กรุงเทพฯ 24 มี.ค. – “สกลธี” เปิดตัวลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ ชูนโยบายหาเสียง 6 ด้าน เพื่อทำให้กรุงเทพฯ ดีกว่านี้
นายสกลธี ภัททิยกุล เปิดตัวลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอย่างเป็นทางการ ในนามอิสระ พร้อมเปิดนโยบาย 6 ด้าน เพื่อทำให้กรุงเทพฯ ดีกว่านี้ เป็นเมืองแห่งความสุข (Happy & Healthy City) ได้แก่ ด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา ด้านการขนส่ง จราจร ล้อรางเรือ ด้านดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน ด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และผังเมือง ด้านเศรษฐกิจและสังคม นโยบายด้านสาธารณสุขดีกว่านี้ได้ด้วยระบบ Telemedicine พร้อมยกเครื่องศูนย์สาธารณสุข 69 ศูนย์ และยกระดับสำนักอนามัยให้ครอบคลุมการบริการอย่างทั่วถึง เพิ่มศักยภาพโรงพยาบาลในสังกัด กทม. ให้เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทาง ดูแลกลุ่มเปราะบางเชิงรุก
นโยบายด้านการศึกษา ดีกว่านี้ได้ด้วยโรงเรียนคุณภาพใกล้บ้าน เพิ่มหลักสูตรภาษาอังกฤษและภาษาจีนในโรงเรียน จัดตั้งโรงเรียนผสมและเฉพาะทาง ลดภาระครู ยกระดับครูคุณภาพ โภชนาการอาหารฟรี หลักสูตรหลังเลิกเรียน เพื่อเพิ่มทักษะการใช้ชีวิตและหารายได้เสริม
นโยบายด้านขนส่ง จราจร ดีกว่านี้ได้ด้วยการเชื่อมล้อ ราง เรือ Free Feeder ทั่วเมือง รถไฟฟ้าสายสีเทา สายบางนา-สุวรรณภูมิ ระบบตั๋วเชื่อมที่ใช้ได้ทุกเส้นทาง เพิ่มความปลอดภัยด้วยการกำจัดจุดเสี่ยงจราจร เคร่งครัดวินัยบนท้องถนน
นโยบายด้านดิจิทัล โครงสร้างพื้นฐาน ดีกว่านี้ได้ด้วย Quantum infrastructure การเตรียมเมืองให้พร้อมสู่ความปลอดภัยสูงสุดทาง cyber security, Optimization all Bangkok resources – การใช้ Quantum ในการเดินทางรถเก็บขยะ เพื่อประหยัดเวลาและพลังงาน Free Wifi ทุกชุมชนและที่สาธารณะ และ BKK one-online service platform – ขอยื่นพิจารณาจบในที่เดียว ภายในเวลาไม่เกิน 30 วัน ด้วยระบบ AI
นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และผังเมือง ดีกว่านี้ได้ด้วยการลด แยกขยะ จัดแนวทางการเก็บขยะ เพื่อเตรียมเป็น กทม. Net Zero จัดระเบียบ Zoning อุตสาหกรรม พาณิชย์ ที่อยู่อาศัย จัดทำสวนทุกเขต พร้อมนักรุกขกรมืออาชีพ เพื่อดูแลต้นไม้ใหญ่ทั่วเมือง Green roof หักภาษีทั่วเมือง ปลอดภัยด้วยระบบ CCTV เชื่อมทุกหน่วยในเขต กทม. Smart Pole เสาไฟที่ให้มากกว่าความสว่าง จัดผังเมืองแนวใหม่ เพื่อให้เศรษฐกิจรอบนอกเติบโต บริหารจัดการน้ำทั่วกรุงอย่างเป็นระบบ
นโยบายด้านเศรษฐกิจ ดีกว่านี้ได้ด้วยการหารายได้เข้ากรุงเทพฯ สร้างมูลค่าเพิ่มจากสินทรัพย์ที่ไม่พัฒนา แปลงสินทรัพย์เป็นทุน เปลี่ยนขยะให้เป็นทอง จัดระบบงบดุลใหม่ ตั้งกองทุน Social Impact Fund โดยชักชวนนักลงทุนต่างชาติมาลงทุนเพื่อผลตอบแทนทางสังคม จับมือเอกชนเพื่อสร้างพื้นที่เศรษฐกิจใหม่แปลงให้เป็น BOT (Build Operate Transfer) ทุกโครงการโปร่งใส ใช้ระบบ Blockchain และจัดกิจกรรมท่องเที่ยว ถนนคนเดิน 50 เขต ทุกเขตตามอัตลักษณ์ชุมชน
นอกจากนี้ ยังได้จัดทำเว็บไซต์ www.กทมช่วยบอกที.com เพื่อเป็นช่องทางในการรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะต่างๆ รวมทั้งยังมี QR Code ที่แบนเนอร์และป้ายหาเสียง เพื่อใช้เป็นอีกหนึ่งช่องทางการสื่อสารและรับฟังปัญหาด้วย
นายสกลธี ยืนยันตนเองไม่ใช่สลิ่ม ไม่อยากให้คนกรุงคิดว่าตนเป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทางการเมือง ขอให้คนกรุงเทพฯ เปิดใจและเลือกตนเป็นผู้ว่าฯ กทม. กรณีเคยเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังลาออกจากตำแหน่งรองผู้ว่าฯ เนื่องจากถือคติแบบคนไทยไปลามาไหว้ จึงเข้าไปขอบคุณ เช่นเดียวกับที่ไปขอบคุณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และผู้ว่าฯ อัศวิน ขวัญเมือง
ทั้งนี้ นายสกลธี ชูจุดแข็งของตัวเอง คือ เคยทำงานรับใช้คนกรุงเทพฯ มากว่า 4 ปี จึงรู้ปัญหาของเมืองกรุงดี หากได้เข้ามาทำหน้าที่จะสานต่อและแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ขณะนี้ยังไม่มองว่าใครเป็นคู่แข่งสำคัญ เพราะทุกคนมีโอกาสเท่าๆ กัน เช่นเดียวกับตนก็มีโอกาสเท่าๆ กับว่าที่ผู้สมัครท่านอื่น ส่วนที่มองว่า ตอนเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. ทำไมไม่แก้ปัญหาหลายอย่างให้คนกรุงเทพฯ นายสกลธี อธิบายว่า เนื่องจากตำแหน่งรองผู้ว่าฯ ต้องรับนโยบายและงานต่อจากผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งต้องทำตามมอบหมาย แต่ถ้าตนได้เข้ามาเป็นผู้นำ ก็สามารถทำทุกอย่างได้เพื่อคนกรุงเทพฯ. – สำนักข่าวไทย