ราชษฎร์บูรณะ 25 มี.ค.-“คุณหญิงสุดารัตน์” ลุยฝั่งธนบุรี เปิดตัวอดีต ส.ก. 4 สมัย “ไสว โชติกะสุภา” เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตราษฎร์บูรณะ ชู นโยบาย “ดูแลตั้งแต่เกิดจนแก่”
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยนายสุธา ชันแสง ประธานคณะกรรมการบริหารพื้นที่กทม. นำทัพคาราวานไทยสร้างไทย 77 จังหวัด ลงพื้นที่พบปะประชาชนชาวราษฎร์บูรณะ ที่ศูนย์ประสานงานพรรคราษฎร์บูรณะ จากนั้นไปยังโรงเรียนอนุบาลปัญญาศักดิ์ ก่อนเข้าชุมชนแฟลตสุขสวัสดิ์ 38 และชุมชนแฟลตทหารเรือ โดยมีประชาชนให้การตอนรับอย่างดี พร้อมให้กำลังใจ มอบดอกไม้ และของกินของใช้ตลอดเส้นทางขบวนคาราวาน
คุณหญิงสุดารัตน์ แนะนำผู้สมัครส.ก.พรรคไทยสร้างไทย เขตราษฎร์บูรณะ นายไสว โชติกะสุภาอดีต ส.ก.เขตราษฎร์บูรณะต่อเนื่อง 4 สมัย มาเป็นตัวแทนรับใช้ประชาชนชาวราษฎร์บูรณะ โดยกล่าวว่าพรรคไทยสร้างไทยมีความพร้อมมากสำหรับศึกการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร วันนี้(25 มี.ค.) ได้มาพบปะพี่น้องประชาชนชาวราษฎร์บูรณะ เพื่อขอจองหัวใจฝากนายไสว โชติกะสุภาเข้ามารับใช้ประชาชน ซึ่งเป็นบุคคลที่มีดีเอ็นเอพรรคที่ทำงานจริงจัง ฟังเสียงประชาชน เคยเป็น ส.ก. 4 สมัยต่อเนื่อง และเคยเป็นรองประธานสภา กทม.คนที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนมาโดยตลอดเป็นอย่างดี
“ไม่มียุคไหน สมัยไหน ที่ประชาชนตกต่ำและได้รับความลำบากมากขนาดนี้ เพราะจากการลงพื้นที่มาทั่วประเทศ ดิฉันได้รับรู้ถึงความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชน รวมถึงเสียงแห่งความหวังจากการหลุดพ้นจาก “รัฐราชการอำนาจนิยม” ที่กดทับการทำมาหากินของพี่น้องประชาชน พรรคไทยสร้างไทยจึงเป็นภาระกิจสุดท้ายของ “สุดารัตน์” ในการนำพาประเทศผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจ ทวงเงินในกระเป๋ากลับคืนมา เพื่อให้คนไทย “รวยก่อนแก่” โดยมีหลักนโยบาย “ดูแลตั้งแต่เกิดจนแก่” เริ่มจากวัยเด็กที่พรรค ให้ความสำคัญกับการลงทุนกับเด็กนักเรียน เพื่อให้เกิดการพัฒนาศักยภาพสูงสุด ผ่านการลดเวลาการศึกษา ให้เด็กสามารถจบออกมาทำมาหากินได้เร็วขึ้น ปรับโครงสร้างการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับโลกสมัยใหม่ และยกหนี้กองทุน กยศ. ทั้งหมด” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เมื่อเข้าสู่วัยคนวัยทำงาน พรรคจะให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำได้ ด้วยนโยบายกองทุนเครดิตประชาชนเพื่อคนตัวเล็ก เพื่อเป็นหลักประกันให้กับประชาชนในการทำมาหากินได้ และเมื่อเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ พรรคมีนโยบายบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท เพื่อรองรับผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการยังชีพ และเป็นการตอบแทนผู้สูงอายุที่ได้ทำงานหนักมาทั้งชีวิต เพื่อพัฒนาประเทศชาติ ซึ่งเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้ประโยชน์ถึง 4 อย่าง คือผู้สูงอายุมีรายได้ยังชีพอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี สุขภาพแข็งแรง ลดภาระลูกหลาน เป็นกำลังซื้อมหาศาลให้กับเศรษฐกิจฐานราก ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศขยายตัวดีตามด้วย.-สำนักข่าวไทย