ส.ส.ชาติไทยพัฒนา หารือ TDRI แลกเปลี่ยนความเห็นเชิงนโยบาย

กรุงเทพฯ 17 มี.ค. – “กัญจนา-วราวุธ” นำทีม ส.ส.ชาติไทยพัฒนา หารือ TDRI แลกเปลี่ยนความเห็นเชิงนโยบาย พร้อมรับศึกเลือกตั้งครั้งหน้า


นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วยนายนิกร จำนง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ นายอนุรักษ์ จุรีมาศ ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 1 นายแพทย์อุดมศักดิ์ ศรีสุทิวา รองเลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา นายปรเมศวร์ กุมารบุญ กรรมการบริหารพรรค นางสาวอรุณี ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ นายสัมพันธ์ แป้นพัฒน์ คณะกรรมการและสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา เข้าร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงนโยบาย ร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) โดยมีนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เข้าร่วม เช่น ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันทีดีอาร์ไอ ดร.วิศาล บุปผเวศ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญนโยบายการค้าระหว่างประเทศ ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ นโยบายเกษตรสมัยใหม่ ดร.กรรณิการ์ ธรรมพานิชวงค์ นักวิชาการอาวุโส นโยบายด้านภูมิอากาศและการพัฒนาสีเขียว และคุณพงศ์ทัศ วนิชานันท์ นักวิจัยอาวุโส นโยบายด้านการปฏิรูปการศึกษา

ดร.กรรณิการ์ ธรรมพานิชวงค์ นักวิชาการอาวุโส นโยบายด้านภูมิอากาศและการพัฒนาสีเขียว ได้ตั้งข้อสังเกตว่าด้วยทิศทางของนานาประเทศที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน โดยมีมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศขึ้นมาบังคับใช้กับสินค้า นำเข้า-ส่งออก เช่น สหภาพ ที่ผลักดันมาตรการ CBAM หรือการควบคุมคาร์บอนฟุตปรินท์ในสินค้าที่จะส่งออกไปยังสหภาพยุโรป จะต้องมีคาร์บอนฟุตปรินท์ไม่เกินมาตรฐานที่กำหนด ตรงนี้จะเป็นปัจจัยภายนอกประเทศที่จะบีบบังคับให้ภาคเอกชนต้องปรับตัวและเริ่มลงทุนในเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมในกระบวนการผลิตของตน


ทั้งนี้ ดร.กรรณิการ์ ให้ความเห็นว่า แรงบีบบังคับจากนอกประเทศอาจไม่เพียงพอ รัฐเองจำเป็นต้องผลักดันกฎหมายและมาตรการบางอย่างออกมารองรับ เช่น การจัดเก็บภาษีคาร์บอนให้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อให้การดำเนินนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นรูปเป็นร่างและสัมฤทธิ์ผลได้จริง

ด้านนายวราวุธ กล่าวว่า ข้อเสนอของทาง TDRI สอดคล้องกับนโยบาย เศรษฐกิจสีเขียว ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำลังดำเนินนโยบายอยู่ และกำลังเร่งผลักดันเพื่อพัฒนาข้อกฎหมายในหลายๆ ด้าน ให้สามารถขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่การรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น การเร่งผลักดันการจัดตั้งตลาดซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิต เพื่อนำมาใช้ควบคุมปริมาณคาร์บอนฟุตปรินท์ในภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม และคมนาคม โดยตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าคาร์บอนเครดิตในภูมิภาคอาเซียน ควบคู่ไปกับนโยบายส่งเสริมการอนุรักษ์และขยายพื้นที่ป่า ผ่านโครงการต่างๆ เช่น การจัดตั้งป่าชุมชนกว่า 10,000 แห่ง การจัดสรรที่ทำกินผ่านนโยบาย คทช. ที่ให้สิทธิทำกินแก่ประชาชนภายใต้เงื่อนไขการปลูกป่าและรักษาผืนป่าใกล้ผืนที่ดินทำกิน

ทั้งนี้ นายวราวุธตั้งข้อสังเกตว่าการผลักดันข้อกฎหมายต่างๆ ต้องคำนึงถึงผลกระทบและแรงต้านทานจากภาคส่วนธุรกิจที่อาจเกิดขึ้น แต่อย่างไรในท้ายที่สุดประเทศไทยก็จำเป็นจะต้องเดินไปข้างหน้าตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่การรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่อาจหนีพ้น จึงเป็นความท้าทายที่สำคัญของภาครัฐที่จะทำให้ทุกภาคส่วนทั้งประชาชน และเอกชน เห็นตรงกันให้ได้ว่าการรักษาสิ่งแวดล้อมไม่ใช่ภาระ แต่เป็นโอกาสทางเศรษฐกิจที่จะสร้างมูลค่าและรายได้อย่างยั่งยืนได้ในอนาคต เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่จะจ่าย


นายวราวุธ ยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสถานการณ์ปัจจุบันด้านการเกษตรในประเทศไทย กับ ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ นโยบายเกษตรสมัยใหม่ ปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหาด้านขีดความสามารถในการแข่งขันสินค้าเกษตรที่ลดลง ที่เกิดจากทั้งภาวะโลกร้อน และการขาดเทคโนโลยีการเกษตรที่ทันสมัย มีการคาดการณ์ว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า อายุเฉลี่ยของเกษตรกรไทยจะเพิ่มขึ้นจาก 55 ปี เป็น 65 ปี สะท้อนให้เห็นว่ามูลค่าตลาดด้านการเกษตรกำลังหดตัวลง ไม่สามารถจูงใจคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาอยู่ในตลาดได้

นายวราวุธ กล่าวว่า จากการเดินทางไปร่วมประชุม COP ตนได้เจรจากับนานาประเทศเพื่อขอรับการสนับสนุนด้านเงินทุนและเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม มาปรับใช้ในระบบการเกษตร ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยได้รับความช่วยเหลือทางด้านเทคโนโลยีและเงินทุนสิ่งแวดล้อมจากอังกฤษและเยอรมนี ในการเข้ามาถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกร เช่น ที่สุพรรณบุรี มีการทำแปลงทดลองปลูกข้าวด้วยองค์ความรู้เปียกสลับแห้ง ที่ทำให้ใช้น้ำในกระบวนการปลูกน้อยลง และสร้างก๊าซมีเทนน้อยกว่าการปลูกแบบเดิมที่ชาวนาไทยทำอยู่ ผสมกับการใช้เทคโนโลยีแอปพลิเคชันที่มีระบบ AI ประมวลผลการเติบโตของข้าว ร่วมกับข้อมูลพยากรณ์อากาศที่แม่นยำขึ้น เพื่อค้นหาวิธีเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้มากขึ้น ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ของเกษตรกร เพื่อจูงใจและสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ที่เป็น Young Smart Farmer ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาให้ความสำคัญกับการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรไทยเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นกลุ่มอาชีพที่เป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจประเทศ

นอกจากนี้ยังมีการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา ปัญหาสังคม เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การเงิน การลงทุน การค้าระหว่างประเทศ รวมถึงแผนฟื้นฟูประเทศหลังวิกฤติโควิด-19 ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนา และ TDRI จะแลกเปลี่ยนข้อมูลและให้ความร่วมมือด้านการวิจัย และเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็น เพื่อนำไปต่อยอดขับเคลื่อนในเชิงนโยบายเพื่อให้สามารถปฏิบัติได้จริงต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน สูญเสียขาอีก 1 นาย

12 ส.ค.- ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิด ขณะลาดตระเวนพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม หลังรั้วลวดหนามฝั่งไทย คาดทหารเขมรล่าถอยแล้วฝังทุ่นระเบิดไว้ เมื่อเวลา 09.10 น. รายงานข่าวจากกองทัพพื้นที่สองเปิดเผยว่า ได้เกิดเหตุทหารพราน 2610 เหยียบกับระเบิดขณะทำการลาดตระเวนบริเวณฐานจุ๊บตาโมก ฝั่งตะวันตกของปราสาทตาเมือนธม ซึ่งอยู่ในแนวรั้วลวดหนามของฝั่งประเทศไทย บริเวณพิกัด R51 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ทราบชื่อ ส.อ.ธีรพล เพียขันที กรุ๊ปเลือด AB ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด ขณะนี้กำลังนำส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากเหตุปะทะกันทางทหารกัมพูชาได้ล่าถอยและฝั่งทุ่นระเบิดไว้ก่อนออกนอกพื้นที่เขตประเทศไทย -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ปัดตอบกระแสข่าวชิงลาออก บอกสื่อ “คิดถึงนะคะ”

สนามหลวง 12 ส.ค.- “แพทองธาร” ยิ้ม ปัดตอบกระแสข่าวชิงลาออก ก่อนศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน บอกสื่อฯ “คิดถึงนะคะ” ภายหลังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมคู่สมรส ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 ส.ค.2568 ณ ท้องสนามหลวง ทันทีที่พบผู้สื่อข่าว นางสาวแพทองธาร หันมาพูดเพียงสั้น ๆ ว่า “คิดถึงนะ” ผู้สื่อข่าวจึงพยายามสอบถามเรื่องกระแสข่าวการลาออกจากตำแหน่ง ก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสิน คดีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งนางสาวแพทองธาร ยิ้มและไม่ตอบคำถาม ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ หรือสุดท้ายจะอยู่ รวมถึงขอให้ยืนยันว่าจะลาออกหรือไม่ ซึ่งนางสาวแพทองธาร ไม่ได้ตอบคำถาม และเดินทางขึ้นรถทันที.-315 -สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” นำทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันแม่แห่งชาติ

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา “พระพันปีหลวง” 12 สิงหาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานองคมนตรีและภริยา คณะองคมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หน่วยราชการในพระองค์ คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพและภริยา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและภริยา ปลัดกระทรวงทุกกระทรวง และผู้แทนภาคเอกชน ร่วมพิธี โดยเมื่อนายภูมิธรรม เดินทางถึงปะรำพิธีท้องสนามหลวง สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ขึ้นนั่งอาสน์สงฆ์ นายภูมิธรรม จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ถวายคำนับและถวายธูปเทียนแพหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน […]

เตือนทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง ‘ตะวันออก’ หนักสุด

กทม. 12 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง เตือนภาคตะวันออกรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “โพดุล” (PODUL) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน และเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณด้านตะวันออกของประเทศจีนในช่วงวันที่ 13 – 14 ส.ค. โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย