มีความสุข เป็นเมืองแห่งโอกาสที่สร้างรายได้ สร้างโอกาสให้ทุกคนเท่าเทียมโดยเฉพาะคนตัวเล็กตัวน้อย ดังนี้พรรคไทยสร้างไทย มีความตั้งใจจะปลดปล่อยประชาชนออกจากข้าราชการที่กดทับ เพื่อให้ประชาชนสามารถทำมาหากินได้เร็วที่สุด โดยจะออก พ.ร.บ.ปลดล็อกกดระเบียบต่างๆที่เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากิน ภายใน 3 สัปดาห์ และให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยดอกเบี้ย ร้อยละ0.5 พร้อมชูนโยบายดูแลประชาชนตั้งแต่เด็กจนแก่ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลาเวลาเรียนรู้ เรียนฟรีจนจบปริญญาตรี รวมถึงจะทำบำนาญประชาชน เพื่อให้ผู้สูงวัยที่ทำงานตลอดชีวิตได้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรีได้เงินเดือนละ 3000 บาท

“ไม่ต้องกลัวว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ เพราะยากกว่านี้ นโยบาย30 บาทรักษาทุกโรคก็ทำสำเร็จมาแล้วภายใน 4 ปี” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว


คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า ที่เราต้องส่งผู้ว่าฯกทม และ ส.ก.ทั้ง 50 เขต เพราะเรารู้ว่าอำนาจไม่ได้อยู่ที่ผู้ว่าฯกทม.เพียงคนเดียว ต้องมีทีมงานที่เข้มแข็ง รวมถึง พรรคไทยสร้างไทย ต้องมี ส.ส.ในสภา เพื่อเป็นแบล็คให้กับผู้ว่าฯกทม . และ ทีม ส.ก.  ซึ่ง ผู้ว่าฯกทม. ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถรู้มันหาของ กทม. ตนในฐานะที่ทำงานรับใช้ประชาชน กทม.มายาวนาน รู้ทุกซอกทุกซอย จึงขอสัญญาจะนำปัญหาของคน กทม.มาแบกไว้บนบ่า เพื่อแก้ไขปัญหาให้ได้ พรรคไทยสร้างไทยตั้งใจจะหาคนที่ดีที่สุด และมีDNAของพรรคมารับใช้ประชาชนชาว กทม. นั่นก็คือ น.ต.ศิธา ทิวารี

“เลือกผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม.และ ผู้สมัคร ส.ก.ทั้ง50 เขต ของพรรคไทยสร้างไทย ได้ สุดารัตน์ เข้าไปช่วยทำงาน ตนลงเองไม่ได้จึงส่งคนที่ไว้วางใจว่าจะแก้ไขปัญหา ทำให้กรุงเทพฯเป็นเมืองแห่งความสุข”คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

ด้านน.ต.ศิธา ทิวารี ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ตนอาสาที่จะสมัครรับลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และวันนี้ถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยตัวเองนั้นได้เข้ามาทำงานการเมืองตั้งแต่ปี 2543 ในเขตคลองเตย และวันนี้ก็ยังคงสำนึกในความเมตตาของชาวคลองเตยทุกคน และใครที่ถามว่าตนจะไปสู้กับผู้สมัครคนอื่นที่ลงพื้นที่มานานแล้วนั้นได้อย่างไร ขอยืนยันว่าตนทำงานอยู่กับพี่น้องประชาชนมา 22 ปีแล้ว แต่เพียงแค่ไม่ได้ประชาสัมพันธ์ตนเอง และงานที่ตนเคยทำในอดีตมีความเกี่ยวพันกับกรุงเทพมหานคร


 ทั้งนี้ นโยบายหลักที่ ผู้ว่าฯ กทม. ผ่านมา รวมถึงผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ทุกคน ต่างพูดเหมือนกัน ดังนั้นสิ่งที่ต่างอยู่ที่การมองปัญหาของ กทม. ว่าจะมองอย่างไร ซึ่งเมื่อมองดู “กรุงเทพมหานคร” นั้น เปรียบเสมือน “ประเทศไทยย่อส่วน” ที่การจัดวางสำนัก กรม กอง ไม่ต่างกับ กระทรวง ทบวง กรม ของรัฐบาลกลาง ตนจึงมีแนวทางในการแก้ปัญหาของกรุงเทพ แบ่งออกเป้น 3 กลุ่ม คือ 3P “People Profit Planet” เพื่อที่จะยกระดับกรุงเทพ ให้เป็น “มหานครของโลก ที่คนทั่วโลกยอมรับ” ให้ได้ 1.People – สร้างเมืองแห่งโอกาสให้ชาวกรุงเทพ เพราะที่ผ่านมา คนกรุงเทพไม่เคยมีอำนาจในการตัดสินใจพื้นที่ของตนเองเลย ตนจะเป็นผู้ว่าคนแรกที่ให้อำนาจคนกรุงเทพมาร่วมบริหารและตรวจสอบงบประมาณ กทม. ด้วยสภาชุมชน และต้องกำจัดคอรัปชั่น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ กทม.ด้วยระบบกระจายอำนาจการตรวจสอบ และที่สำคัญที่สุด ผมจะลงทุนกับการสร้างคนมากที่สุด ตั้งแต่ที่มีผู้ว่า กทม. มา ทุกพรรคการเมือง ผู้ว่า กทม. ทุกคน เสนอว่า “ต้องการความเป็นเลิศทางการศึกษา” ซึ่งตนมองว่ามันไม่ใช่ เพราะจะสร้างความเหลื่อมล้ำ ทิ้งเด็ก กทม. จำนวนมากให้อยู่ข้างหลัง โดยเริ่มแรกตนจะทำโรงเรียนสังกัด กทม. ให้มี “มาตรฐาน” ทัดเทียมกันเสียก่อน โดย “ความเป็นเลิศทางการศึกษา” ต้องไปพร้อมๆกันทุกโรงเรียน

2.Profit – สร้างมหานครแห่งความมั่งคั่ง เพื่อ Take off กรุงเทพ โดยจะนำร่องกองทุนเครดิตประชาชน ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคไทยสร้างไทย เพื่อล้างหนี้นอกระบบ ให้ทุกคนตั้งตัวได้ ประชาชน “คนตัวเล็ก” ไม่ต้องกู้หนี้นอกระบบในอัตราดอกเบี้ยแสนโหด จากร้อยละ 20 ต่อเดือน ให้สามารถกู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน ร้อยละ 1 ต่อเดือน สร้างเมืองหลวง Street Food ของโลก อาหารสะอาด รสชาติอร่อย สร้างที่ค้าขาย ทุกเขตทั่ว กทม. ได้ 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งแก้ปัญหาส่วยหาบเร่แผงลอย ด้วย DAO และกลไกสภาชุมชน แก้ปัญหาเทศกิจจากเดิมที่ทำตัวเป็น  Inspector ต้องเปลี่ยนเป็น facilitator

3.Planet – สร้างคุณภาพชีวิตคนกรุงเทพอย่างยั่งยืน โดยการลดมลพิษ ลดฝุ่น PM2.5 ด้วยการห้ามรถที่ปล่อยควันเสียวิ่งใน กทม. ควบคุมการก่อสร้าง เร่งปลูกต้นไม้ พร้อมทั้งผลักดันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดย กทม.สนับสนุนการตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าในทุกเขต ตุ๊กๆ มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า รวมถึงจะสร้างเมืองสุขภาพดี เพิ่มสถานที่ออกกำลังกายตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ แจกสายรัดข้อมืออัจฉริยะ ส่งเสริมคน กทม.ให้ออกกำลังกาย

ผู้สื่อรายงานว่า หลังการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. และผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ พร้อม น.ต.ศิธา จะลงพื้นที่เขตคลองเตยทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

พล.อ.ณัฐพล เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล รมช.กห. เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session of Thailand […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]

มท.1 เด้งฟ้าผ่า ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี

เมืองทองธานี 7 ส.ค.-รมว.มหาดไทย สั่งเด้งฟ้าผ่า “ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี” ก่อนประชุมมอบนโยบายกระทรวงมหาดไทย เหตุมีปัญหาเบิกจ่ายงบประมาณดูแลประชาชนได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุมมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ว่า ได้มีการสั่งย้าย ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย หลังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีการเบิกงบทดรองราชการจ่ายเพียง 55,600 บาท จากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ 100 ล้านบาท ส่วนจะย้ายชั่วคราว หรือถาวรน้้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน เมื่อถามว่า จะรอผลสอบก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากันในรายละเอียด โดยคำสั่งจะออกในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ว่าได้เดินทางมาร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย​ แต่ปฏิเสธที่จะแสดง​ความเห็น​ และไม่ขอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน.-315.-สำนักข่าวไทย

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]