อุดรธานี 20 มี.ค. – “แพทองธาร” ประกาศทวงคืน 14 ล้านเสียง นำทัพเพื่อไทยชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ตั้งเป้าเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ขจัดระบอบเผด็จการ
ผู้สื่อข่าว รายงาน ว่าพรรคเพื่อไทยได้ระดม แกนนำพรรคและ ส.ส.ของพรรค นำโดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย จัดงาน “ครอบครัวเพื่อไทย : บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” ที่จังหวัดอุดรธานี สร้างการมีส่วนร่วมระหว่างพรรคการเมืองกับประชาชน เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความอบอุ่น ความใกล้ชิด ความผูกพัน ของพี่น้องประชาชนที่มีต่อพรรคเพื่อไทย ผ่านกระบวนการทำงานเชิงพื้นที่ของส.ส.และนโยบายของพรรคภายใต้แนวคิดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งยึดหลักการนี้มาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน จนมาถึงพรรคเพื่อไทย
โดย บนเวที มีการลำดับ ไล่เลียงเหตุการณ์ จากพรรคไทยรักไทยจนถึงพรรคเพื่อไทยเริ่มจาก นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค ได้ขึ้นมาจากเหตุการณ์ลำดับเหตุการณ์ความเป็นมาของพรรคเพื่อไทยเริ่มจากการก่อตั้งพรรคไทยรักไทยโดยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า มาจากนักธุรกิจตามนั้นซึ่งตอนนั้นสัญญาได้ฉายาอัศวินคลื่นลูกที่สามและได้ใช้ประสบการณ์ใช้ประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจในการหาเสียงให้เป็นรัฐบาลและเป็นรัฐบาลบริหารประเทศจนสร้างประวัติศาสตร์สามารถชำระสามารถชำระหนี้ไอเอ็มเอฟได้ก่อนกำหนดและสามารถงบประมาณ แบบสมดุลได้ในปี 2548 และ2549 ซึ่งถือเป็นประวัติศาตร์ของประเทศไทย ที่ยังไม่มีใครทำได้มาก่อน และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองเช่นกันที่รัฐบาลสามารถอยู่ได้ครบเทอมสี่ปีจนเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งที่สองพรรคไทยรักไทยก็ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายเช่นกัน
จากนั้น นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค กล่าวถึงการถูกทำลายความบ้านของพรรคเพื่อไทยเริ่มจากการปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 ซึ่งเป็นการปฏิวัติครั้งแรกในรอบ 15 ปี แต่อุดมการของความเป็นของความเป็นพรรคไทยรักไทยยังคงอยู่จึงยังมีการก่อตั้งพรรคพลังประชาชน โดยมีนายสมัครสุนทรรวทเป็นหัวหน้าพรรคเป็นหัวหน้าพรรคซึ่งก็ยังซึ่งก็ยังคงประสบความสำเร็จประสบความสำเร็จและถือว่าชนะการเลือกตั้งต่อเนื่องเป็นครั้งที่สามด้วยจำนวนที่นั่ง 233 ที่นั่งขาดเพียง 18 ที่นั่งเปิดกลุ่มหนึ่งก็จะมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งในสภาผู้แทนราษฎรในสภาผู้แทนราษฎร ทำให้นโยบายต่างๆถูกสานต่อเนื่องเช่น 30 บาทรักษาทุกโรค เอสเอ็มอี และกองทุนหมู่บ้าน แต่ในที่สุดพรรคพลังประชาชนก็ถูกยุบอีกครั้ง ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าถูกทำลายความหวังจึงไม่อาจรับได้กับรัฐบาลที่ไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน จึงมีคนเสื้อแดงเกิดขึ้นและมีการประท้วงรัฐบาลที่ไม่เป็นที่ยอมรับ จนมีเกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่ต้องจดจำคือการปราบคนเสื้อแดงอย่างอำมหิตใจกลางเมือง
ขณะที่ นานแพทย์ชลน่าน ทุกคนต้องมีความหวัง สร้างอนาคตให้ลูกหลานกับบ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม ซึ่งเราไม่สามารถสร้างอนาคตให้กับลูกหลานได้ ถึงแม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะได้รับชัยชนะ แต่เราถูกแย่งอำนาจที่ประชาชนมอบให้เรา ด้วยการเขียนรัฐธรรมนูญ เอาเปรียบเพื่อจงใจปิดกั้นและทำลายเรา เป็นรัฐธรรมนูญที่กำจัดเพื่อไทยโดยเฉพาะ โดยอ้างเหตุผลเพียงว่าคะแนนทุกคะแนนจะต้องไม่ตกน้ำ ปล่นอำนาจเรายังไม่พอ เข้ามาบริหารประเทศ สร้างวิกฤติ สร้างความทุกข์ยาก พวกเราจนจริง เจ็บจริง ตายจริง และจะไม่เหลืออะไรอีกแล้ว แต่อย่างไร ก็ ตามหัวใจดวงเดิมของไทยรักไทย ยังคงอยู่ และ วันนี้ มี DNA ของคนที่ ต้องการทำเพื่อประชาชน นั่นก็คือ นางสาวแพทองธาร
จากนั้นนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวที “ครอบครัวเพื่อไทย : บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” ที่จังหวัดอุดรธานี ขอบคุณหัวหน้าเพื่อไทยที่มอบตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยให้หลายเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อย้อนดูแล้วก็ทำให้น้ำตาจะไหล ขณะนั้นยังไม่มีส่วนร่วมในพรรคการเมืองก็สัมผัสได้ว่าเส้นทางกลางเนืองเป็นเส้นทางที่ไม่ง่ายมีอุปสรรคมากมายเต็มไปหมด แม้ไม่ได้เข้ามาการเมืองก็ได้รับผลกระทบโดยตรง
วันนี้พรรคเพื่อไทยฝ่าฟันอุปสรรคมามากมายระหว่างทางมีคนตกหล่นหายไปบ้าง เพื่อไปหาบ้านใหม่ที่รู้สึกว่าอาจจะปลอดภัยกว่าหรือบางคนอาจจะทนบาดแผลความเจ็บปวดไม่ไหว แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังพร้อมจะต่อสู้ไปด้วยกัน ตนเองขอบคุณทุกคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้
ตลอด 23 ปี บนเส้นทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยประสบการณ์ถือเป็นต้นทุนสำคัญที่สุดที่มีและขอพูดด้วยความภาคภูมิใจว่ามีประสบการณ์มากกว่าพรรคการเมืองอื่นเพราะเคยเป็นรัฐบาลที่ผลิตนโยบายที่สามารถทำให้สำเร็จได้เป็นพรรคการเมืองที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลเพียงพรรคเดียวและสามารถอยู่ครบวาระได้และหลังจากครบวาระก็ยังสามารถได้รับชัยชนะอีกแต่ก็ยอมรับว่ามีข้อผิดพลาดบ้าง ถือเป็นประสบการณ์ให้เรียนรู้และปรับปรุงเพื่อทำให้ปัจจุบันและอนาคตดีกว่าที่ผ่านมา
ถึงเวลาแล้วที่พรรคเพื่อไทยจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับตัวให้ทันกับความต้องการของประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไป และทำให้ดีกว่าเดิมจะไม่มีทางลืมประชาชนรากหญ้าที่สนับสนุนมาตั้งแต่ไทยรักไทยจนถึงวันนี้ยังตระหนักถึงความทุกข์ความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชนเสมอ
ตอนนี้ฤดูกาลของต้นไม้ต้นใหญ่ต้นนี้มาถึงแล้วจะต้องอยู่อย่างแข็งแกร่งและอยู่รอดเพื่อเป็นความหวังของประชาชน
พรรคเพื่อไทยมีนโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชนอีกมากมายรอเพียงเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น เพราะเป้าหมายคือจะต้องชนะการเลือกตั้งเท่านั้นเพื่อทำให้ระบบเผด็จการต้องหมดไป พรรคเพื่อไทยจะต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้เพื่อผลักดันนโยบายให้ประเทศชาติเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นถ้าพรรคเพื่อไทยไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้นโยบายจะดีแค่ไหนก็ตามจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้
แต่การจะบรรลุเป้าหมายได้ต้องอาศัยการสนับสนุนจากประชาชน จึงอยากให้ประชาชนมีส่วนร่วม มาเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย จึงเป็นที่มาของโครงการครอบครัวเพื่อถ่ายบ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม และตั้งเป้าได้สมาชิกพรรค 14 เสียงคนเข้าเดิมกับที่เคยทำไว้สูงสุด .-สำนักข่าวไทย