ส.ส.ชาติไทยพัฒนา หารือ TDRI แลกเปลี่ยนความเห็นเชิงนโยบาย

กรุงเทพฯ 17 มี.ค. – “กัญจนา-วราวุธ” นำทีม ส.ส.ชาติไทยพัฒนา หารือ TDRI แลกเปลี่ยนความเห็นเชิงนโยบาย พร้อมรับศึกเลือกตั้งครั้งหน้า


นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วยนายนิกร จำนง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ นายอนุรักษ์ จุรีมาศ ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 1 นายแพทย์อุดมศักดิ์ ศรีสุทิวา รองเลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา นายปรเมศวร์ กุมารบุญ กรรมการบริหารพรรค นางสาวอรุณี ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ นายสัมพันธ์ แป้นพัฒน์ คณะกรรมการและสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา เข้าร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงนโยบาย ร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) โดยมีนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เข้าร่วม เช่น ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันทีดีอาร์ไอ ดร.วิศาล บุปผเวศ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญนโยบายการค้าระหว่างประเทศ ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ นโยบายเกษตรสมัยใหม่ ดร.กรรณิการ์ ธรรมพานิชวงค์ นักวิชาการอาวุโส นโยบายด้านภูมิอากาศและการพัฒนาสีเขียว และคุณพงศ์ทัศ วนิชานันท์ นักวิจัยอาวุโส นโยบายด้านการปฏิรูปการศึกษา

ดร.กรรณิการ์ ธรรมพานิชวงค์ นักวิชาการอาวุโส นโยบายด้านภูมิอากาศและการพัฒนาสีเขียว ได้ตั้งข้อสังเกตว่าด้วยทิศทางของนานาประเทศที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน โดยมีมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศขึ้นมาบังคับใช้กับสินค้า นำเข้า-ส่งออก เช่น สหภาพ ที่ผลักดันมาตรการ CBAM หรือการควบคุมคาร์บอนฟุตปรินท์ในสินค้าที่จะส่งออกไปยังสหภาพยุโรป จะต้องมีคาร์บอนฟุตปรินท์ไม่เกินมาตรฐานที่กำหนด ตรงนี้จะเป็นปัจจัยภายนอกประเทศที่จะบีบบังคับให้ภาคเอกชนต้องปรับตัวและเริ่มลงทุนในเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมในกระบวนการผลิตของตน


ทั้งนี้ ดร.กรรณิการ์ ให้ความเห็นว่า แรงบีบบังคับจากนอกประเทศอาจไม่เพียงพอ รัฐเองจำเป็นต้องผลักดันกฎหมายและมาตรการบางอย่างออกมารองรับ เช่น การจัดเก็บภาษีคาร์บอนให้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อให้การดำเนินนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นรูปเป็นร่างและสัมฤทธิ์ผลได้จริง

ด้านนายวราวุธ กล่าวว่า ข้อเสนอของทาง TDRI สอดคล้องกับนโยบาย เศรษฐกิจสีเขียว ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำลังดำเนินนโยบายอยู่ และกำลังเร่งผลักดันเพื่อพัฒนาข้อกฎหมายในหลายๆ ด้าน ให้สามารถขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่การรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น การเร่งผลักดันการจัดตั้งตลาดซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิต เพื่อนำมาใช้ควบคุมปริมาณคาร์บอนฟุตปรินท์ในภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม และคมนาคม โดยตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าคาร์บอนเครดิตในภูมิภาคอาเซียน ควบคู่ไปกับนโยบายส่งเสริมการอนุรักษ์และขยายพื้นที่ป่า ผ่านโครงการต่างๆ เช่น การจัดตั้งป่าชุมชนกว่า 10,000 แห่ง การจัดสรรที่ทำกินผ่านนโยบาย คทช. ที่ให้สิทธิทำกินแก่ประชาชนภายใต้เงื่อนไขการปลูกป่าและรักษาผืนป่าใกล้ผืนที่ดินทำกิน

ทั้งนี้ นายวราวุธตั้งข้อสังเกตว่าการผลักดันข้อกฎหมายต่างๆ ต้องคำนึงถึงผลกระทบและแรงต้านทานจากภาคส่วนธุรกิจที่อาจเกิดขึ้น แต่อย่างไรในท้ายที่สุดประเทศไทยก็จำเป็นจะต้องเดินไปข้างหน้าตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่การรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่อาจหนีพ้น จึงเป็นความท้าทายที่สำคัญของภาครัฐที่จะทำให้ทุกภาคส่วนทั้งประชาชน และเอกชน เห็นตรงกันให้ได้ว่าการรักษาสิ่งแวดล้อมไม่ใช่ภาระ แต่เป็นโอกาสทางเศรษฐกิจที่จะสร้างมูลค่าและรายได้อย่างยั่งยืนได้ในอนาคต เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่จะจ่าย


นายวราวุธ ยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสถานการณ์ปัจจุบันด้านการเกษตรในประเทศไทย กับ ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ นโยบายเกษตรสมัยใหม่ ปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหาด้านขีดความสามารถในการแข่งขันสินค้าเกษตรที่ลดลง ที่เกิดจากทั้งภาวะโลกร้อน และการขาดเทคโนโลยีการเกษตรที่ทันสมัย มีการคาดการณ์ว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า อายุเฉลี่ยของเกษตรกรไทยจะเพิ่มขึ้นจาก 55 ปี เป็น 65 ปี สะท้อนให้เห็นว่ามูลค่าตลาดด้านการเกษตรกำลังหดตัวลง ไม่สามารถจูงใจคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาอยู่ในตลาดได้

นายวราวุธ กล่าวว่า จากการเดินทางไปร่วมประชุม COP ตนได้เจรจากับนานาประเทศเพื่อขอรับการสนับสนุนด้านเงินทุนและเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม มาปรับใช้ในระบบการเกษตร ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยได้รับความช่วยเหลือทางด้านเทคโนโลยีและเงินทุนสิ่งแวดล้อมจากอังกฤษและเยอรมนี ในการเข้ามาถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกร เช่น ที่สุพรรณบุรี มีการทำแปลงทดลองปลูกข้าวด้วยองค์ความรู้เปียกสลับแห้ง ที่ทำให้ใช้น้ำในกระบวนการปลูกน้อยลง และสร้างก๊าซมีเทนน้อยกว่าการปลูกแบบเดิมที่ชาวนาไทยทำอยู่ ผสมกับการใช้เทคโนโลยีแอปพลิเคชันที่มีระบบ AI ประมวลผลการเติบโตของข้าว ร่วมกับข้อมูลพยากรณ์อากาศที่แม่นยำขึ้น เพื่อค้นหาวิธีเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้มากขึ้น ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ของเกษตรกร เพื่อจูงใจและสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ที่เป็น Young Smart Farmer ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาให้ความสำคัญกับการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรไทยเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นกลุ่มอาชีพที่เป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจประเทศ

นอกจากนี้ยังมีการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา ปัญหาสังคม เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การเงิน การลงทุน การค้าระหว่างประเทศ รวมถึงแผนฟื้นฟูประเทศหลังวิกฤติโควิด-19 ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนา และ TDRI จะแลกเปลี่ยนข้อมูลและให้ความร่วมมือด้านการวิจัย และเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็น เพื่อนำไปต่อยอดขับเคลื่อนในเชิงนโยบายเพื่อให้สามารถปฏิบัติได้จริงต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย-ใต้ตอนบน ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยภาคใต้ตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยในภาคอีสาน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว