ประกาศทวงคืน 14 ล้านเสียง นำทัพเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง

อุดรธานี 20 มี.ค. – “แพทองธาร” ประกาศทวงคืน 14 ล้านเสียง นำทัพเพื่อไทยชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ตั้งเป้าเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ขจัดระบอบเผด็จการ


ผู้สื่อข่าว รายงาน ว่าพรรคเพื่อไทยได้ระดม แกนนำพรรคและ ส.ส.ของพรรค นำโดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย จัดงาน “ครอบครัวเพื่อไทย : บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” ที่จังหวัดอุดรธานี สร้างการมีส่วนร่วมระหว่างพรรคการเมืองกับประชาชน เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความอบอุ่น ความใกล้ชิด ความผูกพัน ของพี่น้องประชาชนที่มีต่อพรรคเพื่อไทย ผ่านกระบวนการทำงานเชิงพื้นที่ของส.ส.และนโยบายของพรรคภายใต้แนวคิดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งยึดหลักการนี้มาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน จนมาถึงพรรคเพื่อไทย

โดย บนเวที มีการลำดับ ไล่เลียงเหตุการณ์ จากพรรคไทยรักไทยจนถึงพรรคเพื่อไทยเริ่มจาก นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค ได้ขึ้นมาจากเหตุการณ์ลำดับเหตุการณ์ความเป็นมาของพรรคเพื่อไทยเริ่มจากการก่อตั้งพรรคไทยรักไทยโดยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า มาจากนักธุรกิจตามนั้นซึ่งตอนนั้นสัญญาได้ฉายาอัศวินคลื่นลูกที่สามและได้ใช้ประสบการณ์ใช้ประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจในการหาเสียงให้เป็นรัฐบาลและเป็นรัฐบาลบริหารประเทศจนสร้างประวัติศาสตร์สามารถชำระสามารถชำระหนี้ไอเอ็มเอฟได้ก่อนกำหนดและสามารถงบประมาณ แบบสมดุลได้ในปี 2548 และ2549 ซึ่งถือเป็นประวัติศาตร์ของประเทศไทย ที่ยังไม่มีใครทำได้มาก่อน และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองเช่นกันที่รัฐบาลสามารถอยู่ได้ครบเทอมสี่ปีจนเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งที่สองพรรคไทยรักไทยก็ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายเช่นกัน


จากนั้น นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค กล่าวถึงการถูกทำลายความบ้านของพรรคเพื่อไทยเริ่มจากการปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 ซึ่งเป็นการปฏิวัติครั้งแรกในรอบ 15 ปี แต่อุดมการของความเป็นของความเป็นพรรคไทยรักไทยยังคงอยู่จึงยังมีการก่อตั้งพรรคพลังประชาชน โดยมีนายสมัครสุนทรรวทเป็นหัวหน้าพรรคเป็นหัวหน้าพรรคซึ่งก็ยังซึ่งก็ยังคงประสบความสำเร็จประสบความสำเร็จและถือว่าชนะการเลือกตั้งต่อเนื่องเป็นครั้งที่สามด้วยจำนวนที่นั่ง 233 ที่นั่งขาดเพียง 18 ที่นั่งเปิดกลุ่มหนึ่งก็จะมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งในสภาผู้แทนราษฎรในสภาผู้แทนราษฎร ทำให้นโยบายต่างๆถูกสานต่อเนื่องเช่น 30 บาทรักษาทุกโรค เอสเอ็มอี และกองทุนหมู่บ้าน แต่ในที่สุดพรรคพลังประชาชนก็ถูกยุบอีกครั้ง ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าถูกทำลายความหวังจึงไม่อาจรับได้กับรัฐบาลที่ไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน จึงมีคนเสื้อแดงเกิดขึ้นและมีการประท้วงรัฐบาลที่ไม่เป็นที่ยอมรับ จนมีเกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่ต้องจดจำคือการปราบคนเสื้อแดงอย่างอำมหิตใจกลางเมือง

ขณะที่ นานแพทย์ชลน่าน ทุกคนต้องมีความหวัง สร้างอนาคตให้ลูกหลานกับบ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม ซึ่งเราไม่สามารถสร้างอนาคตให้กับลูกหลานได้ ถึงแม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะได้รับชัยชนะ แต่เราถูกแย่งอำนาจที่ประชาชนมอบให้เรา ด้วยการเขียนรัฐธรรมนูญ เอาเปรียบเพื่อจงใจปิดกั้นและทำลายเรา เป็นรัฐธรรมนูญที่กำจัดเพื่อไทยโดยเฉพาะ โดยอ้างเหตุผลเพียงว่าคะแนนทุกคะแนนจะต้องไม่ตกน้ำ ปล่นอำนาจเรายังไม่พอ เข้ามาบริหารประเทศ สร้างวิกฤติ สร้างความทุกข์ยาก พวกเราจนจริง เจ็บจริง ตายจริง และจะไม่เหลืออะไรอีกแล้ว แต่อย่างไร ก็ ตามหัวใจดวงเดิมของไทยรักไทย ยังคงอยู่ และ วันนี้ มี DNA ของคนที่ ต้องการทำเพื่อประชาชน นั่นก็คือ นางสาวแพทองธาร

จากนั้นนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวที “ครอบครัวเพื่อไทย : บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” ที่จังหวัดอุดรธานี ขอบคุณหัวหน้าเพื่อไทยที่มอบตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยให้หลายเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อย้อนดูแล้วก็ทำให้น้ำตาจะไหล ขณะนั้นยังไม่มีส่วนร่วมในพรรคการเมืองก็สัมผัสได้ว่าเส้นทางกลางเนืองเป็นเส้นทางที่ไม่ง่ายมีอุปสรรคมากมายเต็มไปหมด แม้ไม่ได้เข้ามาการเมืองก็ได้รับผลกระทบโดยตรง


วันนี้พรรคเพื่อไทยฝ่าฟันอุปสรรคมามากมายระหว่างทางมีคนตกหล่นหายไปบ้าง เพื่อไปหาบ้านใหม่ที่รู้สึกว่าอาจจะปลอดภัยกว่าหรือบางคนอาจจะทนบาดแผลความเจ็บปวดไม่ไหว แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังพร้อมจะต่อสู้ไปด้วยกัน ตนเองขอบคุณทุกคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้

ตลอด 23 ปี บนเส้นทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยประสบการณ์ถือเป็นต้นทุนสำคัญที่สุดที่มีและขอพูดด้วยความภาคภูมิใจว่ามีประสบการณ์มากกว่าพรรคการเมืองอื่นเพราะเคยเป็นรัฐบาลที่ผลิตนโยบายที่สามารถทำให้สำเร็จได้เป็นพรรคการเมืองที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลเพียงพรรคเดียวและสามารถอยู่ครบวาระได้และหลังจากครบวาระก็ยังสามารถได้รับชัยชนะอีกแต่ก็ยอมรับว่ามีข้อผิดพลาดบ้าง ถือเป็นประสบการณ์ให้เรียนรู้และปรับปรุงเพื่อทำให้ปัจจุบันและอนาคตดีกว่าที่ผ่านมา

ถึงเวลาแล้วที่พรรคเพื่อไทยจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับตัวให้ทันกับความต้องการของประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไป และทำให้ดีกว่าเดิมจะไม่มีทางลืมประชาชนรากหญ้าที่สนับสนุนมาตั้งแต่ไทยรักไทยจนถึงวันนี้ยังตระหนักถึงความทุกข์ความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชนเสมอ
ตอนนี้ฤดูกาลของต้นไม้ต้นใหญ่ต้นนี้มาถึงแล้วจะต้องอยู่อย่างแข็งแกร่งและอยู่รอดเพื่อเป็นความหวังของประชาชน

พรรคเพื่อไทยมีนโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชนอีกมากมายรอเพียงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น เพราะเป้าหมายคือจะต้องชนะการเลือกตั้งเท่านั้นเพื่อทำให้ระบบเผด็จการต้องหมดไป พรรคเพื่อไทยจะต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้เพื่อผลักดันนโยบายให้ประเทศชาติเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นถ้าพรรคเพื่อไทยไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้นโยบายจะดีแค่ไหนก็ตามจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้

แต่การจะบรรลุเป้าหมายได้ต้องอาศัยการสนับสนุนจากประชาชน จึงอยากให้ประชาชนมีส่วนร่วม มาเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย จึงเป็นที่มาของโครงการครอบครัวเพื่อถ่ายบ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม และตั้งเป้าได้สมาชิกพรรค 14 เสียงคนเข้าเดิมกับที่เคยทำไว้สูงสุด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย

นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนโยกกระทรวงให้ถาม “ทักษิณ” คนพูด ปมดึง มท. มาดูเอง ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา เผยยกหูหากลางห้องประชุมแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร หากเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเดี๋ยวตนจะคุยเอง เห็นเป็นกระแสข่าวออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหวและท้อใจ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนพยายามสื่อสารในพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง ส่วนคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อสักครู่ก็นั่งอยู่ข้างๆ กันไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่ดีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ได้ประเมินอะไร เดี๋ยวก็รอดู ส่วนมีการพูดคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คุยกันทุกวัน หากถ่ายรูปมา เมื่อสักครู่ได้ตนก็คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าตอนนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี […]

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

โฆษก ทบ. ยันสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน

กองทัพบก 31 พ.ค.-โฆษก ทบ. ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน แต่ยอมรับว่า แนวทางการปิดด่านเป็นแผนส่วนหนึ่งที่หน่วยงานระดับพื้นที่อาจพิจารณาใช้ เพื่อดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณาปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบางจุดว่า ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด.-313.-สำนักข่าวไทย