ไทยสร้างไทย เปิดตัว “ศิธา” พร้อมทีม สก.

โกดังสเตเดี้ยมคลองเตย 30 มี.ค.- ไทยสร้างไทย เปิดตัว “น.ต.ศิธา ทิวารี” ชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมทีมผู้สมัคร ส.ก. 50 เขต ชูนโยบาย 3P ยกระดับกรุงเทพฯ เป็นมหานครโลก ด้าน “คุณหญิงสุดารัตน์” ลั่นขอโอกาสทำกรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งความสุข ประกาศนโยบายดูแลประชาชนตั้งแต่เด็กจนแก่ เลือก ผู้ว่าฯ สร้างไทยได้ “สุดารัตน์” ช่วยทำงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคไทยสร้างไทย เปิดตัวนาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี เป็นว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคไทยสร้างไทย พร้อมว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) ทั้ง50เขต โดยมีตัวแทนประชาชนหลากหลายเขตในพื้นที่กรุงเทพมหานครเข้าร่วมงานจำนวนมาก ทั้งนี้ ก่อนเข้าร่วมงานทุกคนต้องผ่านการคัดกรองโคงิด-19 ด้วยการตรวจ ATK หรือแสดงผลตรวจกับเจ้าหน้าที่ วัดอุณหภูมิ ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข


คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยจะเป็นพรรคของประชาชน ไม่เป็นที่เหยียบยืนของเผด็จการ โดยพรรคพร้อมรับฟังความเห็นต่าง ยุติความขัดแย้ง มุ่งสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งกรุงเทพมหานคร จะต้องเป็นบ้านที่มีความสุข เป็นเมืองแห่งโอกาสที่สร้างรายได้ สร้างโอกาสให้ทุกคนเท่าเทียมโดยเฉพาะคนตัวเล็กตัวน้อย ดังนี้พรรคไทยสร้างไทย มีความตั้งใจจะปลดปล่อยประชาชนออกจากข้าราชการที่กดทับ เพื่อให้ประชาชนสามารถทำมาหากินได้เร็วที่สุด โดยจะออก พ.ร.บ.ปลดล็อกกดระเบียบต่างๆที่เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากิน ภายใน 3 สัปดาห์ และให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยดอกเบี้ย ร้อยละ0.5 พร้อมชูนโยบายดูแลประชาชนตั้งแต่เด็กจนแก่ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลาเวลาเรียนรู้ เรียนฟรีจนจบปริญญาตรี รวมถึงจะทำบำนาญประชาชน เพื่อให้ผู้สูงวัยที่ทำงานตลอดชีวิตได้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรีได้เงินเดือนละ 3000 บาท

“ไม่ต้องกลัวว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ เพราะยากกว่านี้ นโยบาย30 บาทรักษาทุกโรคก็ทำสำเร็จมาแล้วภายใน 4 ปี” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว


คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า ที่เราต้องส่งผู้ว่าฯกทม และ ส.ก.ทั้ง 50 เขต เพราะเรารู้ว่าอำนาจไม่ได้อยู่ที่ผู้ว่าฯกทม.เพียงคนเดียว ต้องมีทีมงานที่เข้มแข็ง รวมถึง พรรคไทยสร้างไทย ต้องมี ส.ส.ในสภา เพื่อเป็นแบล็คให้กับผู้ว่าฯกทม . และ ทีม ส.ก.  ซึ่ง ผู้ว่าฯกทม. ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถรู้มันหาของ กทม. ตนในฐานะที่ทำงานรับใช้ประชาชน กทม.มายาวนาน รู้ทุกซอกทุกซอย จึงขอสัญญาจะนำปัญหาของคน กทม.มาแบกไว้บนบ่า เพื่อแก้ไขปัญหาให้ได้ พรรคไทยสร้างไทยตั้งใจจะหาคนที่ดีที่สุด และมีDNAของพรรคมารับใช้ประชาชนชาว กทม. นั่นก็คือ น.ต.ศิธา ทิวารี

“เลือกผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม.และ ผู้สมัคร ส.ก.ทั้ง50 เขต ของพรรคไทยสร้างไทย ได้ สุดารัตน์ เข้าไปช่วยทำงาน ตนลงเองไม่ได้จึงส่งคนที่ไว้วางใจว่าจะแก้ไขปัญหา ทำให้กรุงเทพฯเป็นเมืองแห่งความสุข”คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

ด้านน.ต.ศิธา ทิวารี ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ตนอาสาที่จะสมัครรับลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และวันนี้ถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยตัวเองนั้นได้เข้ามาทำงานการเมืองตั้งแต่ปี 2543 ในเขตคลองเตย และวันนี้ก็ยังคงสำนึกในความเมตตาของชาวคลองเตยทุกคน และใครที่ถามว่าตนจะไปสู้กับผู้สมัครคนอื่นที่ลงพื้นที่มานานแล้วนั้นได้อย่างไร ขอยืนยันว่าตนทำงานอยู่กับพี่น้องประชาชนมา 22 ปีแล้ว แต่เพียงแค่ไม่ได้ประชาสัมพันธ์ตนเอง และงานที่ตนเคยทำในอดีตมีความเกี่ยวพันกับกรุงเทพมหานคร


 ทั้งนี้ นโยบายหลักที่ ผู้ว่าฯ กทม. ผ่านมา รวมถึงผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ทุกคน ต่างพูดเหมือนกัน ดังนั้นสิ่งที่ต่างอยู่ที่การมองปัญหาของ กทม. ว่าจะมองอย่างไร ซึ่งเมื่อมองดู “กรุงเทพมหานคร” นั้น เปรียบเสมือน “ประเทศไทยย่อส่วน” ที่การจัดวางสำนัก กรม กอง ไม่ต่างกับ กระทรวง ทบวง กรม ของรัฐบาลกลาง ตนจึงมีแนวทางในการแก้ปัญหาของกรุงเทพ แบ่งออกเป้น 3 กลุ่ม คือ 3P “People Profit Planet” เพื่อที่จะยกระดับกรุงเทพ ให้เป็น “มหานครของโลก ที่คนทั่วโลกยอมรับ” ให้ได้ 1.People – สร้างเมืองแห่งโอกาสให้ชาวกรุงเทพ เพราะที่ผ่านมา คนกรุงเทพไม่เคยมีอำนาจในการตัดสินใจพื้นที่ของตนเองเลย ตนจะเป็นผู้ว่าคนแรกที่ให้อำนาจคนกรุงเทพมาร่วมบริหารและตรวจสอบงบประมาณ กทม. ด้วยสภาชุมชน และต้องกำจัดคอรัปชั่น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ กทม.ด้วยระบบกระจายอำนาจการตรวจสอบ และที่สำคัญที่สุด ผมจะลงทุนกับการสร้างคนมากที่สุด ตั้งแต่ที่มีผู้ว่า กทม. มา ทุกพรรคการเมือง ผู้ว่า กทม. ทุกคน เสนอว่า “ต้องการความเป็นเลิศทางการศึกษา” ซึ่งตนมองว่ามันไม่ใช่ เพราะจะสร้างความเหลื่อมล้ำ ทิ้งเด็ก กทม. จำนวนมากให้อยู่ข้างหลัง โดยเริ่มแรกตนจะทำโรงเรียนสังกัด กทม. ให้มี “มาตรฐาน” ทัดเทียมกันเสียก่อน โดย “ความเป็นเลิศทางการศึกษา” ต้องไปพร้อมๆกันทุกโรงเรียน

2.Profit – สร้างมหานครแห่งความมั่งคั่ง เพื่อ Take off กรุงเทพ โดยจะนำร่องกองทุนเครดิตประชาชน ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคไทยสร้างไทย เพื่อล้างหนี้นอกระบบ ให้ทุกคนตั้งตัวได้ ประชาชน “คนตัวเล็ก” ไม่ต้องกู้หนี้นอกระบบในอัตราดอกเบี้ยแสนโหด จากร้อยละ 20 ต่อเดือน ให้สามารถกู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน ร้อยละ 1 ต่อเดือน สร้างเมืองหลวง Street Food ของโลก อาหารสะอาด รสชาติอร่อย สร้างที่ค้าขาย ทุกเขตทั่ว กทม. ได้ 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งแก้ปัญหาส่วยหาบเร่แผงลอย ด้วย DAO และกลไกสภาชุมชน แก้ปัญหาเทศกิจจากเดิมที่ทำตัวเป็น  Inspector ต้องเปลี่ยนเป็น facilitator

3.Planet – สร้างคุณภาพชีวิตคนกรุงเทพอย่างยั่งยืน โดยการลดมลพิษ ลดฝุ่น PM2.5 ด้วยการห้ามรถที่ปล่อยควันเสียวิ่งใน กทม. ควบคุมการก่อสร้าง เร่งปลูกต้นไม้ พร้อมทั้งผลักดันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดย กทม.สนับสนุนการตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าในทุกเขต ตุ๊กๆ มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า รวมถึงจะสร้างเมืองสุขภาพดี เพิ่มสถานที่ออกกำลังกายตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ แจกสายรัดข้อมืออัจฉริยะ ส่งเสริมคน กทม.ให้ออกกำลังกาย

ผู้สื่อรายงานว่า หลังการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. และผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ พร้อม น.ต.ศิธา จะลงพื้นที่เขตคลองเตยทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย