โรงแรมหรรษา 21 มี.ค.-“สนธิรัตน์” ย้ำรัฐบาลต้องลดต้นทุนน้ำมัน คำนึงต้นทุนแฝง แนะเปลี่ยนภาษีสรรพสามิตเป็นภาษีคาร์บอน ดึงค่าเครดิตให้ประเทศ ส่งออกง่าย เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะแกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวถึงวิกฤติพลังงานในปัจจุบันว่า เป็นวิกฤติที่ใหญ่และไม่สามารถควบคุมได้ ส่วนตัวเป็นห่วงเรื่องต้นทุนพลังงานมากที่สุด เนื่องจากจะมีผลกระทบโดยตรงกับค่าครองชีพและต้นทุนการทำธุรกิจ อยากให้รัฐบาลออกมาตรการที่ช่วยแบ่งเบาภาระของประชาชนได้ทันที นอกเหนือจากการชดเชยค่าน้ำมัน ค่าแก๊สเพียงอย่างเดียว
นายสนธิรัตน์ เสนอขั้นตอนการลดต้นทุนพลังงาน โดยให้นำเข้าน้ำมันดิบเข้ามากลั่นในโรงกลั่นในประเทศไทย เพราะเชื่อว่ากำลังการผลิตของไทยเพียงพอ และกำลังขยายตัว พร้อมฝากรัฐบาลว่าต้องคิดให้ง่ายในช่วงเวลาสั้น ๆ ว่าทำอย่างไรก็ได้ให้ต้นทุนน้ำมันสะท้อนต้นทุนจริง ไม่จำเป็นต้องอิงกับราคาของสิงคโปร์และบวกรวมค่าขนส่ง อะไรก็ตามที่กระทบต้นทุนตรง ต้องดูว่ามีต้นทุนแฝงอยู่ในนั้นหรือไม่ และจะลดต้นทุนแฝงนั้นได้อย่างไร เพื่อให้ราคาน้ำมันถูกลง
นายสนธิรัตน์ เสนอให้ลดภาษีสรรพสามิตการนำเข้าน้ำมันดิบ เพื่อจะได้ลดเงินชดเชยตามไปด้วย โดยปัจจุบันรัฐบาลกำลังจัดกลุ่มน้ำมันให้อยู่ในภาษีฟุ่มเฟือย เพราะต้องการให้ประชาชนลดการใช้น้ำมัน ซึ่งแนวทางแก้ไข ตนจะเสนอนโยบายภาษีคาร์บอน โดยเฉพาะเรื่อง “คาร์บอนเครดิต” ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ เช่น การนำเข้าสินค้าเข้าสู่ประเทศแถบยุโรป หากนำเข้าสินค้าที่ใช้พลังงานคาร์บอนมากเท่าใดจะถูกเรียกเก็บภาษีมากเท่านั้น
“ผมเห็นว่าควรจะเปลี่ยนภาษีสรรพสามิตให้เป็นภาษีคาร์บอนมากขึ้น เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด หากประเทศไทยมีการจัดเก็บภาษีคาร์บอนที่ดี จะทำให้ไทยมีคาร์บอนเครดิต ซึ่งจะทำให้การส่งออกสินค้าไปสู่ประเทศในแถบยุโรปง่ายยิ่งขึ้นด้วย ถือเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันให้กับประเทศไทย” นายสนธิรัตน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย