นายกฯ ชื่นชมกรมปศุสัตว์ผลิตวัคซีนโรคลัมปี สกิน

กทม. 26 มี.ค.- นายกรัฐมนตรี ชื่นชมบุคลากรกรมปศุสัตว์ ประสบความสำเร็จผลิตวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน ในโค-กระบือ คุณภาพเทียบเท่าต่างประเทศ ประหยัดงบปีละ 280 ล้านบาท

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า จากปัญหาการเกิดโรคลัมปีสกินในโค-กระบือ(Lumpy SkiDisease) : LSD ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ที่เกิดขึ้นในประเทศช่วงเดือนมีนาคม พ.ศ 2564 สร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือ แต่ด้วยการบริหารจัดการที่ดีของรัฐบาล และความร่วมมือของทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงเกษตรกรและประชาชนได้ดำเนินการตามมาตรการสำคัญ ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถควบคุมโรคให้หยุดการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกันนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้พัฒนาวัคซีนป้องกันโรคสำเร็จแล้ว ส่วนการจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกรกรณีโคและกระบือตายด้วยโรคลัมปีสกิน คาดว่าภายในเดือนเมษายนนี้ จะสามารถจ่ายเงินเยียวยาได้ครบตามที่ลงทะเบียนไว้


นางสาวรัชดา กล่าวว่า เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรค ในช่วงที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ได้นำเข้าวัคซีนมาแล้ว 5.3 ล้านโดสใช้งบประมาณกว่า 160 ล้านบาท และภาคเอกชน สมาคม และกลุ่มกลุ่มเกษตรกรนำเข้ามาอีกประมาณ 5 แสนโดส มูลค่าประมาณ 22.5 ล้านบาท เป็นมูลค่ารวมกว่า 180 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการป้องกันโรคให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโค กระบือ และเป็นการสร้างความมั่นคงทางด้านวัคซีน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ดำเนินการพัฒนาการผลิตวัคซีนโรคลัมปีสกิน ขณะนี้ประสบความสำเร็จ ผลการกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรคอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเทียบเท่ากับวัคซีนที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยคาดว่าจะผลิตวัคซีนชุดแรกแล้วเสร็จช่วงประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2565 ในราคาต้นทุนโด้สละ 9 บาท ซึ่งในช่วงปีแรก (มิ.ย. 2565 – พ.ค. 2566) สามารถผลิตวัคซีนได้ มีมูลค่า 6 ล้านบาท หากต้องนำเข้าจากต่างประเทศต้องใช้งบประมาณถึง 27 ล้านบาท ทำให้ช่วยประหยัดงบประมาณแผ่นดินได้มากถึง 21 ล้านบาท

นางสาวรัชดา กล่าวว่า เพื่อให้มีปริมาณวัคซีนเพียงพอต่อความต้องการใช้สำหรับการควบคุมและป้องกันภายในประเทศ รวมถึงสัตว์นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน กรมปศุสัตว์ได้ศึกษาความเป็นไปได้เพื่อขยายกำลังการผลิตวัคซีนโรคลัมปีสกิน เชื้อตาย ให้สามารถผลิตได้เดือนละ 5 แสน ถึงกว่า 1 ล้าน โด๊ส หากกำลังการผลิตเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดจะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศได้กว่าปีละ 280 ล้านบาท อีกทั้ง สามารถส่งขายให้กับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนได้อีกด้วย นอกจากนี้การฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงยังนำไปสู่การกำจัดโรคลัมปีสกินให้หมดไปจากประเทศไทยได้อย่างถาวรในอนาคต


“นายกรัฐมนตรี ชื่นชมบุคลากรส่วนราชการภายในกรมปศุสัตว์เป็นบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ ไม่หยุดคิดค้นพัฒนา ทำการวิจัยจนประสบความสำเร็จสามารถผลิตวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับต่างประเทศ ผลความสำเร็จดังกล่าวช่วยให้ประเทศไทยประหยัดงบประมาณได้ปีละหลายล้านบาท ทำให้สามารถนำงบประมาณมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก้ไขปัญหาพัฒนาส่วนอื่นๆ ได้อีกหลายอย่าง ถือเป็นบุคลากรตัวอย่าง ขอให้อย่าหยุดพัฒนา นำความรู้ความสามารถเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โรคอุบัติใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเวลา” นางสาวรัชดา กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส